xs
xsm
sm
md
lg

“บอลนี่-เมธา ชลิงสุข” เจ้าของ “ดารุมะ ซูซิ” จากธุรกิจมาแรง ฝันเข้าตลาดหุ้น สุดท้ายเผ่นหนีเพราะ “คูปองทิพย์” ฉ้อโกงลูกค้า!! **“อุ๊งอิ๊ง” ปลุกเสื้อแดง ทำสงครามสีเสื้อรอบใหม่ ไฮไลต์อยู่ที่การประชุมเอเปก!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“บอลนี่-เมธา ชลิงสุข” เจ้าของ “ดารุมะ ซูซิ” จากธุรกิจมาแรงฝันเข้าตลาดหุ้น สุดท้ายเผ่นหนี เพราะ “คูปองทิพย์” ฉ้อโกงลูกค้า!!

จากกรณี ดารุมะ ซูซิ (Daruma sushi) ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น ปิดตัวลงกะทันหัน พร้อมกับเท พนักงาน แฟรนไชส์ และลูกค้า จนเกิดเป็นดรามาโกลาหล โดยเฉพาะลูกค้าที่ซื้อวอยเชอร์ หรือ คูปอง ใช้บริการร้านดารุมะ ซูชิ ในราคา 199 บาท ซึ่งคาดกันว่า มีผู้เสียหายเป็นลูกค้า และเหล่าผู้ซื้อแฟรนไซส์ จำนวนมาก ซึ่งต่อมาได้รวมตัวกันแจ้งความดำเนินคดี คิดมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

พร้อมๆ กับกระแสดรามา ก็มีข่าวว่า เจ้าของบุฟเฟ่ต์ “ดารุมะ ซูชิ” ... บอล หรือ บอลนี่ - “เมธา ชลิงสุข” หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการโพสต์ถึงการถูกลอยแพ “คูปองบุฟเฟ่ต์ทิพย์” ในวันถัดมา

เห็นว่า จากนี้ ตำรวจ บก.ปคบ. อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับ “บอลนี่” ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัวมาดำเนินคดี

ถามไถ่กันว่า บอล หรือ บอลนี่ “เมธา ชลิงสุข” เป็นใคร เส้นทางเป็นอย่างไร ก่อนจะเสก “คูปองทิพย์” ทำกับลูกค้าและแฟรนไซส์ได้ลงคอ

ว่ากันว่า “บอลนี่” วัย 42 ปี เคยถูกจับตามองในฐานะนักธุรกิจรุ่นใหม่มาแรงที่ใช้เวลาเปิดร้านซูชิ เพียง 6 ปี ซึ่งแม้แต่ช่วงโควิดระบาด ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลับขยายสาขามากถึง 26 สาขา ในจำนวนนี้ “บอลนี่ เมธา” เป็นเจ้าของเอง 6 สาขา ที่เหลือจะเป็นของผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ กับทางบริษัท ดารุมะ ที่เขาถือหุ้นใหญ่

เรียกว่า เติบโตสวนกระแสโควิด!!

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า “บริษัท ดารุมะ ซูชิ จำกัด” ของ บอลนี่-เมธา จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 59 ทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท

 เมธา ชลิงสุข
ข้อมูลงบการเงินปี 2564 ณ วันที่ 17 มิ.ย. 65 แจ้งว่า มีรายได้รวม 45.62 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.25 ล้านบาท ซึ่ง 3 ปีย้อนหลัง บริษัท ดารุมะ ซูชิ จำกัด มีกำไรหลักล้านบาททุกปี

ก่อนที่จะเริ่มเปิดบริษัท เมื่อปี 2559 เขาเข้าเรียนหลักสูตรการทำซูชิ ที่โรงแรมดุสิตธานี และเริ่มด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 2 ล้านบาท เปิดร้านดารุมะ ซูชิ ร้านแรกที่อุดมสุข ซอย 50
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ “ดารุมะ ซูชิ” เปิดได้มากมายหลายสาขา มีการวิเคราะห์กันว่า เพราะร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ เปิดธุรกิจแฟรนไชส์ให้ผู้สนใจร่วมลงทุน 2.5 ล้านบาท อายุสัญญา 5 ปี ภายใต้เงื่อนไข ต้องซื้อวัตถุดิบโดยตรงจากต้นสังกัด และต้องคืนส่วนแบ่งการขาย (Gross Profit) 2% ให้สำนักงานใหญ่ด้วย

“บอลนี่” เคยให้สัมภาษณ์ "ไฮโซกอสซิป" เมื่อต้นปีนี้ เล่าว่า ตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ที่หันมาทำธุรกิจของตัวเอง และ ล้มลุกคลุกคลานมาเหมือนกัน ซึ่งเจ้าตัวตั้งเป้าว่าจะนำธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 3 ปีข้างหน้า และจะมีสาขาอย่างน้อย 50 สาขา เป็นอย่างต่ำ

