จ่อรื้อใหญ่! คณะทำงานสู้ยาเสพติด ล้อมคอกกราดยิงอุทัยสวรรค์ ดันเป็นวาระแห่งชาติ เตรียมชง “นายกฯ” 12 ต.ค.นี้ “มท.-ปค.-สธ.-ปปส.-ท้องถิ่น” ตั้งคณะทำงานร่วม พ่วง 3 อนุฯ ย่อย ป้องกัน-ปราบปราม-บำบัดรักษา “ปลัด มท.” ยกตัวเลขความเดือดร้อน ปัญหายาเสพติด สูงถึง 279,094 ครัวเรือน ใน 31,744 หมู่บ้าน คาดกระทบกว่า “ล้านคน” ยัน 1 เม็ด 2 เม็ด ก็ขอให้แจ้ง ด้าน “ปค.” ขีดเส้น สิ้น ต.ค.นี้ ได้ข้อมูลผู้เสพผู้ค้าทั่วประเทศ
วันนี้ (10 ต.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วมเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หลังจากกรณีโศกนาฏกรรมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
มี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พลตำรวจเอก ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นางสาวปาณี นาคะนาท ผู้ตรวจราชการมหาดไทย พลตำรวจโท สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนจากกรมการพัฒนาชุมชน และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ที่ประชุมวันนี้ มีมติให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย โดยอธิบดีกรมการปกครอง กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อขับเคลื่อนงานด้านแก้ปัญหายาเสพติด มีกรมการปกครอง เป็นแม่งานหลัก
รวมถึงมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการย่อย 3 ส่วน คือ คณะอนุกรรมการป้องกัน มีกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลัก คณะอนุกรรมการปราบปราม มี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล อัยการ เป็นหน่วยงานหลัก และคณะอนุกรรมการบำบัดรักษา มีกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลัก
โดยทุกส่วนต้องทำงานในลักษณะ Area บูรณาการแต่ละหน่วย มีโต๊ะข่าวในพื้นที่เพื่อให้มีข้อมูลในการดำเนินการ คาดว่า ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ หลังจากนายกรัฐมนตรี เรียกประชุม จะมีการผลักดัน “ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ”
"เราจะไม่นำปัญหาและข้อจำกัดมาเป็นอุปสรรคในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบบำบัดรักษา เราจะทำด้วยความรัก ความเมตตา ในการทำให้คนหลงผิดเป็นคนดีกลับสู่อ้อมอกพ่อแม่” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวตอนหนึ่ง
และว่า ผมมั่นใจว่า องค์ความรู้ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (knowhow) เราดีอยู่แล้ว จึงขอให้ช่วยกัน “ค้นหา ปราบปราม รณรงค์ประชาสัมพันธ์ ต้องทำควบคู่ไปด้วยกัน”
ปลัด มท. ยังอ้างข้อมูลการสำรวจความเดือดร้อนขอประชาชน ผ่านการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยแพลตฟอร์ม ThaiQM ของกรมการปกครอง
จากฐานข้อมูลพบว่า มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติดตัวเลขสูงถึง 279,094 ครัวเรือน ใน 31,744 หมู่บ้าน
“ซึ่งถ้าเราเอาจำนวนสมาชิกในครอบครัว มาคูณจะทำให้มีตัวเลขประชาชนที่ได้รับผลกระทบถึงเป็นหลักล้านคน ดังนั้น เราทุกคนจึงต้องดำเนินการกับปัญหายาเสพติดเชิงรุก ด้วยการเข้าไป Approach ปัญหา”
ล่าสุด กรมการปกครอง ได้ขีดเส้นตายว่า ภายในวันที่ 31 ต.ค. 2565 จะมีข้อมูล ผู้เสพ ผู้ค้ายาเสพติดทั่วประเทศ ในเบื้องต้น เพื่อนำมาใช้วางแผนการแก้ไขปัญหาร่วมกับภาคีเครือข่าย แลกเปลี่ยนข้อมูล สนธิและกรองข้อมูลอีกชั้นหนึ่งในระดับพื้นที่
โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เป็นแม่งานในการค้นหา ผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกตำบล/หมู่บ้าน ทั้งผู้ใช้ ผู้เสพ และผู้ค้า ผ่านการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน
“เราจะรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ที่มีการดำเนินการปราบปราบเกี่ยวกับยาเสพติดมาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กับสังคม เราไม่นิ่งนอนใจและเอาจริงเอาจัง ไม่ว่าเป็นการจับกุม 1 เม็ด 2 เม็ด สามารถแจ้งข้อมูลได้ทั้งหมด”
ทั้งนี้ ทุกจังหวัดและอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จะร่วมสนับสนุนในด้านวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้ในการตรวจหาสารเสพติด และคนเสพต้องอยู่ในศูนย์บำบัด รับยาบำบัดใช้ชีวิตในศูนย์คนละอย่างน้อย 1 สัปดาห์
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้ความร่วมมือในการบูรณาการร่วมกับมุกฝ่ายในด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ
โดยเตรียมมอบนโยบายไปสู่การปฏิบัติของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนภารกิจศูนย์บำบัดฟื้นฟูของกระทรวงมหาดไทย
