เมืองไทย 360 องศา
เริ่มเห็นภาพชัดขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการเมืองไทยที่ต้องเฝ้าดูสถานการณ์นับจากนี้ไปจนถึงหลังเลือกตั้ง เริ่มเห็นภาพการ “รวมกลุ่ม” สร้าง “พันธมิตร” ระหว่างพรรคการเมืองกันบ้างแล้ว รวมไปถึงการได้เห็นการ “ควบรวม” ของบางพรรคการเมือง ซึ่งมีแนวโน้มทยอยตามมาอีกหลายพรรค โดยเฉพาะบรรดาพรรคเล็กและพรรคขนาดกลาง เนื่องจากภายใต้กติกาใหม่ ทำให้การเคลื่อนไหวไปข้างหน้าทำได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ดี เพื่อให้เห็นภาพจะพยายามแยกกลุ่มการเมือง หรือ “พันธมิตร” การเมืองที่เริ่มรวมกลุ่มกันแบบหลวมๆ กันก่อนเลือกตั้ง โดยที่ผ่านมา ได้ชี้ให้เห็นมาแล้วเป็น “สองกลุ่มหลัก” กลุ่มแรกคือ “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนหลัก อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ “พลังประชารัฐ กับ ภูมิใจไทย” และกลุ่มที่สามเป็นกลุ่มพรรคขนาดกลาง ที่เริ่มเห็นภาพชัดขึ้นมา ก็คือ “สร้างอนาคตไทย กับ ไทยสร้างไทย” ที่เริ่มมีแนวโน้มให้เห็นชัดเจนมากขึ้น
ดังนั้น จึงต้องโฟกัสในกลุ่มพันธมิตรใหม่ดังกล่าวว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน กับสถานการณ์การเมืองในวันข้างหน้า ซึ่งจากท่าทีของระดับแกนนำคนสำคัญ เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย และ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค แม้ว่าจะยังไม่ได้ยอมรับ แต่ก็แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ได้ปฏิเสธหรือปิดทาง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวที่จังหวัดพัทลุงเมื่อวันก่อน ถึงกระแสข่าวรวมพรรคสร้างอนาคตไทย กับ พรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ว่า ใครจะรวมกับใครเป็นเรื่องของเขา แต่ตอนนี้พรรคสร้างอนาคตไทย ยังไม่ได้คิดรวมกับใคร และถ้าจะรวมกับใครในอนาคตต้องดูว่าความคิดเหมือนกันหรือไม่ และอุดมการณ์ตรงกันหรือไม่ เรื่องนโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่ ถ้ารวมกันแล้วนโยบายเหมือนกัน รวมกันแล้วดี รวมแล้วดีกว่าไม่ดีก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของอนาคต
เมื่อถามว่า “2 ส.” คือ นายสมคิด และ คุณหญิงสุดารัตน์ สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “ส.” สมคิด เป็นแค่ประธานพรรค ต้องถาม นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กับคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งก็พูดจาภาษาเดียวกัน แต่จะรวมกันหรือไม่ ไม่แน่ใจต้องแล้วแต่พรรคแต่ไม่ว่าอย่างไรต้องยึดนโยบายพรรคที่มีอยู่แล้ว ถ้าเคลียร์กันได้ก็ไปพูดคุยกัน เรื่องอื่นไม่เกี่ยว
ด้าน นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงกระแสข่าวคุยกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายอุตตม กล่าวว่า ในการพูดคุยเรียนว่าเกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดาระหว่างพรรคการเมือง และไม่ใช่ระบุว่า พรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น นี่เป็นข้อเท็จจริงที่พรรคได้ประสบมาในหลายๆ เดือน เราพูดคุยกับหลายๆ พรรคเป็น
