ข่าวปนคน คนปนข่าว
**มาถึงขนาดนี้แล้ว เปลี่ยนชื่อ ส.ฟุตบอลเป็น “ส.บิทคับ” ไปเลยเหอะ “ทั่นสมยศ”
สมาคมฟุตบอลเต้นเป็นเจ้าเข้า หลังมีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันว่า ผู้ใหญ่ในสมาคมฯจะให้ “บิทคับ” บริษัทที่ทำธุรกิจตลาดซื้อขายคริปโต สปอนเซอร์ของสมาคมฯเข้ามาทำทีมชาติชุด ยู-19 ที่เตรียมไปแข่งขันรายการชิงแชมป์อาเซียน “2022 เอเอฟเอฟ ยู-19 ยูธ แชมเปี้ยนชิพ” ระหว่างวันที่ 2-15 ก.ค.นี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย
ข่าวลือกันว่า เป็นทางบิทคับที่ยื่นข้อเสนอให้ ส.ฟุตบอล อยากเข้ามาทำทีมยู-19 โดยที่ผู้ใหญ่ในสมาคมฯ เรียกผู้บริหารบิทคับมาพูดคุยกันแล้ว ถึงขึ้นจะปลดสตาฟฟ์ชุดเดิมออกเพื่อเปิดทางให้บิทคับของ “ท็อป” - พาทีมงานของตัวเองเข้ามาจัดการแทน แต่บังเอิญข่าวรั่ว หรือความแตกถูก “จับโป๊ะ” อย่างไรไม่ทราบได้ จึงกลายเป็นกระแสในโซเชียลฯ ขึ้นมาก่อน
ร้อนถึง “โจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องออกโรงมาสยบดรามาข่าวลือ หรือพูดแทนสปอนเซอร์รายนี้ว่า ไม่จริ๊ง ไม่จริง การสนับสนุนนี้ บิทคับ ต้องการเสริมในเรื่องของเทคโนโลยีด้านกีฬา หรือ Sport technology เช่น การเก็บสถิติต่างๆ ทั้งในการฝึกซ้อม และแข่งขัน และที่สำคัญ บิทคับ จะเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องดังกล่าวให้กับทีมชาติไทยทุกชุด ไม่ใช่เพียงรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีเท่านั้น
เลขาฯ ส.ฟุตบอล ยังออกตัวแทน บิทคับ ว่า มีความสนใจในด้านกีฬาโดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล ประกอบกับเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี การเข้ามาช่วยเสริมในจุดที่เป็นจุดแข็งของบริษัทนี้ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกับทั้งสองฝ่าย และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านกีฬาของไทยใปสู่กีฬาอื่นอีกด้วย เพราะในไทยยังทำเรื่องเทคโนโลยีกีฬาในวงจำกัด และ เป็นการนำเข้าเทคโนโลยีที่มีราคาเข้าถึงยาก การเริ่มที่ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ก็น่าจะเหมาะสม เป็นรุ่นระดับเยาวชนที่มีข้อมูลในระบบฐานข้อมูลสมาคมตั้งต้นให้นำไปต่อยอดได้
ฟังแล้วก็คล้ายๆ จะเข้าใจได้ว่า ส.ฟุตบอล และ บิทคับ มีความร่วมมือกันชนิดที่แฟนบอลต้องชี่นชมเสียด้วยซ้ำ เพราะ บิทคับ เข้ามาเป็นมากกว่าสปอนเซอร์ธรรมดา จะทำให้ ส.ฟุตบอลเชื่อมโลกอนาคตอีกต่างหาก แต่คำถามก็มีว่า นี่เป็นข้อตกลงที่ไปคุยกันตอนไหน?
