“ศรีสุวรรณ” เดินหน้าฟ้องศาลปกครองสูงสุด สั่งระงับร่างกฎหมายต่างชาติถือครองที่ดิน จี้ใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบด้วย กม.เป็นมติอัปยศ ยกทฤษฎีกบต้ม กว่าจะรู้ว่าทำประเทศเสียหายก็สายเสียแล้ว
วันนี้ (3 พ.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นฟ้องคณะรัฐมนตรีต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนกฎหรือคำสั่งหรือสั่งห้ามการนำร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทยพ.ศ..ไปใช้และขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามกฎโดยสั่งชะลอหรือระงับการดำเนินการใดๆ ตามกฎหรือมติดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มติ ครม.ที่เห็นชอบร่างกฎกระทรวงดังกล่าวตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65 ถือเป็นมติอัปยศที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไร้ความสามารถที่จะแสวงหารายได้เข้าแผ่นดิน เป็นการไม่คำนึงว่าการให้ชาวต่างชาติมายึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอย่างถาวรนั้นจะกระทบกับคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศในระยะยาว ที่รัฐบาลอ้างว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนจึงเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะกลุ่มทุนที่เป็นแลนด์ลอร์ดในขณะนี้ที่ถือครองที่ดินไว้มากกว่า 80% นั้น ปัจจุบันคนยากจนยังต้องถูกไล่รื้อบ้านเรือน ออกจากพื้นที่ดินของรัฐ เช่น ชาวริมคลองแล้วบังคับให้ประชาชนไปเป็นหนี้ผ่านโครงการบ้านมั่นคง จึงเห็นว่า ปัญหาดังกล่าว ครม.ยังขาดเงื่อนไขการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะปัญหาสังคมที่จะตามมา รวมทั้งเงื่อนไขที่กำหนดยังไม่ตอบโจทย์ข้อวิตกกังวลของประชาชนได้เปรียบทฤษฎีกบต้ม ที่กว่าจะรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว มติดังกล่าวจึงเป็นการใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 178 มาตรา 77 ประกอบมาตรา 25 มาตรา 26 ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม จึงต้องมายื่นฟ้องต่อต่อศาลปกครองสูงสุดให้มีคำพิพากษาดังกล่าว