สไตล์ “โทนี่แม้ว”!? “เพจดัง” ขุด “วีรกรรม 13 ปี” เตือนความจำ ปี 64 หลอกคนไทยลงทุน “คริปโต” ปีนี้ให้กอดเงินสดไว้ “โซเชียล” แห่ประจาน “ดร.เสรี” ซัด เห่าแต่เรื่องเท็จ! เลิกเพ้อ “แลนด์สไลด์” กลับไทยแบบ “ไร้มลทิน”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (22 มิ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพกราฟิก “ย้อน 13 ปี ทักษิณทำร้ายประเทศไทย” ของ “ท็อปนิวส์ออนไลน์” พร้อมข้อความระบุว่า
“2564 หลอกคนไทยลงทุนในคริปโต 😂
#กูชอบติ่งแม้วมาดิ้น เดี๋ยวมันจะมีขาประจำเข้ามา รอดู”
ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก The METTAD ก็ได้โพสต์ภาพ “ทักษิณ” พร้อมข้อความสนับสนุน การลงทุนใน “คริปโต” เทียบกับวันนี้ที่ออกมาเป็นผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง ให้กอดเงินสดเอาไว้ดีกว่า
พร้อมระบุว่า “น้อมนัมภ์คัมสอห์น”
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดนายทักษิณ ชินวัตร หรือ TonyWoodsome อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ CareTalk X CareClubhouse เรื่อง เศรษฐกิจพังยับ ประยุทธ์รับมือไม่ไหว เมื่อวันอังคารที่ 21 มิถุนายน 2565 เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป ตอนหนึ่งพูดถึงเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency ว่า
คุณจะทำยังไงต่อ? กับความผันผวนในตลาดทอง
IC Markets
“...วันนี้กอดเงินสดไว้เลย...”
ในสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานการณ์โลกแบบนี้ ผมขอแนะนำเลยว่า
ผู้ที่ลงทุนไม่ว่าหุ้น หรืออีเทอเรียม หรือบิตคอยน์ ต้องแช่ไว้ก่อน ถ้าถามว่าซื้อดีไหม ต่ำนะ ไม่ต้องรีบซื้อ ถ้าไม่ลงต่อ ก็ยังไม่ไปไหนไกล เพราะความกลัวเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก หุ้นคงไม่ขึ้นมาก หรือไม่ลงกระแทกเต็มที่ แต่ถ้านิวเคลียร์ลงก็ตัวใครตัวมัน คงจะ sideway แต่สไลด์ลงมากกว่าขึ้นอีกนะ
ฉะนั้น ผมว่า “วันนี้กอดเงินสดไว้เลย”
#Tonywoodsome
#คิดเคลื่อนไทย
ขณะที่ในโลกโซเชียลมีเดียมีการแชร์คำพูดของนายทักษิณ ที่เคยกล่าวในรายการ CareTalk X CareClubhouse ในเรื่องเงินคริปโต อาทิ “ผมเชื่อว่า Bitcoin จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการชำระเงิน” “ทักษิณชี้เงินคริปโตเกิดแน่” “ทักษิณชี้ความมั่งคั่งของคนรุ่นใหม่อยู่ในคริปโต” เป็นต้น แต่วันนี้กลับมาแนะนำผู้ลงทุนให้กอดเงินสดไว้
ทั้งนี้ “บิตคอยน์” คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี สร้างโดย Satoshi Nakamoto โดยเป็นสกุลเงินคริปโตแรกที่เกิดขึ้นบนโลก ตั้งแต่วันแรกที่บิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นมานั้น หลายคนก็มองว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่เหมาะกับการสะสมและเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการติดต่อและดำเนินธุรกรรมระหว่างบุคคล
เทคโนโลยีบิตคอยน์บนบล็อกเชนนั้น ทำให้ธุรกรรมระหว่างบุคคลเกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัยและน่าเชื่อถือ โดยไม่จำเป็นต้องใช้คนกลางมาดำเนินการ