เนื่องเพราะ ที่ผ่านมา การเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ของบิทคับ ให้ ส.ฟุตบอล ถูกตั้งข้อสงสัย จ่ายเท่าไหร่กันแน่ หรือแค่จ่ายเหรียญ “Kub” ก็เป็น พาทิศ คนนี้ที่ออกมากางสัญญาระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอล กับ บิทคับ ว่า มีอยู่ 2 ส่วน คือ 1. ให้การสนับสนุนเป็นเงินสด และ 2. การนำเหรียญ KUB มาทำกิจกรรม
ไม่มีส่วนไหนที่บอกว่า บิทคับ จะมาดูแลเรื่องเทคโนโลยีให้สมาคมฯ
พอมีเรื่องว่า บิทคับ จะเข้ามาคุมทัพยู-19 กลับมีความร่วมมือนี้โผล่มาซะงั้น คนเขาก็สงสัยว่า มีอะไรที่แฟนบอลไม่รู้อีกมั้ย มีอะไรที่ ส.ฟุตบอล ตกลงจะทำกับบิทคับ ?
รู้ๆกันว่า บิทคับ เป็นเจ้าของตลาดซื้อขายคริปโต เป็นบริษัทที่โหมโฆษณาทำการตลาดอย่างบ้าคลั่ง เพื่อชวนคนไปลงทุนคริปโตเยอะๆ ยิ่งมีลูกค้าเปิดบัญชีเยอะ นั่นก็หมายถึงเก็บกินค่าต๋ง ทำรายได้ก้อนโต โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
งานนี้บิทคับจ่ายเงินบวก Kub คอยน์ ที่ตอนนี้ราคาร่วงหนักให้สมาคมฟุตบอลตีเป็นมูลค่าไม่ได้มากมาย แต่กลับได้มาคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม "ท็อป" จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เอาฟุตบอลไทยไปทำการตลาด ขึ้นป้ายคูนักฟุตบอลทีมชาติไปทั่วบ้านทั่วเมือง อยากได้อะไร โฆษณาอะไร สมาคมฯจัดให้เต็มที่ ชนิดที่สปอนเซอร์รายอื่นๆ ที่จ่ายมากกว่ามองตาปริบๆ
เพียงเพราะว่า ส.ฟุตบอล ก็ต้องการเกาะบิทคับให้ภาพลักษณ์สมาคมฯดูทันสมัยอยู่ในโลกอนาคตเท่าทันเทคโนโลยีล้ำยุคกะเขาบ้าง
ทำไปทำมา สมาคมฟุตบอลไทยยอมกลายเป็นที่ที่เข้ามาหาแสง มาทำการตลาดหากินกับเยาวชนของบิทคับไปแล้ว
ไม่ว่าข่าวลือบิทคับ จะเข้ามาคุมทีมชาติยู-19 มีมูลหรือไม่ จริงเท็จแค่ไหน ถามแฟนๆ ดูว่าเชื่อกันแค่ไหน
แต่จากที่สมาคมฯ แอ่นอกป้องบิทคับทุกครั้งที่มีข่าวไม่ดี และ ยอมให้สปอนเซอร์ อยู่เหนือสมาคมฯ นำภาพลักษณ์ทีมชาติไปทำการตลาดอย่างไรก็ได้ ไหนๆ มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็มีข้อเสนอถึง “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ทั่นนายกสมาคมฯว่า เปลี่ยนชื่อ ส.ฟุตบอล เป็น ส.บิทคับ ไปเลยเหอะ ไม่ต้องเหนียม ไม่ต้องกั๊ก เอาให้สุดซอยกันไป.
