ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เคลียร์คัต "2ส." “สมคิด”+ “สุดารัตน์” พูดภาษาเดียวกัน แต่นาทีนี้ยังไม่รวมพรรค
ยกทัพใหญ่ลงใต้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคสร้างอนาคตไทย จ.พัทลุง ที่นำโดย "เฮียกวง" สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรค “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคใต้ ต้องบอกว่า นี่เป็นการส่งสัญญานไปถึงประชาธิปัตย์ และพรรคคู่แข่งว่าสมรภูมิเลือกตั้งแดนใต้เที่ยวนี้ เดือดแน่นอน
งานนี้ พรรคสร้างอนาคตไทยแม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่ชื่อชั้นของ "สมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์" ฟังว่าพี่น้องชาวใต้ ให้ความสนใจ เสียงตอบรับดี เพราะพื้นฐานวันนี้มีความรู้สึกร่วมเดียวกัน ทำไมภาคใต้ไม่รวยสักที... ภาคบริการเพิ่มแต่รายได้ไปไหน ทั้งๆ ที่มีทรัพยากรครบครัน ท่องเที่ยว เกษตร อุตสาหกรรม เป็นสามเหลี่ยมยุทธศาสตร์ แต่การพัฒนาไปไม่ถึงจุดที่ควรจะเป็น
แน่นอนว่า ไฮไลต์งานนี้อยู่ที่โจทย์ การพัฒนาภาคใตัจะทำอย่างไร ?
ซึ่งเข้าทาง "เฮียกวง" และ ทีมเศรษฐกิจอยู่แล้ว โดยบอกว่า ถ้าทำได้จะลงมาภาคใต้ให้ครบทุกจังหวัด เพื่อจะสร้างกระแส "สึนามิ" ให้ได้ ให้เป็นสึนามิที่กวาดล้างสิ่งโสมมทั้งหมดให้ได้ เพราะภาคใต้อุดมสมบูรณ์มาก ทั้งเกษตร ท่องเที่ยว แต่ทำไมหลายสิบปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจภาคใต้ยังเล็กอยู่ แถมค่อยๆ หดตัวลงด้วย กระจุกตัวอยู่แค่ 4 จังหวัด สุราษฎร์ นครศรีฯ ภูเก็ต แถมภาคเกษตร อุตสาหกรรม หดตัวลง แม้บริการจะขยาย แต่สามตัวนี้ควรต้องเชื่อมโยงกัน ไปด้วยกันอย่ามีสมดุล
อุ่นเครื่องเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจใต้พอหอมปากหอมคอ เลี้ยวมาที่การเมือง ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ถือโอกาส ใช้เวทีนี้เปิดใจการ "คัมแบ็ก" บนถนนการเมืองไว้อย่างน่าสนใจ ว่า คิดไม่ผิดที่กลับมาสู่การเมือง "ถ้าบ้านเมืองไม่มีวิกฤต ผมก็ไม่กลับมา ถ้ามีวิกฤต จะมีชื่อสมคิดมาเสมอ"
เมื่อพูดถึงกระแสตอบรับ และสำหรับกับ “สมคิด” ที่ดูเหมือนจะเปิดตัวกับสร้างอนาคตไทยได้สวย ขณะที่การเมืองตอนนี้ร้อนแรงขึ้น โดยเฉพาะกระแสการรวมพรรคจึงมีประเด็นแว่วมาตามสายลม ว่า "2ส." สมคิดและสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ พรรคสร้างอนาคตไทย จะรวมกับ ไทยสร้างไทย หรือไม่
คำถามนี้ “สมคิด” ไขขานว่า ใครจะรวมกับใครเป็นเรื่องของเขา แต่ตอนนี้พรรคสร้างอนาคตไทย ยังไม่ได้คิดรวมกับใคร และถ้าจะรวมกับใครในอนาคตต้องดูว่า ความคิดเหมือนกันหรือไม่ อุดมการณ์ตรงกันหรือไม่ นโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่ ถ้ารวมกันแล้วนโยบายเหมือนกัน รวมกันแล้วดี รวมแล้วดีกว่าไม่ดี ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของอนาคต...