ตั้งแต่มีบิตคอยน์ สกุลเงินดิจิทัลได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนดีเยี่ยมที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาหุ้นและสินทรัพย์ต่างๆ และนี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้คนนิยมลงทุนกับบิตคอยน์
นอกเหนือจากบิตคอยน์แล้วยังมีสกุลเงินในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 8,000 สกุลเงิน โดยสกุลอื่นๆ เหล่านี้เรียกรวมกันว่า Altcoins (อัลท์คอยน์) ซึ่งย่อมาจาก Alternative Coin นั่นเอง
อ้างอิง https://zipmex.com/th/learn/what-is-cryptocurrency/
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า
“ดิ้นพราดๆ เพราะความหวังที่จะ landslide มันยากแล้ว
ผลงาน พลเอก ประยุทธ์ ก็ชัดเจน มีคนพอใจ
ภูมิใจไทย พูดเรื่องกัญชาไว้ ทำได้จริง ส.ส. ไหลเข้า
หมู่บ้านเสื้อแดง กลับใจ ไม่เอาเขาแล้ว เพราะรู้เท่าทันแล้ว
ลูกสาวไม่มีดีพอที่จะดึงคะแนนคนรุ่นใหม่ได้ เขานิยมก้าวไกลมากกว่า
พรรคกำลังเผชิญเลือดไหลออก เดินเข้าภูมิใจไทย
ตอนนี้ต้องตั้งหน้าตั้งตาเห่าด่ารัฐบาลด้วยความเท็จ
แต่ประชาชนเห็นความจริงเชิงประจักษ์ว่าที่เห่าออกมานั้นเท็จ
การยื่นอภิปรายรัฐบาล ข้อความก็เลื่อนลอย เต็มไปด้วยวาทกรรมก่นด่า ด้อยค่ารัฐบาลแบบไม่มีความจริงเชิงประจักษ์มาสนับสนุนให้มีน้ำหนัก
ดิ้นพราดๆ ขนาดนี้ อาการหนักนะคะ เกรงจะไม่ได้ landslide
เลิกคิดที่จะกลับประเทศแบบไร้มลทินเถอะนะ อยากกลับมาก็ต้องยอมติดคุกนะ ถ้าไม่ยอมติดคุก ก็อยู่ให้สุขสบายนอกประเทศเถอะ
แล้วหยุดป่วนประเทศไทยเสียทีนะ”
แน่นอน, เรื่องเกี่ยวกับ “ทักษิณ” หรือ “โทนี่” ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นอะไร แต่ที่ไม่ยอมเปลี่ยนคือ การโอ้อวด อวดรู้ทุกเรื่อง หลายเรื่องถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ก็จะเห็นว่า เขาเป็นคนที่น่าทึ่ง รอบรู้ และน่าเชื่อถือ แต่ถ้าจับได้ไล่ทัน ก็จะรู้ทันทีเช่นกันว่า เป็นแค่การขายความคิด ความเชื่อ และคุยโตโออวดเสียมากกว่า ความจริงก็อาจมีแค่ครึ่งเดียว?
เป็นการพูดเพื่อหวังผลทางการเมืองต่อกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อ แทบทุกเรื่องนั่นเอง ผิดถูกค่อยมาแก้ไขในภายหลัง
ส่วนการบริหารประเทศที่ผ่านมา ก็มีทั้งเรื่องดีที่ประชาชน โดยเฉพาะ ทำให้ “คนรากหญ้า” ประทับใจ “รักทักษิณ” มาจนถึงวันนี้ และเรื่องที่ทำให้ “ชนชั้นกลาง” ในเมืองจำนวนมหาศาลออกมาเดินขบวนขับไล่ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเชิงนโยบาย ทั้งตัว “ทักษิณ” และรัฐมนตรีในรัฐบาล และแม้กระทั่งใน “ระบอบทักษิณ” ที่มีการสืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับ “นอมินี (ตัวแทน)” ก็เช่นกัน
ดังนั้น สิ่งที่ “ทักษิณ” พูดในวันนี้ ไม่ว่าจะในนาม “โทนี่” ที่ไม่อยากให้คนจำชื่อเดิม ก็หนีไม่พ้นภาพลักษณ์เดิม หรือ “วีรกรรม” ที่ทำเอาไว้ในอดีตตามมาหลอกหลอนอย่างไม่มีทางหลีกพ้น
อย่างที่มีการหยิบยกมาดังกล่าวนั่นเอง