โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ให้กำลังใจประชาชน ข้าราชการ ภาคประชาสังคม ที่ช่วยเหลือกันในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม กำชับเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ในทุกพื้นที่อย่างเต็มกำลัง
วันนี้ (16 ต.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.-16 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา ทำให้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์และกำกับดูแลทุกหน่วยงานให้เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด พร้อมกับฝากความห่วงใยและให้กำลังใจประชาชน ข้าราชการ ภาคประชาสังคม ที่ช่วยเหลือกันในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด (16 ต.ค. 65) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 28 จังหวัด โดย ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเร่งคลี่คลายสถานการณ์ภัยอย่างเร่งด่วน
นายอนุชา กล่าวว่า ปภ.รายงานผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวม 28 จังหวัด 148 อำเภอ 931 ตำบล 5,824 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 365,888 ครัวเรือน ภาคเหนือมีแนวโน้มระดับน้ำลดลง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางจังหวัดมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น โดย ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องและระดมกำลังเร่งระบายน้ำอย่างเต็มกำลัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ภัย ซึ่งปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ รวม 28 จังหวัด ได้แก่ ตาก พิจิตร นครสวรรค์ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี หนองบัวลำภู อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นครนายก สระบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ จากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ พังงา (อำเภอตะกั่วป่า) และภูเก็ต 3 อำเภอ (อำเภอถลาง อำเภอเมืองภูเก็ต และอำเภอกะทู้) รวม 10 ตำบล 15 หมู่บ้าน ปัจจุบัน (16 ต.ค. 65) ระดับน้ำลดลง เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังอย่างต่อเนื่อง และช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรกับประชาชนผู้ใช้เส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ปิดกั้นเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากดินถล่ม รวมถึงฉีดล้างเส้นทางจราจรและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก
“นายกรัฐมนตรีได้ติดตามและกำกับดูแลทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในทุกพื้นที่อย่างเต็มกำลัง รวมถึงดูแลประชาชนที่ได้อพยพออกจากที่พักอาศัยอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และกลุ่มเปราะบาง ที่ต้องได้รับการช่วยเหลือดูแลเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐเร่งสำรวจประเมินความเสียหายในพื้นที่หลังสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนตามระเบียบกระทรวงการคลัง อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือจากสถานการณ์ในปัจจุบัน สามารถแจ้งได้ที่หมายเลข 191 และ 1599 หรือสายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทุกฝ่ายจะช่วยเหลือประชาชนให้ดีที่สุด” นายอนุชา กล่าว