xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์ เจียม” EXCLUSIVE “ธรรมนัส” แอบไป “ดูไบ” ไม่เกี่ยว “แม้ว”? “เพจดัง” แซว “ทักษิณ” ซื้ออังกฤษแล้ว รู้ยัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับข่าว EXCLUSIVE แอบไปดูไบ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul
 จริงหรือ? “สมศักดิ์ เจียม” EXCLUSIVE “ธรรมนัส” แอบไปดูไบ ไม่ได้ไปพบ นายใหญ่? เพจดัง แซว ทักษิณซื้ออังกฤษไปแล้ว รู้ยัง พร้อมแชร์ข่าว เปิดพิกัดคฤหาสน์หรู 200 ล. “ชินวัตร” ในลอนดอน “โต้ 3 นิ้ว” ปมขายชาติ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (31 ต.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหา ม.112 ลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์ภาพ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งนำมาจากเฟซบุีกของ Andrew MacGregor Marshal อดีตนักข่าวชาวสกอตแลนด์ พร้อมข้อความระบุว่า

“EXCLUSIVE ธรรมนัส พรหมเผ่า แอบไปดูไบ
โอ๊ยเปล่าครับเปล่า เขาไม่ได้ไปดูไบพบทักษิณ เขาไปดูไบดูลาดเลาบอลโลกล่วงหน้าครับ อิอิ”

ทั้งนี้ ข้อความในเฟซบุ๊กของ Andrew MacGregor Marshal ระบุว่า อดีตรัฐมนตรีพ่อค้ายาเสพติดเจ้าของปริญญาเอกปลอม ธรรมนัส พรหมเผ่า บินจากกรุงเทพฯ ไปดูไบ วันนี้ ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK375 นี่คือภาพของเขาที่เอมิเรตส์ เลาจน์ สนามบินสุวรรณภูมิ จุดประสงค์การเดินทางของเขาไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่พวกเราทุกคนรู้ว่าใครอยู่ดูไบ

ภาพ พิกัดคฤหาสน์ 200 ล.ของ “ชินวัตร” ในลอนดอน ถูกแซว “อังกฤษขายชาติ” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากอมรินทร์ทีวี
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ ข่าว “เปิดพิกัด คฤหาสน์หรู 200 ล้านบาทในลอนดอน ที่พักอีกแห่งของตระกูล “ชินวัตร” (29 ส.ค. 60) พร้อมข้อความระบุว่า

“ทักษิณซื้ออังกฤษไปแล้ว รู้ยัง
#อังกฤษขายชาติ”

ทั้งนี้ ข่าวที่แชร์ระบุว่า หลังจากทีมข่าวอมรินทร์ทีวี พาไปดูโครงการ “เอมิเรตส์ ฮิลส์” ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทักษิณ ชินวัตร ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งคาดว่าตอนนี้เป็นที่พักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว

วันนี้จะพาไปดูอีกจุดหนึ่งที่ถูกคาดหมายว่าเป็นที่พักของเธอในอนาคต โดยสถานที่ดังกล่าวอยู่ในเมืองเวย์บริดจ์ ในเขต “เซอร์เรย์” พื้นที่ตอนใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งจากข้อมูล นายทักษิณ มีคฤหาสน์อยู่หลังหนึ่ง อยู่ในโครงการหรูชื่อว่า “เซนต์ จอร์จ ฮิลล์” ด้านในเป็นที่พักของมหาเศรษฐีและบุคคลสำคัญมากมาย มีทั้งสนามเทนนิสและสนามกอล์ฟ ซึ่งไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไป รายงานข่าวระบุว่า คฤหาสน์ของนายทักษิณ อยู่บนถนนอีสต์โรด ซึ่งเป็นถนนรอบสนามเทนนิส ถ้าดูจากภาพถ่ายดาวเทียม บนถนนสายนี้ก็มีบ้านอยู่ประมาณ 10 กว่าหลัง โดยหลังที่ว่ามีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ มีขนาด 2 ชั้น 5 ห้องนอน ราคาประเมินอยู่ที่ 4.5 ล้านปอนด์ คิดเป็นเงินไทยเกือบ 200 ล้านบาทนอกจากคฤหาสน์หลังนี้ ครอบครัวชินวัตรยังมีที่พักอีกหนึ่งแห่งใจกลางกรุงลอนดอน เป็นอาคารหรูบนถนนพาร์ค เลน เจ้าของอาคาร คือ นายโมฮัมหมัด อัล ฟาเยด มหาเศรษฐีชาวอียิปต์ เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ และอดีตเจ้าของทีมสโมสรฟูแล่ม เอฟซี ซึ่งเป็นเพื่อนรักของนายทักษิณ อาคารนี้อยู่ตรงข้ามสวนสาธารณะไฮด์พาร์ค และแวดล้อมไปด้วยห้างดังและร้านหรูมากมาย

