ข่าวปนคน คนปนข่าว
**วันนี้ที่รอคอย ปลดล็อกกัญชา กระแสดรามา-เตะตัดขา หรือจะสู้ความต้องการมหาชน งานนี้ต้องยกเครดิตให้ “หมอหนู-ภูมิใจไทย” ไปเต็มๆ
9 มิถนายน 2565 วันที่คนไทยทั้งประเทศรอคอยก็มาถึง เมื่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ที่ตัด “กัญชา” ออกไปเรียบร้อยแล้ว มีผลบังคับใช้ เท่ากับเป็นการปลดปล่อยกัญชาให้เป็นอิสระ หลังจากถูกคุมขังด้วยคำว่า “ยาเสพติด” มานาน 40 กว่าปี
กระแสตอบรับการปลดปล่อยกัญชามากมายมหาศาลแค่ไหน ดูจากเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” หรือ “Plookganja” ของ อย. ที่จัดเตรียมไว้เป็นช่องทางให้ประชาชนได้เข้าไปจดแจ้งการปลูกกัญชานั้น “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะกรรมการและโฆษกคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จนถึงเวลา 16.00 น. ของวานนี้ (9 มิ.ย.) มีผู้ให้ความสนใจเข้าไปในเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันมากถึง 9,023,194 ครั้ง และเป็นผลทำให้เว็บล่ม และยังไม่สามารถรับจดแจ้งได้ทั้งหมดทุกราย
เป็นปรากฏการณ์ “ปลูกกัญ” ที่เป็นประวัติศาสตร์การกลับมาของกัญชาในประเทศไทยที่จะนำมาใช้เพื่อทางการแพทย์ ดูแลสุขภาพ และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
สำหรับวานนี้ แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ออกใบรับรองอัตโนมัติในการจดแจ้งสำเร็จทั้งสิ้น 152,700 ราย แบ่งเป็น การออกการรับรองจดแจ้งเพื่อขอปลูกกัญชาสำเร็จ 120,837 ราย และกัญชง 5,400 ราย และทาง อย.กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันให้รองรับได้มากขึ้นกว่านี้ และจะเร่งทยอยเพื่อให้ได้รับการจดแจ้งทุกรายให้สำเร็จต่อไป
แต่ทว่า ท่ามกลางความยินดีปรีดาของคนจำนวนมหาศาล ก็ยังมีกระแสดรามาจากคนบางกลุ่ม ที่พยายามสร้างภาพลบให้กับการปลดล็อกกัญชา เช่น ดาราบางคนที่โพสต์ข้อความเหมือนประชดประชัน ทำนองว่า กัญชาถูกกฎหมายแล้ว ใครไม่เคยลอง ให้ลองดูดก่อน อย่าลองกิน เพราะคนกินถูกหามเข้า รพ.มาเยอะแล้ว
ที่หนักและแรงสุดก็เป็น “หม่อมปลื้ม” ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ที่ออกอาการฟาดงวงฟาดงาในรายการ “The Daily Dose โลกการเมือง” ทางวอยซ์ ทีวี หัวข้อ “ไม่สนเยาวชนติดกัญชาบ้างเลยหรือ” กล่าวหาว่า การทำให้กัญชาถูกฎหมายจะทำให้เด็กและเยาวชนติดกัญชา ซ้ำประกาศเชิญชวนในรายการว่า ต่อไปนี้ อย่าไปเลือกมัน พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคที่ทำให้กัญชาถูกกฎหมาย พูดมาแบบนี้ พรรคภูมิใจไทยก็อยู่เฉยไม่ได้ “ศุภชัย ใจสมุทร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค ประกาศชัดว่า ทางพรรคจะให้ ส.ส.แต่ละเขต รัฐมนตรีของพรรค และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ เอาผิด “หม่อมปลื้ม” ตามจังหวัดต่างๆ และถ้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เจ้าของสื่ออย่าง Voice tv รู้เห็นเป็นใจ ก็จะดำเนินคดีกับ voice tv ด้วย เพราะถือว่ารายการที่ออกอากาศในวันนั้น มีถ้อยคำหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้สมาชิกพรรค และพรรคภูมิใจไทย เสียหาย เป็นการใส่ร้ายป้ายสีพรรค มีลักษณะข้อความอันเป็นเท็จ
ก็ไม่ผิดหรอก ถ้าจะแสดงความห่วงใยต่อเยาวชนที่อาจจะเข้าถึงยาเสพติดง่ายขึ้นจากการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย แต่ก่อนที่จะออกมาคัดค้านก็ควรจะดูรายละเอียดของกฎหมายและเจตนารมณ์ของการปลดล็อกกัญชาเสียก่อน ซึ่งก็ได้มีการเน้นย้ำมาตลอดว่า เป็นการปลดล็อกเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างเต็มที่ ให้ชาวบ้านใช้รักษาตัวเองในครัวเรือน หรือใช้เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของชุมชน โดยยังคงมีกฎหมายควบคุมไม่ให้ครอบครองสารสกัดจากกัญชาที่เรียกว่า THC เกินร้อยละ 0.2 และขณะนี้ก็กำลังมีการออก พ.ร.บ.กัญชาและกัญชง เพื่อควบคุมกำกับดูแลการใช้กัญชา-กัญชง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ให้ใช้ไปในทางที่จะสร้างความเสียหาย เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจเสียใหม่ว่า การปลดล็อกกัญชา ไม่ใช่เพื่อให้พี้กันได้อย่างเสรีตามที่บางคนพยายามบิดเบือน
แต่เอาเถอะ ถึงตอนนี้ ก็ถือว่ามหาชนทั่วประเทศ ตอบรับการปลดล็อกกัญชาในทางที่เป็นบวก มากกว่าลบแล้ว เครดิตทั้งหลายทั้งมวลก็ต้องยกให้ พรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ประกาศนโยบายนี้ตั้งแต่เมื่อครั้งหาเสียงเลือกตั้งตอนต้นปี 2562