ข้อเท็จจริง ก็เป็นธรรมดาเป็นธรรมชาติ พรรคการเมืองนักการเมืองก็มาแลกเปลี่ยนข้อมูล ประเมิน วิเคราะห์ โดยเฉพาะครั้งนี้เราเห็นได้ว่า สนามเลือกตั้งที่จะมาถึงในเรื่องของกฎเกณฑ์ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วพอสมควร มันเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พรรคการเมืองจะมานั่งคุยกันแลกเปลี่ยนกันเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นเราคุยกับหลายพรรค อันนี้เป็นข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า มีพรรคไหนที่เคมีตรงกันแล้วหรือยัง นายอุตตม กล่าวว่า เคมีนั้นก็มีได้หลายส่วน ว่าอะไรตรงกันไหม แต่คำว่าเคมีตรงกัน สุดท้ายหมายถึงว่าคุยกันด้วยอุดมการณ์อะไร และสู่เป้าหมายอะไร ถ้าพูดว่าเป้าหมายคือ การทำงานร่วมกันก็ต้องพูดให้ชัดว่าทำงานร่วมกันในรูปแบบไหน มีได้หลายรูปแบบ ใช้คำว่าเป็นพันธมิตรกัน เป็นพันธมิตรที่ร่วมอุดมการณ์ ซึ่งควรจะเป็นอย่างนั้น ในมุมมองพรรคสร้างอนาคตไทย ถ้ามีอุดมการณ์ตรงกันถึงจะเป็นพันธมิตรได้
เมื่อถามว่า พรรคสร้างอนาคตไทยและพรรคไทยสร้างไทย มีโอกาสจะรวมพรรคกันหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ วันนี้ยังไม่มีการพูดถึงการรวมพรรคแต่อย่างใด ซึ่งการหารือพูดจากัน อย่างที่เรียนว่าได้มีโอกาสพบปะพูดจากัน หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยกับตนเองก็คุ้นเคยกันมาก่อน ซึ่งหลายท่านในพรรคไทย
เมื่อฟังจากปากของทั้งคู่ คือ นายสมคิด และ นายอุตตม แล้ว ก็พอสรุปได้ว่า “ไม่ได้ปิดทาง” ทั้งการรวมพรรค และโดยเฉพาะการเป็น “พันธมิตรทางการเมือง” โดยหากจับอารมณ์ และทิศทางแล้วโอกาสที่จะเกิดขึ้นอย่างหลังก็มีความเป็นไปได้ไม่ใช่น้อย เพราะเมื่อพิจารณาตามสถานการณ์ที่เป็นจริงแล้ว หากมองกันทีละช็อตทั้งสองพรรคก็พอจะมองเห็นคำตอบลางๆ แล้วว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะไปจับขั้วกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้เคยถูก “เจ้าของคอก” อย่าง นายทักษิณ ชินวัตร “ขยี้” ไล่หลังมาแล้ว และกำลังไล่ถล่มในภาคอีสานอยู่ในเวลานี้ ซึ่งระดับวงในรับรู้กันดี ส่วนพรรคสร้างอนาคตไทยแม้ว่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีท่าทีชัดเจน แต่หากพิจารณาตามรูปการณ์แล้วมันก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน
หากมองกันตามสถานการณ์ความเป็นไปได้แล้วก็ต้องบอกว่าน่าจับตาทีเดียวสำหรับการจับมือเป็น “พันธมิตรใหม่” ที่ถือว่าเป็น “ทางเลือกใหม่” หลังการเลือกตั้งคราวหน้า หลังจากก่อนหน้านี้ได้เห็นภาพสองขั้วหลัก คือ พรรคเพื่อไทย กับกลุ่ม พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทยมาแล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นการมองให้เห็นภาพคร่าวๆ ขณะที่ยังมีพรรคการเมืองที่เหลืออื่นๆ ที่จะเป็นตัวแปรว่าจะพลิกไปทางขั้วไหน เพราะถึงอย่างไรยังมั่นใจว่าหลังการเลือกตั้งก็จะยังเป็นรัฐบาลผสมอย่างแน่นอน
ดังนั้น แม้ว่านาทีนี้จะยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าในที่สุดแล้วทั้งสองพรรคคือ สร้างอนาคตไทย และพรรคไทยสร้างไทยจะรวมกัน หรือเป็นพันธมิตร หรือการจับมือกันระหว่าง “สอง ส.” คือ ส.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับ ส.สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะเป็นไปได้หรือไม่ แต่เอาเป็นว่าด้วยท่าทีเท่าที่เห็นก็ถือว่าไม่ปิดทางก็แล้วกัน !!
