โฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลเร่งพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อประชาชน เดินหน้าโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร มุ่งยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
วันนี้ (6 พ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม ในการแก้ปัญหาสิ่งรุกล้ำลำคลอง ทำให้การระบายน้ำในคลองมีประสิทธิภาพ และช่วยป้องกันน้ำท่วม รวมทั้งการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคงในระยะยาว โดยสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันในสังคม สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ ตลอดจนสร้างความมั่นคงทางด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน
นายอนุชา กล่าวว่า ล่าสุด กับความก้าวหน้าของการดำเนินงานพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร โดยใช้รูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคง ลักษณะเดียวกันกับการดำเนินโครงการที่คลองลาดพร้าว ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายการดำเนินการ 38 ชุมชน 4 พื้นที่ ได้แก่ ดอนเมือง หลักสี่ จตุจักร (32 ชุมชน) และพื้นที่เทศบาลตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี (6 หมู่บ้าน) จำนวน 6,386 ครัวเรือน ระยะความยาวคลองประมาณ 17 กิโลเมตร จากความยาวทั้งหมด 50.8 กิโลเมตร ทั้งนี้ การรับรองสิทธิ์ รวม 6,340 ครัวเรือน (จตุจักร 5 ชุมชน 621 ครัวเรือน หลักสี่ 13 ชุมชน 2,248 ครัวเรือน ดอนเมือง 14 ชุมชน 2,542 ครัวเรือน และ ต.หลักหก จ.ปทุมธานี 6 หมู่บ้าน 929 ครัวเรือน) ยังรับรองสิทธิไม่ครบทุกชุมชน โดยขณะนี้ (ณ 31 ต.ค. 65) มีพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้จำนวน 10 ชุมชน (8 โครงการ 1,007 ครัวเรือน) คิดเป็นร้อยละ 15.77 ของครัวเรือนทั้งหมด แบ่งเป็น
(1) สร้างเสร็จ 634 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 9.93 ของครัวเรือนทั้งหมด (จตุจักร 356 ครัวเรือน หลักสี่ 88 ครัวเรือน และ ต.หลักหก จ.ปทุมธานี 190 ครัวเรือน)
(2) กำลังก่อสร้าง 352 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 5.51 ของครัวเรือนทั้งหมด (จตุจักร 133 ครัวเรือน หลักสี่ 71 ครัวเรือน ดอนเมือง 120 ครัวเรือน และ ต.หลักหก จ.ปทุมธานี 28 ครัวเรือน)
และ (3) พื้นที่พร้อมก่อสร้าง 21 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 0.33 ของครัวเรือนทั้งหมด (หลักสี่ 7 ครัวเรือน และดอนเมือง 14 ครัวเรือน)
โดย พอช. มีแผนดำเนินงานต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566 รวม 17 ชุมชน ซึ่งหากดำเนินการได้ตามแผนงานจะสามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนริมคลองเปรมประชากรได้ไม่น้อยกว่า 2,500 ครัวเรือน
ทั้งนี้ การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตามแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลอง และการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 โดยมีกรอบแนวคิดในการดำเนินงาน 4 ด้าน คือ (1) ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมของเมือง อาทิ การสร้างเขื่อนริมคลองและระบบรวบรวมน้ำเสีย (2) ด้านการพัฒนาชุมชนริมคลอง ซึ่งมีเป้าหมายที่การพัฒนาที่อยู่อาศัยของทุกครัวเรือนที่อยู่ริมคลอง (3) ด้านการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน (4) ด้านกฎหมายและการขับเคลื่อนงาน โดยเป็นการรื้อย้ายบ้านเดิมและสร้างบ้านมั่นคงใหม่ พร้อมกับการก่อสร้างเขื่อนของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ คาดว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จตามแผน ประชาชนริมคลองตลอดระยะทาง 17 กิโลเมตร จะมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง มีบ้านที่สวยงาม สภาพแวดล้อมที่ดี และมีคลองที่สามารถระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงการบริการสาธารณะได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อระบบรถ ราง เรือ เปลี่ยนจากชุมชนริมคลองเดิมที่สภาพไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัย พัฒนามาเป็นชุมชนที่เข้มแข็งสังคมที่น่าอยู่ ซึ่งโครงการนี้เป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน ทั้งในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ซึ่งสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนริมคลองเพื่อให้ชุมชนมีอาชีพรองรับที่มั่นคง เปลี่ยนจากผู้ที่บุกรุกเป็นผู้อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถเป็นต้นแบบการพัฒนาให้กับชุมชนอื่นๆ ริมคลองต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลมีแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) โดยมอบหมายให้หน่วยงานในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับผิดชอบประมาณ 3 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็น 1) การเคหะแห่งชาติ จัดทำที่อยู่อาศัยในลักษณะเช่า-ซื้อ ให้แก่ประชาชนทั่วไปประมาณ 2 ล้านครัวเรือน 2) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ จัดทำแผนงานรองรับที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ เช่น โครงการบ้านมั่นคงเมืองและชนบท บ้านพอเพียง ที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร และคนไร้บ้าน ประมาณ 1 ล้านครัวเรือน