ภาพ ข้อมูลโต้ 3 นิ้ว “ลุงตู่” ขายชาติจริงหรือ? ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ของนายอัษฎางค์ ยมนาค โพสต์ข้อความระบุว่า

“ลุงตู่ขายชาติ”
ผมคุยโทรศัพท์กับแม่ทุกวัน สองสามวันก่อน แม่เล่าให้ฟังว่า หลานสาวเรียนอยู่ ป.5 มาถามแม่ของผมว่า
ยายจ๋า “ขายชาติแปลว่าอะไร?”
ยายยังไม่ทันตอบ หลานสาวอีกคน เรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนมีชื่อ ก็พูดขึ้นว่า “ลุงตู่ขายชาติ”

ผมเลยพูดกับแม่ว่า
นี่การบิดเบือนข้อมูลและยุยงปลุกปั่นให้ร้ายลุงตู่และรัฐบาล มันซึมเข้าไปถึงเด็กประถม-มัธยม แล้ว

ผมเลยถือโอกาสคุยกับแม่เรื่องนี้ยาวๆ แล้วบอกแม่ว่า ช่วยเล่าให้หลานฟังต่อด้วย อย่าปล่อยผ่าน เดี๋ยวหลานจะเหลือ 3 นิ้ว

กฎหมายที่อนุญาตให้ต่างชาติถือครองที่ดิน ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นจากรัฐบาลลุงตู่ แต่มีมานานแล้ว เริ่มต้นจากรัฐบาลลุงชวน ต่อเนื่องถึงรัฐบาลทักษิณ

ไม่เห็นมีใครออกมาหลอกเด็ก หลอกชาวบ้าน ว่า ลุงชวนและทักษิณขายชาติ

ทั้งที่กฎหมายตัวนี้ที่ถูกใส่ร้ายว่าลุงตู่ขายชาติ เป็นกฎหมายเดิมที่มีมานานแล้ว

แต่ที่เป็นข่าวขึ้นมา ก็เพราะ รัฐบาลลุงตู่ เอามาปัดฝุ่น ทำความสะอาด และทำให้มันมีข้อกำหนดที่ชัดเจนและมีข้อจำกัดเพิ่มขึ้น
พูดง่ายๆ ทำให้มันดีขึ้นด้วยซ้ำ

เพราะแต่เดิม กฎหมายฉบับนี้ที่มีมาตั้งแต่รัฐบาลลุงชวนและทักษิณนั้นไม่เคยจำกัดคุณสมบัติชาวต่างชาติที่จะมาครอบครองที่ดินในเมืองไทยว่าต้อง
1. กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง
2. กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ
3. กลุ่มที่ต้องการทำงานในประเทศไทย
4. กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ

โดยมีเงื่อนไขว่า
• จำนวนเนื้อที่ที่ได้รับสิทธิ ไม่เกิน 1 ไร่
• ใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับตนเอง ภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัย
• มีจำนวนเงินลงทุนในธุรกิจหรือกิจการประเภทหนึ่งประเภทใด ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
• ลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

เขาปล่อยข่าวยุยง ปลุกปั่น ว่าลุงตู่ขายชาติ ปล่อยให้ชาวต่างชาติมาแย่งที่ดินทำกิน

ทั้งที่กฎหมายระบุชัดว่า ซื้อได้เฉพาะในกรุงเทพฯ และพัทยา หรือเขตเทศบาล หรือเขตที่อยู่อาศัย ไม่ได้อนุญาตให้ซื้อที่นา หรือพื้นที่เกษตรกรรม

แม้แต่ทักษิณก็ออกมาโวยลุงตู่เรื่องที่ให้ต่างชาติซื้อที่ดิน ทั้งที่สมัยตัวเองเป็นรัฐบาลก็ให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ถึง 99 ปี มันคืออะไร

ที่สำคัญ ประเทศต่างๆ หลายประเทศทั่วโลก ก็มีกฎหมายลักษณะนี้ กล่าวคือ อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อหรือครอบครองบ้านหรือที่ดิน

หลายประเทศอนุญาตให้ชาวต่างชาติมาซื้อบ้านหรือที่ดินเพื่อการลงทุนโดยไม่ต้องมาอยู่อาศัยด้วยซ้ำ

