ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ข้องใจ ก.อ.ลงโทษวินัยร้ายแรง “เนตร นาคสุข” แค่ให้ออกราชการ กรณีไม่สั่งฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” แต่ยังรับบำเหน็จ-บำนาญได้
วันนี้ (19 พ.ค.) นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤตมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีที่คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีมติเอกฉันท์ ให้นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ออกจากราชการ กรณีใช้ดุลพินิจไม่รอบครอบอย่างร้ายแรงสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ว่า เรื่องของนายวรยุทธเข้ามาสู่ กมธ.เป็นปี และต้องถูกลงโทษอย่างจริงจังไม่ใช่เพียงแค่พิธีกรรม และเชื่อว่าความคาดหวังของประชนต้องการให้มีการลงโทษ แต่มติของ ก.อ.บอกว่า ใช้ดุลพินิจไม่รอบคอบอย่างร้ายแรงในการสั่งคดีเป็นผลให้นายเนตรออกจากราชการ นับแต่วันที่ยื่นลาออกแต่ยังสามารถรับบำเหน็จ บำนาญได้อยู่นั้น ขอถามว่า การมีมติอย่างนี้มีผลต่อโทษ หรือผลร้ายต่อนายเนตรอย่างไร นอกจากคำสั่งให้ออก เพราะบำเหน็จ บำนาญยังได้เหมือนเดิม การมีคำสั่งอย่างนี้จะสร้างความศรัทธาต่ออัยการซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ กลางน้ำ หรือไม่ และอยากถามว่าประชาชนสบายใจหรือที่ ก.อ.มีมติอย่างนี้
นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า ความเห็นของ ก.อ.ค้านต่อผลการสอบสวนของนายวิชา มหาคุณ ที่สรุปว่า มีการช่วยเหลือนายวรยุทธ เป็นลักษณะขบวนการ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลจำนวน 8 กลุ่ม รวมถึงอัยการที่ประพฤติมิชอบรวมอยู่ด้วย และในรายงานการสอบสวนฉบับดังกล่าวมีการร้องขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการฯทั้งหมด 14 ครั้ง และอัยการสูงสด รองอัยการสูงสุด ที่สั่งยุติการร้องขอความเป็นธรรมนั้นมีถึง 13 ครั้ง ส่วนครั้งที่ 14 นายเนตร สั่งค้านตรงกันข้ามกับที่อัยการสั่ง 13 ครั้ง และการพิจารณาข้อความเป็นธรรมที่เป็นผลสำเร็จนั้นได้ใช้หลักฐานเดิมของ 13 ครั้งเกือบทั้งหมด กรณีอย่างนี้เพียงแค่สั่งโดยไม่รอบคอบเท่านั้นหรือ และกับข้อเท็จจริงสมเหตุสมผลหรือไม่
“ส่วนตัวผมที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอดในการเป็นผู้ตรวจสอบ ผมไม่สบายใจ ประชาชนก็ไม่สบายใจ ผมเชื่อว่า ถ้ากระบวนการยุติธรรมเราทำทุกอย่างที่ตรงไปตรงมา ไม่มีระบบอุปถัมภ์ ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ผมเชื่อว่า การสร้างความศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมเราจะกลับฟื้นคืนมา ซึ่งไม่เฉพาะอัยการ แต่ทุกองค์กร แต่ยังมีอีกจุดคือในส่วนความผิดทางอาญา เมื่อนายเนตรมีความผิดให้ออกจากราชการแล้ว คณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็จะต้องดำเนินการต่อไป” นายธีรัจชัย กล่าว
โฆษก กมธ.ป.ป.ช. กล่าวต่อว่า ในส่วนของ กมธ.ต้องตามเรื่องนี้ต่อและจะดำเนินการให้ถึงที่สุดในอีก 7 กลุ่ม ตามที่ นายวิชาเสนอ เพื่อให้ประชาชน รู้สึกว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่แบ่งคนรวยคนจน หรือคนที่เกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งทาง กมธ.ต้องการให้ตามตัวนายวรยุทธ มาดำเนินคดี แต่รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการตามตัวนายวรยุทธมาดำเนินคดี เป็นเรื่องที่ยังค้างคาใจต่อประชาชนอยู่