สำหรับ Daruma Sushi “เมธา” บอกว่า เป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นเอง ที่ใช้ชื่อนี้เพราะ “ฝันถึง” ก็คือ ตอนแรกกลับมาออสเตรเลีย อยากทำธุรกิจส่วนตัว เพราะก่อนหน้านี้ เคยทำงานร้านอาหารไทย พอกลับมาเมืองไทยก็ฝันอยากมีร้านอาหารของตัวเอง ตอนนั้นคิดว่าจะเปิดร้านอาหารสักร้าน แล้วตอนนั้นธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นดังมาก ใครๆ ก็อยากเปิด หรือประมาณเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว

ตอนนั้นก็คิดว่าอยากมีมาสคอตสักตัว ที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ตัวเอง ก็ฝันถึงตุ๊กตาล้มลุกก็เลยเอามาเป็นชื่อร้านตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้

แรกๆ “เมธา” บอกว่า ไม่ได้ขายเป็นบุฟเฟ่ต์ แต่ขายเป็น A La Carte ก่อน เขากับเชฟเป็นคนช่วยกันคิดเมนูขึ้นมา จนตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นบุฟเฟ่ต์ ตั้งเป้าไว้ว่าอยากจะขยายปีละ 10 สาขา


มาถึงตอนนี้ก็คิดว่ามาครึ่งทางแล้วครับกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับหลักการดำเนินธุรกิจ “ซื่อสัตย์กับลูกค้า” เป็นร้านอาหารที่ขายของมีคุณภาพ ราคาต้องจับต้องได้ สะอาด ส่วนเมนูอาหารก็ต้องคิดอยู่เรื่อยๆ ต้องไม่หยุดนิ่ง อย่างช่วงนี้ลูกค้าฮิต “ปลาแซลมอนดอง” ก็เอามาใส่เมนูในร้าน แต่ก็ไม่ได้ให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่ม แต่เพิ่มเป็นออปชันให้ลูกค้าได้เลือก เป็นแซลมอนดองซีอิ๊ว สูตรของร้าน โดยสโลแกน Daruma Sushi คือ กินไม่อั้น ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม!
นี่คือ บทสัมภาษณ์ “บอลนี่” ในวันนั้น แต่วันนี้ “คูปองทิพย์” ได้พิสูจน์ตัวตนคนอบ่าง บอลนี่ เรียบร้อย โดยที่กูรูด้านธุรกิจแฟรนไซส์ สำทับให้คำอธิบายว่า ...“ดารุมะ ซูชิ ไม่ได้ตั้งใจทำธุรกิจแฟรนไชส์ ตั้งแต่แรก หากแต่เซตธุรกิจขึ้นมาเพื่อเจตนาหลอกลวงตั้งแต่เริ่ม”

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้



**“อุ๊งอิ๊ง” ปลุกเสื้อแดง ทำสงครามสีเสื้อรอบใหม่ ไฮไลต์อยู่ที่การประชุมเอเปก!!


หลังจาก “จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์-ธีระ ไตรสรณกุล-ผ่องศรี แซ่จึง” 3 ส.ส.เพื่อไทย จ.ศรีสะเกษ ส่งสัญญาณเตรียมย้ายไปซบอก “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และได้แสดงออกให้เห็น ด้วยการโหวตสวนมติพรรคในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 66 ที่ผ่านมา

พรรคเพื่อไทย ก็อยู่เฉยไม่ได้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จึงต้องเปิดยุทธการ “ไล่หนู ตีงูเห่า” เป็นอีเวนต์ใหญ่ที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเปิดเวทีปราศรัยที่ อ.อุทุมพรพิสัย อ.ราษีไศล และ อ.ขุนหาญ พื้นที่หลักของทั้ง 3 ส.ส.

แต่ 3 วันก่อนที่จะบุกศรีสะเกษ “อุ๊งอิ๊ง” ได้ทำการเปิดตัว “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำคนเสื้อแดงในยุค “เผาบ้านเผาเมือง” กลับมาร่วมงานในฐานะ “ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย”... เพื่อร่วมปลุกพลังคนเสื้อแดง ชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน มาร่วมกันทำแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

เสาร์ที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา “อุ๊งอิ๊ง” และ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร พร้อม “เต้น” ณัฐวุฒิ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาฯพรรค สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค จาตุรนต์ ฉายแสง ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ขัตติยา สวัสดิผล ตลอดจนแกนนำครอบครัวเพื่อไทย อีกหลายคน ในพื้นที่อีสานเหนือ อีสานใต้ ต่างมาร่วมผนึกกำลัง

