เร่งตั้ง 76 บอร์ดจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ชุดใหม่ ตามกฎหมายฉบับล่าสุด ดึง “องค์กรภาคประชาสังคม” ร่วมบริหารงบฯ 4 หมื่นล้าน พัฒนาจังหวัด จ่อชง “นายกฯ” ในฐานะประธาน ก.น.บ. ลงนาม พ่วงกำหนดวันส่งแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ปี 67 รวมถึงแผนงบปี 67 หลังมีคำสั่ง “ชะลอ” ส่งแผนไปก่อน
วันนี้ (18 ต.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ชุดใหม่ ซึ่งมี นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ
โดยจะมีการประชุมครั้งแรกภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ และวิธีการดำเนินการภายใต้พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565 ซึ่งในมาตรา 3 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 รวมทั้งได้มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ยกเลิกระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารงานเซิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2560 พ.ศ. 2565 มีผลทำให้ คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) และคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) ตามพระราชกฤษฎีกาฯ พ.ศ. 2551 และตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้างต้นสิ้นสภาพไปแล้ว
“ตามกรอบระยะเวลาการดำเนิน หลังการประชุม ก.น.บ. จะได้กำหนดวันส่งแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ปี 2567 ในวันที่ 15 พ.ย. 2565 เพื่อให้การดำเนินการของจังหวัด และกลุ่มจังหวัดเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด”
ล่าสุด นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เวียนหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และหัวหน้ากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ให้เร่งดำเนินการแต่งตั้ง ก.บ.จ. และ ก.บ.ก. ชุดใหม่ ภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ตาม มาตรา 13 และมาตรา 15 ของพระราชกฤษฎีกาฯ โดยให้ดำเนินการ กำหนดให้มี “องค์กรภาคประชาสังคมอื่น” รวมถึงการกำหนดจำนวน หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มา ซึ่งผู้แทนฝ่ายต่างๆ ใน ก.บ.จ. และ ก.บ.ก.ชุดใหม่
ขณะที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ก.น.บ.ตามกฎหมาย มีหนังสือ ซักซ้อมการปฏิบัติภายใต้พระราชกฤษฎีกาฯ นอกจากเร่งรัดแต่งตั้ง ก.น.บ. ก.บ.จ. และ ก.บ.ก.ชุดใหม่ ตามกลไกหลักในการขับเคลื่อน นโยบาย ซึ่งจะมี ก.น.บ. เป็นกลไกหลักเพียงชุดเดียว เพื่อให้การดำเนินการจัดทำแผนการพัฒนาทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง รวมถึงให้ถือปฏิบัติแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหาร งบประมาณ และการบริหารพัสดุ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
ขณะที่แนวทางการรับโอนสินทรัพย์ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ตามเจตนาของกฎหมายว่ามีเจตนาให้เอกชนและภาคประชาสังคม ได้มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูแลสินทรัพย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ การรับโอนสินทรัพย์ดังกล่าวให้เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติที่กรมบัญชีกลางกำหนด
เมื่อเร็วๆ นี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพิ่งเวียนหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และหัวหน้ากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัดให้ “ชะลอ” การจัดส่งแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
“โดยต้องมีการแต่งตั้ง ก.น.บ. ก.บ.จ. และ ก.บ.ก. ชุดใหม่ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 13 และมาตรา 15 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเซิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565”
สำหรับ งบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2566-2570
“แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จำนวนรวม 1,854 โครงการ 40,822.6021 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณที่ได้สนับสนุนในกรอบวงเงิน จำนวน 1,409 โครงการ 29,284.2278 ล้านบาท และงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนเกินกรอบวงเงิน จำนวน 445 โครงการ 11,538.3743 ล้านบาท”
