xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงตู่สู่ลุงป้อม” สูตรเด็ดใกล้เฉลย !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ
เมืองไทย 360 องศา


เรียกว่าเริ่มเข้าเค้าขึ้นทุกทีแล้ว สำหรับ “สูตรนายกฯ คนละครึ่ง” ของพรรคพลังประชารัฐ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม้ว่านาทีนี้ยังไม่มีความชัดเจนออกมาจากปากของทั้งคู่ แต่เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากคนในพรรคบางส่วนออกมาให้เห็นแล้ว

ด้วยข้อจำกัดภายใต้เงื่อนไข “วาระนายกฯ 8 ปี” ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเหลืออีก 2 ปี นั่นคือ สามารถดำรงตำแหน่งได้แค่ปี 2568 หมายความว่า หลังการเลือกตั้ง หากเขาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะมีเวลาแค่ “ครึ่งเทอม” เท่านั้น ดังนั้น ทำให้ต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดกันอีกรอบ ถึงความเป็นไปได้ ทั้งในส่วนของเจ้าตัวเอง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า จะตัดสินใจสำหรับอนาคตทางการเมืองอย่างไรเป็นอันดับแรก และหากไปต่อ จะมีใครจะมารับไม้ต่อหลังจากนั้น จะเป็น “บิ๊กป้อม” หรือ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือไม่

สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่รัฐบาลภายใต้การนำของเขา กำลังจะหมดวาระในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และต้องมีการเลือกตั้งใหม่ โดยหลายฝ่ายคาดหมายว่า หากยุบสภาก็น่าจะเกิดขึ้นในราวปลายปี และมีการเลือกตั้งใหม่ในต้นปีหน้า แต่คำถามสำหรับ “บิ๊กตู่” ก็คือ เขาจะเอาอย่างไร และแบบไหน ซึ่งที่ผ่านมา “ยังนิ่ง” ไม่ยอมเผยท่าทีใดๆ ออกมา

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า การสงวนท่าทีดังกล่าวเป็น “เกมต่อรอง” อย่างหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อประเมินสถานการณ์รอบตัว ทั้งการหยั่งท่าทีจาก “พี่ใหญ่” คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่า ยังสนับสนุนเขามากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะเสนอชื่อ “แคนดิเดตนายกฯ” จำนวนกี่รายชื่อ และมีใครบ้าง ขณะเดียวกัน ยังเป็นการ “หยั่งกระแส” ไปในตัวด้วยว่า หากไม่มีเขาแล้ว มีใครบ้างที่โดดเด่น เช่น “บิ๊กป้อม” จะได้รับการยอมรับแค่ไหนอีกด้วย

คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะประกาศท่าทีหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดเอเปก ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนผ่านไปแล้ว ซึ่งความเป็นได้ทั้ง “ไปต่อ” และ “ไม่ไปต่อ” แบบห้าสิบห้าสิบ เพราะหากไปต่อ ถือว่านาทีนี้เขาก็ยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนไม่น้อย แม้ว่ากระแสอาจจะลดลงกว่าเดิม แต่เมื่อเทียบกับคนอื่น โดยเฉพาะคนที่จะมาต่อกรกับ นายทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ มากที่สุด นาทีนี้ก็ยังมองไม่เห็น

ขณะเดียวกัน หากไม่ไปต่อ ก็น่าจะเกิดจากประเมินสถานการณ์แล้วว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” หรืออยากลงแบบสวยๆ เพราะถือว่าการดำรงตำแหน่งนายกฯ มาอย่างยาวนานต่อเนื่องเกือบ 9 ปี สร้างสถิติ รวมไปถึงมีผลงานมากมายให้จับต้องได้ อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากเส้นทางข้างหน้า ดูแล้วไม่ค่อยราบรื่นนัก ก็อาจตัดสินใจกลับบ้านก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี ทุกอย่างก็อยู่ที่การ “ชั่งน้ำหนัก” ว่า แบบไหนจะเหมาะสมกว่ากัน ซึ่งเชื่อว่า สำหรับเขาน่าจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว เพียงแต่รอเวลาเฉลยออกมาให้ทราบเท่านั้น และที่ผ่านมา ก็มีความคิด “นายกฯ คนละครึ่ง” นั่นคือ เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ในครึ่งเทอมแรก จากนั้นเวลาที่เหลืออีก 2 ปี อาจให้คนอื่นมาดำรงตำแหน่งต่อ ซึ่งอาจเป็น “ลุงป้อม” หรือคนอื่น ที่มีความโดดเด่น และได้รับการสนับสนุนจากสังคมก็ได้