แพทองธาร ชินวัตร
คณะของ “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเครื่องเดินทางไปลงที่สนามบินอุบลราชธานี ก่อนเดินทางไปศรีสะเกษและที่สนามบินอุบลฯ ก็มีมวลชนนับพันมารอรับ มวลชนที่มานั้นไม่ได้ใส่เสื้อหลากสีอย่างที่ควรจะเป็น... แต่ใส่เสื้อแดง “ครอบครัวเพื่อไทย” มารอรับกันจนล้นอาคารผู้โดยสารประมาณว่าสนามบินแทบแตก....ทั้งที่เป็นมวลชนจัดตั้งทั้งนั้น!!

แน่นอนว่า เมื่อระดับ “หัวหน้าครอบครัว” และ “ผู้อำนวยการครอบครัว” มาเยือน “เกรียง กัลป์ตินันท์” แกนนำพรรคเพื่อไทย “วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์” ส.ส.อุบลราชธานี รองเลขาธิการพรรค ในฐานะเจ้าบ้าน ย่อมจัดหนัก จัดหาเสื้อแดง จัดตั้งคนมาต้อนรับอย่างเต็มที่ ...รวมทั้ง ส.ส.ยโสธร ส.ส.อำนาจเจริญ จังหวัดใกล้เคียง ก็เกณฑ์กันมาพรึบ

ยิ่งช่วงการปราศรัยของ “อุ๊งอิ๊ง” และแกนนำเสื้อแดงในอดีต ที่ระดมกันมาขึ้นเวทีที่ศรีสะเกษ ก็มีการเสนอภาพผ่านโซเชียลฯ ให้เห็นว่า มีคนเสื้อแดงมาต้อนรับและฟังการปราศรัยมากมายสุดลูกหู ลูกตา... แต่ก็มีผู้เข้ามา “จับโป๊ะ” ว่าแม้จะมีคนมาต้อนรับจำนวนมาก แต่ภาพที่เห็นนั้นเป็นภาพตกแต่งเพื่อการเผยแพร่ทางโซเชียลฯ ให้แฟนคลับเสื้อแดงได้แชร์ ได้ปลุกเร้ากันโดยเฉพาะ

และภาพความสำเร็จของการระดมพลคนเสื้อแดงแบบ “ศรีสะเกษโมเดล” กำลังจะถูกนำไปใช้ในการปลุกพลังเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ ทั่วภาคอีสาน เพราะมี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย หลายจังหวัดเตรียมจองคิวจัดเวทีในลักษณะนี้กันแล้ว

เพราะการขนคน แจกเสื้อแดง พร้อมค่าเดินทาง ถือว่าไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากยังไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ในขณะที่สังคมโดยรวมกำลังพยายาม “สลายสีเสื้อ” เพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาติ ...แม้แต่ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ซึ่งเป็นหน่อเนื้อของ “เพื่อไทย” ยังบอกว่าจะเป็นผู้ว่าฯ ของทุกคน ไม่มีการแบ่งสีเสื้อ

แต่สิ่งที่ “อุ๊งอิ๊ง” กำลังทำคือ “รือฟื้นสีเสื้อ” ปลุกคนเสื้อแดงเพื่อผลทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ทั้งๆ ที่พอจะเห็นภาพในอนาคตว่าหากทำเช่นนี้ คงยากที่เลี่ยงการเกิด “สงครามสีเสื้อ” อีกครั้งไม่ได้

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มีผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง มองว่า “พรรคเพื่อไทย” กำลังเดินเกมปลุกพลังเสื้อแดงที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ...ขณะที่ในกรุงเทพฯ ก็จะมีม็อบขับไล่ “บิ๊กตู่” ทุกๆ สุดสัปดาห์ต่อเนื่องกันไป เริ่มตั้งขบวนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือทำเนียบรัฐบาล และปิดท้ายด้วยการเผาที่แยกดินแดง

และเป็นไปได้ว่า ช่วงการประชุมเอเปก ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นงานที่ “บิ๊กตู่” หมายมั่นปั้นมือว่าจะมีได้หน้ามีตา ได้กระทบไหล่ระดับผู้นำจากประเทศต่างๆ ...มวลชนคนเสื้อแดงจากต่างจังหวัด ก็จะเคลื่อนขบวนเข้ามาสมทบกับม็อบในกรุง

แล้วเหตุการณ์จะซ้ำรอย การประชุมเอเปกที่พัทยาเมื่อปี 2552 หรือไม่ เป็นเรื่องที่ไม่อยากคิด !!




กำลังโหลดความคิดเห็น