ไม่เหมือนรัฐบาลลุงตู่ที่อนุญาตเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่ขนเงินมาลงทุนเมืองไทย หรือมาทำงานหรือมาอาศัยอยู่ในเมืองไทย ให้มีโอกาสซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยของตนเอง
ให้เขามาลงทุนทำธุรกิจหรือทำงานหรือมาอยู่อาศัยหลังเกษียณ แต่ไม่ให้เขามีโอกาสซื้อบ้านเป็นของตนเอง มันออกจะแปลกประหลาดอยู่นะ ที่สำคัญ เขาซื้อบ้านได้ มันก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอีกด้วย

ขอยกตัวอย่างกฎหมายครองครองที่ดินของชาวต่างชาติของประเทศเพื่อนบ้านเล็กๆ น้อยๆ

ในเอเชียมี 5 ประเทศที่ชาวต่างชาติสามารถนำเงินมาซื้อบ้าน “เพื่อการลงทุน” คือซื้อโดยไม่ต้องมาอยู่เองด้วยซ้ำ แต่ซื้อทำเป็นธุรกิจ เพื่อการลงทุน ประกอบด้วย
1. มาเลเซีย
2. เกาหลีใต้
3. ไต้หวัน
4. ญี่ปุ่น
5. สิงคโปร์

ออสเตรเลียอยู่ติดกับเอเชีย ก็อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านในออสเตรเลียได้เช่นกัน
ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ซื้อเพื่อการลงทุน และซื้อเพื่ออยู่อาศัย

โดยถ้าซื้อเพื่ออยู่อาศัย ก็ต้องมาอยู่อาศัยที่บ้านหลังที่ซื้อจริงๆ

นอกจากอออสเตรเลียจะอนุญาตให้ต่างชาติซื้อบ้านได้แล้ว ยังกู้ธนาคารของออสซี่ เพื่อซื้อบ้านในออสเตรเลียได้อีกด้วย เอาดิ
https://propertytaxspecialists.com.au/non-resident.../

ประเทศไหนๆ เขาก็มีกฎหมายแบบนี้ครับ มีแต่กบสามนิ้วในกะลา ที่ไม่เคยรู้ว่าโลกนี้เขาไปถึงไหนแล้ว

พอมีคนมาปลุกปั่น ว่าลุงตู่ขายชาติ เพื่อหวังโค่นรัฐบาล ก็เชื่อทันที เพราะตนเองอยู่แต่ในกะลา ไม่มีความรู้รอบตัวใดๆ เลย

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ชั่วโมงนี้การต่อสู้ทางการเมือง ถือว่า เตรียมการหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น การ “ดิสเครดิต” ทางการเมือง เพื่อทำลาย “คู่แข่ง” ทางการเมือง จึงเป็นเรื่องธรรมชาติทางการเมือง ช่วงใกล้เลือกตั้งนั่นเอง

อีกอย่างเรื่อง “ดีล” ทางการเมือง เพื่อจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้า ก็มีกระแสข่าวออกมาให้เห็นเป็นระยะ นั่นแสดงให้เห็นว่า การต่อสู้ทางการเมืองส่วนใหญ่ เป้าหมายก็คือ การช่วงชิงอำนาจรัฐ มากกว่าที่จะเห็นประโยชน์สูงสุดของประชาชน แม้ปากจะอ้างทำเพื่อประชาชนก็ตาม

ดังนั้น ไม่แปลกที่คนไทยจะได้เห็นเรื่องบางเรื่อง ถูกเอามาโยงบิดเบือนจนเกินจริง อย่างกรณีให้ต่างชาติสามารถซื้อที่ดินอยู่อาศัยได้ ไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ของรัฐบาล ตามเงื่อนไขที่ตั้งเอาไว้ และมีกฎหมายเดิมรองรับอยู่แล้ว ก็ถูกโจมตีถึงขั้น “ขายชาติ”

ดังนั้น เป็นหน้าที่ของประชาชน จะต้องทำความเข้าใจในแต่ละเรื่องด้วยตัวเอง มากกว่าที่จะเชื่อ “การโจมตีทางการเมือง” หรือ สิ่งที่ถูกสร้างกระแสขึ้น เพื่อหวังผลทางการเมือง ไม่เช่นนั้น “ประชาชน” จะถูกหลอกได้โดยไม่รู้ตัว และอาจตัดสินใจผิดพลาดในการเลือกตั้งด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น