ล่าสุด แนวทางแบบนี้ก็เริ่มมีการพูดถึงจากคนในพรรคพลังประชารัฐ เท่าที่เห็นก็มีอย่างน้อยสองคน คือ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ และล่าสุด ก็เป็น นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารพรรค เป็นคนเสนอแนวทางดังกล่าวที่เรียกว่า “หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม”

“เรากำลังพัฒนาพรรคให้เป็นพรรคต่อเนื่อง ไม่ใช่ผูกติดกับ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเดียว ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ 2 ปี 2 ปีหลัง เราก็ต้องมีตัวแทนขึ้นมาให้พรรคมีความต่อเนื่อง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ 2 ปี เราก็ต้องมีกลไกที่จะอธิบายได้ “หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม” ก็ได้ ไม่ได้เป็นปัญหาในการรับช่วงทางการเมืองภายใต้การเลือกตั้งของประชาชน เพื่ออธิบายให้ประชาชนเห็นว่าเราพร้อมบริหารประเทศ ในระบบประชาธิปไตย 2 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นปัญหา แต่จะมีการวิเคราะห์ตีความกันว่าบัตรประชารัฐไปไม่ได้ แต่ผู้ออกเสียงเลือกตั้งอาจเห็นว่า 2 ปีหลังจากนี้ บริหารให้ประเทศเดินหน้าหลังจากนั้นก็ผ่องถ่ายไปสู่คนอื่นตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่เป็นปัญหาอะไรของเรา เรื่องเหล่านี้ในพรรคจะเตรียมหารือเพื่อสร้างความเข้าใจทำเป็นนโยบายต่อไป” นายรงค์ ระบุ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ขอให้ความเห็นกรณีกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ ชูนโยบาย “หมดลุงตู่ สู่ลุงป้อม” เป็นแคมเปญในการหาเสียงครั้งต่อไป โดยระบุว่า ยังไม่ขอพูดถึง ส่วนความพร้อมในการจัดทำนโยบายนั้น ก็ยังไม่ได้พูดคุยหารือกันเรื่องจัดทำนโยบายต่างๆ ของพรรค ซึ่งอยากให้รอฟังความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนคำว่า “หมดลุงตู่ สู่ลุงป้อม” ส่วนตัวมองว่า อาจเป็นเรื่องที่พูดกันเอง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไร ส่วนพรรคจะเปิดนโยบาย หรือแคมเปญใหม่ๆ เมื่อไหร่นั้น นายสุชาติ ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่ทราบกระแสข่าวในพรรคพลังประชารัฐ เตรียมกลไก “หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งต้องมีการพูดคุยกัน และสอบถามไปยังกรรมการผู้บริหารพรรค เพราะยังไม่ได้มีการประชุมหรือพูดคุยกันในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องพิจารณากันอีกครั้ง แต่ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ ยังเป็นพรรคหลักของรัฐบาล และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการทำงานเพื่อให้เดินหน้าสร้างผลงานดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนตัวเชื่อว่าผลงานของรัฐบาล ก็จะเป็นตัวสำคัญที่นำไปสู่การเลือกตั้ง และประชาชนยอมรับ โดยความสำเร็จของการเลือกตั้ง ก็จะมาจากการทำงานของรัฐบาล

ดังนั้น หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวในการผลักดันสูตร “นายกฯ คนละครึ่ง” เริ่มเห็นชัดขึ้น อย่างน้อยก็เป็นการโยนหินถามทาง แบบ “หยั่งเชิง” กันไปก่อน ขณะที่เจ้าตัว คือ ทั้ง “ลุงตู่” และ “ลุงป้อม” ยังไม่ปริปาก หรือแสดงท่าทีออกมา ทางหนึ่งก็ถือว่ายังไม่ถึงเวลาให้ตกเป็นเป้าโดยไม่จำเป็น แต่มั่นใจว่า ด้วยเงื่อนไขด้านเวลาที่กระชั้นเข้ามาทุกขณะ มันก็บังคับให้ตัดสินใจต้องประกาศออกมาให้ได้ทราบ คาดว่า น่าจะหลังประชุมเอเปก นั่นแหละ!!



กำลังโหลดความคิดเห็น