**“บิ๊กตู่” โชว์ปึ้ก 3 ป. ยังผนึกแน่น ทั้งวันนี้และวันหน้า ทุกอย่างเหมือนเดิม
กระแสข่าวที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อก้าวขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค แล้วดัน “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นหิ้งไปเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค พร้อมปรับโครงสร้างภายใน เตรียมรับศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป
แผนนี้จะขับเคลื่อนหลังมีความชัดเจนว่า “บิ๊กตู่” จะได้ไปต่อ โดยไม่มีปัญหาเรื่องวาระการเป็นนายกฯ 8 ปี
ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยข่าวเพื่อ “เสี้ยม” หรือเป็นการ “โยนหินถามทาง” แต่ก็มีปฏิกิริยาออกมาจากคนในพรรค โดยเฉพาะที่ออกจากปาก “ไพบูลย์ นิติตะวัน” รองหหัวหน้าพรรค ยืนยันว่า “บิ๊กป้อม” จะยังคงเป็นผู้นำทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าในฐานะ “หัวหน้าพรรค” เพราะเป็นเสาหลัก เป็นศูนย์รวมจิตใจของส.ส.ในพรรค รวมทั้งสมาชิกที่จะมาใหม่ ... ส่วน “บิ๊กตู่” นั้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ...หลังการเลือกตั้ง “พลังประชารัฐ” จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง
เพื่อเป็นการยืนยันว่า ไม่มีรอยร้าวใน “พี่น้อง3ป.” เมื่อวันศุกร์ผ่านมา ทั้ง “บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก-บิ๊กตู่” ก็ควงแขนกันไปเปิดงานโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่เมืองทองธานี ทั้งที่งานอย่างนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปพร้อมกันทั้ง 3ป. แต่ที่ไปเพราะเจตนาให้ภาพปรากฏในหน้าสื่อว่า 3พี่น้องยังเหนียวแน่น มั่นคง
และล่าสุด “บิ๊กตู่” ยังย้ำกับสื่อที่ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ เป็นการสร้างภาพกลบปัญหาภายในหรือไม่ว่า... “ก็ร่วมกันมาตลอดนะจ๊ะ ทั้งวันนี้และวันหน้า ทุกอย่างเหมือนเดิม โทรฯและคุยกันทุกวัน เจอกันก็บ่อย”
เมื่อ “3ป.” แสดงออกอย่างนี้ ฝ่ายค้านที่กำลังโหมโรงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ก็เลยเคาะสรุปออกมาว่า จะจัดให้ทั้ง “3 ป.” พ่วงไปอีก 7 รัฐมนตรี โดยเป็นรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ 3 คน คือ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน และผู้อำนวยการพรรค รวมทั้ง “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลฯ และรองหัวหน้าพรรค
ส่วนอีก 4 รัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลก็มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย... “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ...โดยจะยื่นญัตติในวันที่ 15 มิ.ย. แล้วไปอภิปรายกันในช่วงวันที่ 18-22 ก.ค. 4 วันรวด
และเพื่อให้เห็นถึงแรงกดดันทั้งนอกสภาในสภา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจึงมี “ม็อบทะลุแก๊ส” ออกมาป่วนเมืองแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ข้อเรียกร้องก็เน้นขับไล่ “บิ๊กตู่” โดยเฉพาะ และเชื่อว่า จะมีการจัดม็อบออกมาโหมกระแสไปจนถึงช่วงที่จะมีการอภิปราย
“สุทิน คลังแสง” แกนนำพรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน ถึงกับประกาศว่า ฝ่ายค้านมีข้อมูล และหลักฐานทุจริตของรัฐบาลชัดเจน งานนี้ประชาชนที่ได้รับฟังจะเชื่อทันทีว่า รัฐบาลทุจริตอย่างแน่นอน เราจะน็อกบรรดารัฐมนตรีกลางสภา แล้วให้ไปตายในสนามเลือกตั้ง
ฟังคำประกาศของ “สุทิน” ก็เหมือนจะยอมรับอยู่ในทีว่า แม้จะมีข้อมูล มี “ใบเสร็จในทางการเมือง” แต่เมื่อถึงเวลายกมือก็คงสู้จำนวนมือของฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ ถึงต้องรอให้ไปตายในสนามเลือกตั้ง
แต่มีที่น่าสนใจอยู่ว่า แม้จะโหวตคว่ำรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็ต้องมาวัดกันว่า ใครจะได้คะแนนมาก น้อย ต่างกันแค่ไหน โดยเฉพาะในบรรดาพี่น้อง 3 ป.
จุดนี้ ชื่อของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่ขึ้นนั่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ก็จะเข้ามามีส่วนทันที เชื่อว่าเสียง ส.ส.กว่า 10 เสียงที่อยู่ในก๊วนธรรมนัสนั้น โหวตให้ “บิ๊กป้อม” แน่ แต่จะโหวตให้ “บิ๊กตู่” กับ “บิ๊กป๊อก” หรือไม่ ต้องถามใจเธอดู
สำหรับ “ธรรมนัส”แล้ว แม้จะโค่น “บิ๊กตู่” ไม่ได้ แค่ทำให้เสียหน้าได้ก็สะใจแล้ว