เมื่อถามว่า “2 ส.” คือ สมคิดและสุดารัตน์ สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ สมคิด บอกว่า “ส.” สมคิด เป็นแค่ประธานพรรค ต้องถาม “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กับ “สุดารัตน์” ซึ่งก็พูดจาภาษาเดียวกัน แต่จะรวมกันหรือไม่ ไม่แน่ใจ ต้องแล้วแต่พรรค
คำว่า "พูดจาภาษาเดียวกัน" แสดงว่าก่อนหน้านี้ มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว ใช่หรือไม่ “เฮียกวง” บอก ยังไม่ได้คุย การพูดจาภาษาเดียวกัน คือดูนโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทย ว่าจะเตรียมการเพื่ออนาคตอย่างไร จะแก้ไขปัญหาระยะสั้นอย่างไร ถ้าคิดเหมือนกันมีแนวคิดทำงานคล้ายกันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าไม่เหมือนกันเลย แล้วมารวมกันเพื่อให้มีส.ส.มากขึ้น ก็ไม่รู้จะรวมไปเพื่ออะไร
สรุปจากปาก “ส.สมคิด” ได้อย่างนี้ ที่เหลือก็ต้องให้คอการเมืองคิดพิจารณกันว่าจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามกันต่อไปนะจ๊ะ
**“เจ้าของคอก” ทิ้งทุ่น “ธรรมนัส” ไม่ให้ราคาเหมือน “ข่าวปล่อย” ที่หลุดออกมาก่อนนี้ คิดจะคัมแบ็ก “เพื่อไทย” ก็คงต้องไปต่อปลายแถวเหมือนเดิม
ไม่รู้จะเข้าอิหรอบ “กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง” ตามที่เคยทักถามไว้หรือเปล่า
รายของ“ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ที่มีข่าวหนาหูว่าเตรียมทิ้งพรรคเศรษฐกิจไทย และทีมงานใน “ซุ้มผู้กอง” ไปซบ “ยานแม่” พรรคเพื่อไทย ที่เป็นสังกัดเก่าของขาใหญ่เมืองพะเยา
ก็มีอย่างที่ไหน เมื่อวันก่อนในการประชุมใหญ่ของพรรคเศรษฐกิจไทย “ร.อ.ธรรมนัส” อุตส่าห์ทิ้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค พร้อมไม่มีการตั้งบรรดาลูกน้องที่เป็น ส.ส.ให้เป็นกรรมการบริหารแม้แต่รายเดียว
เรียกว่าเจตนา “อ่อย” ชัดเจน ตาม“กล้าโมเดล” ของ กรณ์ จาติกวณิช ผู้ก่อตั้งพรรคพรรคกล้า ที่ทิ้งทุกตำแหน่ง ก่อนย้ายสำมะโนครัว ไปร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนากล้า ก่อนนี้ไม่มีผิด
ทว่า ท่าทีของ“นายห้างโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกระบุว่าเป็นคนดีลตรงกับ “ร.อ.ธรรมนัส” ให้กลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย กลับไม่รับลูก เมื่อพูดผ่านไลฟ์สดเพจเฟซบุ๊ก CARE แคร์ คิด เคลื่อน ไทย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงกระแสข่าวการดีลกับ “ร.อ.ธรรมนัส” ว่า
“ไม่มีดีลนี้แน่นอน ไม่เกี่ยว เพราะไม่มีหน้าที่อะไรต้องไปดีล ถามว่ารู้จักไหม รู้จัก เพราะเป็นคนเหนือ เคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้อง
ที่ผ่านมาเคยพูดไว้ว่า ศิษย์เก่าไทยรักไทยทั้งหลาย มีเยอะอยู่ในวงการเมือง ถ้าคนไหนออกไป ไม่เป็นปฏิปักษ์กับพรรค และเขาอยากกลับมา ก็ไม่น่าเสียหายอะไร แต่คนที่ออกไปเป็นปฏิปักษ์กับพรรค ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
