xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจฯ ถกแก้ปัญหายูเซ็ป หลังพบ 3 ปม ทำการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตไม่สมบูรณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน หารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง หวังแก้ปัญหายูเซ็ป หลังพบ 3 ประเด็นหลักทำการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตไม่สมบูรณ์

วันนี้ (21 มิ.ย.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ซึ่งเป็นนโยบายของภาครัฐที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก แต่พบว่าในปัจจุบันยังมีปัญหาและอุปสรรคในทางปฏิบัติที่ทำให้การดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองด้านสุขภาพของประชาชนและลดความเหลื่อมล้ำในการมีสิทธิเข้ารับการรักษาในภาวะฉุกเฉินวิกฤตอย่างเท่าเทียม ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงหยิบยกปัญหาเรื่องการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ขึ้นพิจารณาเร่งแก้ไขตามบทบาทหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินในการพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยไม่มีการร้องเรียน และได้ดำเนินการตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งหลังแสวงหาข้อเท็จจริง ลงพื้นที่หารือร่วมกับหน่วยงาน การสัมภาษณ์เก็บข้อมูลเชิงลึก และการชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมบัญชีกลาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน พบว่ามีปัญหาอุปสรรค 3 ประเด็นหลัก คือ

1. ขั้นตอนการรับตัวผู้ป่วย ผู้ป่วย หรือญาติของผู้ป่วยยังมีความไม่เข้าใจต่อนิยามคำว่า การเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต และการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด โรงพยาบาลเอกชนไม่ทำการตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉินผ่านระบบ Emergency Pre-Authorization (PA) ในรายของผู้ป่วยที่ฉุกเฉินวิกฤต หรือทำการประเมินแต่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนยังมีความไม่มั่นใจว่าจะสามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากกองทุนตามสิทธิของผู้ป่วยได้ โดยแต่ละกองทุนใช้กฎหมายและระเบียบที่แตกต่างกันทำให้โรงพยาบาลเอกชนปฏิเสธการเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต

2. ขั้นตอนการส่งต่อผู้ป่วย เมื่อพ้นภาวะวิกฤตฉุกเฉิน กรณีไม่มีแนวทางพิจารณาที่ชัดเจนเกี่ยวกับอาการพ้นภาวะฉุกเฉินวิกฤตของผู้ป่วย โรงพยาบาลภาครัฐ หรือโรงพยาบาลตามสิทธิไม่สามารถรับย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเมื่อพ้นภาวะวิกฤติหรือครบ 72 ชั่วโมงได้

3. การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลยา หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนใช้รักษาผู้ป่วยวิกฤตไม่สอดคล้องกับบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินที่ได้กำรมนเหนดไว้ จึงทำให้โรงพยาบาลเอกชนไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ หน่วยงานสังกัดรัฐวิสาหกิจยังดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎ ระเบียบของหน่วยงาน เพื่อให้รองรับการจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินให้แก่โรงพยาบาลเอกชนไม่แล้วเสร็จ เป็นเหตุให้โรงพยาบาลเอกชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

วันนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพิ่มเติม ร่วมกับทันตแพทย์ อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โรงพยาบาลราชวิถี สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สำนักงบประมาณ สำนักงานประกันสังคม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรมบัญชีกลาง เพื่อรับทราบปัญหาและร่วมเสนอแนะทางออกกรณีดังกล่าว ซึ่งข้อมูลที่ได้จะนำไปวิเคราะห์ และแสวงหาข้อเท็จจริงในประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีให้เกิดการแก้ไขปัญหาเชิงระบบในระยะยาว










กำลังโหลดความคิดเห็น