หลังจากนั้น ก็ฝ่ากระแสทั้งดรามา ประชดประชัน รวมความพยายามเตะตัดขาโดยคนบางกลุ่ม จนกระบวนการปลดล็อกกัญชาก็เริ่มเป็นรูปธรรม มาตั้งแต่การแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่ได้ผ่านรัฐสภาตั้งแต่ปลายปี 2564 โดยประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 64 เป็นกฎหมายที่ผ่านมติเอกฉันท์โดย ส.ส.และ ส.ว. ซึ่งเป็นการปลดล็อกกัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติดมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ประเภทแกล้งเถรตรง อ้างว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการระบุชื่อยาเสพติดประเภท 5 ยังมีชื่อของกัญชาอยู่ เพราะฉะนั้นใครปลูกหรือครอบครองกัญชา แม้จะเพียงต้นเดียวก็ต้องจับกุม
ในที่สุด “อนุทิน ชาญวีรกูล” เจ้ากระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องออกประกาศฉบับใหม่ที่ตัดชื่อกัญชาออกไป และลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 65 ให้มีผลหลังจากนั้น 120 วัน คือ เมื่อวานที่ผ่านมา
และเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้เป็นกฎหมายรองรับการปลดล็อกกัญชา ก็ผ่านสภาผู้แทนฯ วาระแรกไปแล้ว และมีการตั้งคณะกรรมาธิการคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้น ก็จะเข้าวาระ 2 และวาระ 3 ต่อไป ซึ่งตามเป้าหมาย ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ น่าจะผ่านขั้นตอนของสภาภายในการประชุมสมัยนี้
ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของ “หมอแก่ๆ” บางคนที่กำลังยื่นศาลปกครองให้เพิกถอนการปลดล็อกกัญชา แล้วให้กลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 เหมือนเดิม รวมทั้งการเตะตัดขาโดยพรรคการเมืองบางพรรค ที่ทำให้ พ.ร.บ.กัญชงกัญชา ผ่านออกมาล่าช้า
งานนี้ มหาชนคงต้องเอาใจช่วยพรรคภูมิใจไทยกันอีกยก เพื่อให้ภารกิจการปลดล็อกกัญชาจบลงอย่างสมบูรณ์แบบเสียที
**ฝ่ายค้านเปิดยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ซักฟอก “3 ป.” พ่วง 7 รัฐมนตรี
หลังจากโหมโรงมาพักใหญ่ ในที่สุดพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เคาะออกมาแล้วว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ตั้งชื่ออย่างดุเดือดว่าเป็นยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน”
เมื่อจะ “เด็ดหัว” ก็ต้องพุ่งเป้าไปที่พรรคพลังประชารัฐ โดยเหมาทั้ง “3 ป.” คือ ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม... “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพปชร. “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
แถมพ่วงมาด้วย 3 รัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ คือ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน และผู้อำนวยการพรรค “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค
ส่วน “นั่งร้าน” ค้ำบัลลังก์ ให้ “บิ๊กตู่” ที่ถูกจองกฐินก็มีพรรคภูมิใจไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ เป้าหมายอยู่ที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
การเขียนญัตติ จะบรรยายถึงข้อกล่าวหา และความผิดของ 10 รัฐมนตรี รุนแรง ดุเดือดแค่ไหน ต้องรอดูในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ แต่เบื้องต้นกำหนดกรอบคร่าวๆ ไว้ คือ ... ผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน... จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และมาตรฐานจริยธรรม ... ส่อทุจริตเอื้อประโยชน์พวกพ้อง...ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ...ละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา
ผู้ที่ติดตามการเมืองมองว่า “บิ๊กตู่” นั้นมีประสบการณ์ ผ่านศึกอภิปรายมาหลายครั้ง สามารถชี้แจง ตอบโต้ทั้งในสภา นอกสภา และรอดมาได้ และครั้งนี้ฝ่ายค้านคงทำได้แค่อภิปรายถึง ความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง กู้เงิน ละเลงงบฯ การบริหารจัดการเรื่องโควิด และวัคซีน เรื่องท่อส่งน้ำอีอีซี ...แต่ไม่มี “ใบเสร็จ” หรือหลักฐานการทุจริต คอร์รัปชัน เป็น “หมัดน็อก” ที่จะคว่ำรัฐบาลได้
แต่เป็นการอภิปรายเพื่อหวังผลในการเลือกตั้งครั้งหน้าเสียมากกว่า เพราะ 6 ใน 10 รัฐมนตรี ที่ตกเป็นเป้าครั้งนี้ ล้วนเป็นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ของแกนหลักรัฐบาลทั้ง 3 พรรค...โดยเฉพาะการสกัดพรรคภูมิใจไทย กำลังรุกหนักในพื้นที่ภาคอีสาน ที่เป็นฐานเสียงเดิมของพรรคเพื่อไทย
ยุทธการ เด็ดหัวนายกฯ สอยนั่งร้านที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ฝ่ายค้านจะทำได้จะแจ้ง ประทับใจประชาชนหรือไม่ หรือจะถูกโต้กลับ ถูกฉีกหน้ากลางสภา ต้องติดตาม