ถอดรหัสได้ว่า“เจ้าของคอก” ก็เวลคัม ให้การต้อนรับบรรดาคนเก่าคนแก่ ที่อยากจะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย
คือไม่ได้ให้ความสลักสำคัญกับ “ผู้กองนัส” อะไรมากมาย แม้จะถือเป็น“คนเคยใหญ่” ทั้งอดีตรัฐมนตรี หรืออดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐมา หรือ ตีปิ๊บใหญ่โตว่า มีส.ส.ลูกหาบที่พร้อมเฮไหนเฮนั่น มากกว่า 10 ชีวิตมาก็ตาม
ประเมินได้ว่า“ทักษิณ” ก็ยังคงมอง“ผู้กองนัส” เป็นแค่ “เบี้ย”ในกระดาน ในอารมณ์มา ก็ได้ ไม่มาก็ไม่ซีเรียส
เพราะมีการพูดกันภายใน“ค่ายดูไบ” ว่าการมาของ“ธรรมนัส”อาจจะทำให้เสีย มากกว่าได้ ด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่ได้หนุนส่งให้พรรคเพื่อไทยดูดีขึ้นเลย แถมอาจจะมาสกัดเป้าหมาย “แลนด์สไลด์” กลายเป็น “แลนด์ไถล” ก็เป็นได้
สำคัญที่การหอบหิ้ว ส.ส.ลูกหาบมาด้วย หลายพื้นที่ก็มีตัวผู้สมัครจับจองไว้หมดแล้ว หลายจังหวัดก็เป็นโควตาของ “ขาใหญ่เพื่อไทย” เอง อย่างที่ จ.พิจิตร ที่นำทีมโดย “สุณีย์ เหลืองวิจิตร” มือขวาของ “เสี่ยเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล แกนนำพรรคคนสนิทของทักษิณ
ครั้นจะให้ “เด็กเสี่ยเพ้ง” หลบให้ “เด็กธรรมนัส” ก็จะกระไรอยู่
แล้วยังมีการจับจองที่นั่งปาร์ตี้ลิสต์ในลำดับที่ได้แน่นอนให้ “ก๊วนธรรมนัส” อีก 2 ที่นั่ง ทั้งที่เอาแค่ในพรรคเพื่อไทยตอนนี้ ก็“เบอร์ใหญ่-เด็กนาย”เต็มพรรค จัดเรียงก็ไม่ถูกแล้ว
ดังนั้น ข่าวที่ว่า“นายใหญ่” เซย์เยส กับเงื่อนไขของ “ซุ้มผู้กอง” ที่รีเควสว่า ส.ส.เขตต้องได้ลงในพื้นที่เดิม แถม 2 ปาร์ตี้ลิสต์อันดับต้นๆ นั้น น่าจะห่างไกลความจริงไปพอสมควร เพราะในทางปฏิบัติ ถือว่าเป็นไปไม่ได้!!
คำที่ “ทักษิณ” ว่า และไม่มีหน้าที่อะไรต้องไปดีล ก็เป็นการเฉลยว่า จริงๆ แล้วไม่มีการรับเงื่อนไขอะไรตามที่ข่าวออกมาก่อนหน้านี้
ก็ต้องถามต่อว่า แล้วที่ว่านั้นปล่อยมาจากไหน ก็อ่านไม่ยาก ข่าวออกไปแบบนั้น ใครได้ประโยชน์
ซึ่งก็ไม่พ้น “ทีมผู้กอง” ที่กลายเป็นที่จับจ้อง และ“มีราคา” ขึ้นมาหลังจากที่มีข่าวออกมา
ทั้งที่ความจริงสภาพของพรรคเศรษฐกิจไทยนั้นก็คงไปต่อไม่ได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ขนาดส.ส.ที่หอบหิ้วกันมาจากพรรคพลังประชารัฐ หลายรายก็ “หนีตาย” ชิ่งเข้าสังกัดพรรคอื่น แบบไม่เห็นหัว“ผู้กองนัส” ตั้งแต่ต้น
พูดได้ว่า พรรคเศรษฐกิจไทยกำลังจะอยู่ในสภาพ “แพแตก” ก็เลยมีข่าวปล่อยเรียกราคาตัวเองออกมาก่อน เพื่อหวังจะมี “อำนาจต่อรอง” ระหว่างการดีลกับพรรคเพื่อไทย
ต้องขอบอกอีกว่า ทางเลือกของ“ซุ้มผู้กอง”เวลานี้ มีไม่มาก และพรรคเพื่อไทยก็ดูจะลงตัวที่สุด
และตามท่าทีของ“เจ้าของคอก” ที่ไม่ได้ให้ราคาอะไรมากมาย “ก๊วนผู้กอง” ย้ายไป ก็คงต้องไปต่อคิวอยู่ปลายแถว เหมือนสถานะก่อนที่ “ธรรมนัส” จะใช้โปรย้ายค่ายไปรับใช้ทหารนั่นแหละ!!