เคาะ! 2,477 ล้าน ล้อมคอกโศกนาฏกรรมอุทัยสวรรค์ อุดหนุน “ศูนย์คัดกรอง-ฟื้นฟูยาเสพติดท้องถิ่น” ให้งบทุกปี หลัง “มหาดไทย” ชงแนวทางจัดหางบประมาณ ใช้ป้องกัน ด้าน “ปลัด มท.” ออกหนังสือเร่งรัด “รี-เอกซเรย์” ทำ 2 บัญชีดำใหม่ ค้นหาผู้ค้าผู้เสพ ให้อำนาจ 878 นายอำเภอ ผู้กำกับสถานีตำรวจพื้นที่ ส่วนราชการ ศป.ปส.อ. มีอำนาจรับรองรายชื่อผู้ค้าผู้เสพ พร้อมกำหนดเป็นชั้นความลับอย่างเคร่งครัด ส่วนท้องถิ่น ผุดไอเดีย “1 ตำรวจ 1 โรงเรียน”
วันนี้ (11 ต.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า จากกรณีโศกนาฏกรรมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ล่าสุด ที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านการเงิน การคลัง และงบประมาณ กกถ.ครั้งที่ 6/2565 ที่มี นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
เห็นชอบการจัดตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. รายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนศูนย์คัดกรองและศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม (ยาเสพติด)
“จำนวน 2,125 แห่ง วงเงิน 2,477,524,689 บาท เป็นรายการใหม่ตั้งแต่ปีงปบระมาณ พ.ศ. 2567 และปีงบประมาณต่อไป เพื่อเสนอ ก.ก.ถ. พิจารณาเห็นชอบ”
หลังจากวานนี้ (10 ต.ค.) ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุดถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ กว่า 7 พันแห่ง ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด
แจ้งแนวทางการป้องกันและเเก้ไขปัญหายาเสพติดของ อปท. และแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ให้ทุกจังหวัด
ให้มีการจัดตั้ง “ศูนย์คัดกรอง” และจัดตั้ง “ศูนย์ฟื้นฟู” สนับสนุนให้ผู้ติดยาเสพติด หรือ ผู้ผ่านการบำบัดรักษาได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตทางด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา อาชีพ
ขณะที่ ในด้านงบประมาณ กำหนดให้ อปท.ตั้งงบประมาณในเทศบัญญัติ/ข้อบัญญัติ ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
ส่วน กรณี อปท. ไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ ให้พิจารณาโอนงบประมาณรายจ่ายรายการที่มีความจำเป็นน้อยกว่า มาตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ หรือ หากไม่สามารถโอนงบประมาณมาตั้งเป็นรายการใหม่ได้ อาจขอยกเว้นต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย นำเงินสะสมมาใช้จ่ายได้
ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการแทนแล้ว
สุดท้าย กรณี อปท.ไม่ได้ดำเนินการเอง อาจอุดหนุนงบประมาณด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หน่วยงานอื่น ได้แก่ อปท.อื่น ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคประชาชน องค์กรทางศาสนา หรือองค์กรการกุศลได้
โดยถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย หลังจากได้สั่งการให้ทุกจังหวัดรายงานผลการดำเนินงาน ทุกวันที่ 5 ของเดือน โดยเริ่มรายงานครั้งแรกวันที่ 21 ต.ค. 2565
มีรายงานว่า สำหรับหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ตั้งงบประมาณไว้ที่ สถ. จำนวน 186,520,657,300 บาท ไม่มีรายการเงินอุดหนุนด้านยาเสพติด
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมร่วม เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ระหว่างกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข วานนี้ (10 ต.ค.)
"ปลัด มท. ออกหนังสือเร่งรัดให้ “รี-เอกซเรย์” ค้นหาผู้ค้าผู้เสพ ให้นายอำเภอ 878 แห่ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่ และหน่วยหน้าส่วนราชการที่เป็นคณะกรรมการ ศป.ปส.อ. 1 คน มีอำนาจรับรอง รายชื่อผู้ค้าผู้เสพ ตามแบบฟอร์มที่กำหนด และให้กำหนดเป็นชั้นความลับอย่างเคร่งครัด”
โดยให้จัดทำ 2 บัญชี ซึ่งบัญชีส่วนที่ 1 ให้อำนาจ คณะทำงานข้างต้น จัดเก็บไว้ที่ ศป.ปส.อ.
ส่วนบัญชีส่วนที่ 2 “ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด” ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับรอง และรายงานจำนวนเฉพาะจำนวนผู้เสพ ผู้ค้าผ่านระบบออนไลน์
ขณะเดียวกัน ในหนังสือถึงจังหวัด ว่าด้วยแนวทางการป้องกันและเเก้ไขปัญหายาเสพติด ของ อปท. 7,000 แห่ง
“ตอนหนึ่งระบุถึง การเฝ้าระวัง อปท. สนับสนุนให้บุคลากรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เฝ้าระวังร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีกิจกรรมมาส่งเสริม เช่น 1 ตำรวจ 1 โรงเรียน" เป็นต้น”
