“นพ.วาโย” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลอัด “เสี่ยหนู” กัญชาเสรีทำให้เยาวชนเข้าถึงกัญชาง่ายกว่าบุหรี่ ชี้ อยากทำตัวเป็นหมอไปเรียนแพทย์ ก่อนออกนโยบายให้ประชาชน
วันนี้ (28 ก.ย.) นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปเด็กนักเรียนสูบกัญชาในห้องเรียนเผยแพร่เป็นวงกว้างจนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์แสดงความไม่เห็นด้วยไปถึงนโยบายเสรีกัญชาของพรรคภูมิใจไทย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้ออกมาตอบโต้กรณีดังกล่าวโดยให้ความเห็นว่า กฎหมายมีอยู่แล้ว ซึ่งห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี สูบกัญชา ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของโรงเรียนรวมถึงตำรวจที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ นพ.วาโย ไม่ยอมเข้าใจที่นายอนุทินชี้แจง โดยออกมาตอบโต้ว่า นี่เป็นภาพสะท้อนที่เห็นได้อย่างชัดเจนต่อนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นไปเพื่อการแพทย์หรือสันทนาการกันแน่ ในขณะที่ประชาชนที่ไม่ได้ปิดหูปิดตาได้เห็นกันตำตาว่ากัญชาถูกปลดล็อกเอามาใช้ทำอะไร แต่นายอนุทินกลับยังคงกล่าวอ้างอยู่ตลอดเวลาว่า ที่ทำไปนั้นก็เพื่อผลประโยชน์ทางการแพทย์
อันดับแรกเลยที่ต้องพิจารณา คือ ตอนนี้กัญชามีผลประโยชน์อะไรต่อวงการแพทย์ไทยบ้าง? เห็นมีแต่รายงานเคสจากกัญชาเพิ่มขึ้น คุณหมอออกมาบ่นกันรายวัน จนถึงขนาดลงชื่อกันเป็นพัน ๆ คนต่อต้านนโยบายดังกล่าว ก่อนที่จะอ้างว่าจะเอากัญชามาใช้เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ จะต้องรู้ก่อนกว่าวงการแพทย์เขาต้องการอะไร เขาขาดแคลนยาหรือวิธีการรักษาอะไร และกัญชาสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้จริงหรือไม่ หรือรักษาโรคอะไรได้บ้าง การจะตอบคำถามนี้ได้ คนตอบควรจะต้องเป็นหมอ และการจะเป็นหมอได้ก็ต้องไปเรียนหมอให้จบและสอบใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมให้ผ่านทั้ง 3 ขั้นตอนก่อน
นอกจากนี้ นายแพทย์วาโย ยังให้ข้อมูลอีกว่า สถานการณ์กัญชาในประเทศไทยตอนนี้ ถือว่ามีความเสรีมากที่สุดในโลก ประชาชนสามารถหาซื้อกัญชาได้ง่ายกว่าสุราและบุหรี่ เนื่องจากสุรายังมีช่วงเวลาที่ถูกจำกัดการขาย ส่วนบุหรี่นั้นก็ไม่สามารถวางแสดงผลิตภัณฑ์ได้ ณ จุดจำหน่าย
“แต่ที่น่าอนาถจิตอนาถใจที่สุด คือ เหล้ากับบุหรี่นี่คนขายไม่สามารถโฆษณาได้เลยนะ แต่ประเทศไทยตอนนี้นี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนำกระทรวงฯ ออกมาโปรโมตกัญชา นี่มันหนักกว่าเหล้าและบุหรี่อีก”
“คือถ้าจะขายกัญชากันจริงๆ เนี่ย อย่างน้อยมาตรฐานในการจำหน่ายมันต้องไม่ต่ำกว่าบุหรี่ และถ้าจะบอกว่าเอาไปใช้ในทางการแพทย์จริงๆ เนี่ย มันก็ไม่ควรต่ำกว่ามาตรฐานของการควบคุมมอร์ฟีนที่ใช้ในทางการแพทย์ไหม มอร์ฟีนเนี่ยเวลานำเข้าก็ต้องผ่านกระทรวงสาธารณสุขหมดนะ และโรงพยาบาลไหนจะซื้อก็ต้องขออนุญาตกระทรวงด้วย จะซื้อเท่าไร จะเก็บไว้ในโรงพยาบาลเท่าไร ต้องบอกกระทรวงและกระทรวงต้องรู้และควบคุมได้ทั้งหมด เวลาหมอจะจ่ายยามอร์ฟีนให้คนไข้เนี่ย หมอต้องเขียนบันทึกและรายงานโรงพยาบาล เพื่อให้โรงพยาบาลเก็บไปรายงานกระทรวงอีกทีด้วยว่า ใช้ไปเท่าไร กับใคร และเหลือคงค้างอยู่เท่าไร อย่างน้อยมันก็ต้องแบบนี้”
“ผมอยากฝากไปถึงนายอนุทิน หรือที่เรียกตัวเองว่าหมอหนู และชอบมาให้ข้อมูลกัญชาทางการแพทย์แบบผิดๆ ว่าถ้าอยากทำตัวเป็นหมอ ให้ไปเรียนแพทย์มาก่อนออกนโยบายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน” นพ.วาโย ทิ้งท้าย