ข่าวปนคน คนปนข่าว
**คดีแตงโมจบ คนไม่จบ คู่ “กระติก-แซน” เรียกทัวร์ลงได้อีก
ในที่สุด ตำรวจก็สรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงษ์ หลังจากใช้เวลากว่าสองเดือนนับแต่แตงโมจากไป เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ท่ามกลางการเฝ้าติดตามจับพิรุธของสังคมมาตลอดเป็น “ปรากฏการณ์” ก็ว่าได้ โดยที่ตำรวจให้คำมั่นว่าจะไขทุกปมปริศนาให้กระจ่าง ทุกประเด็นที่คนสงสัย
สรุปความเมื่อวาน (26 เม.ย.) ที่ตำรวจแถลงปิดสำนวนได้ว่าการตกน้ำจนเสียชีวิตของแตงโม เกิดจากความประมาทของคนบนเรือ ตำรวจจึงแจ้งข้อหา 5 คน บนเรือ “ปอ” ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์, “โรเบิร์ต” ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์, “จ๊อบ” นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร, “แซน” วิศาพัช มโนมัยรัตน์, “กระติก”อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ และ อีก 1 กุนซือ
จากการชันสูตร แพทย์สรุปการเสียชีวิตของ “แตงโม” เกิดจากการขาดอากาศหายใจ จากการจมน้ำ และตำรวจยืนยันพยานหลักฐานมั่นใจว่า การส่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาหลักประมาททำให้ผู้อื่นตาย โดยแตงโมไม่ได้ตกน้ำเอง แต่มีคนประมาท
เมื่อตำรวจทำงานเสร็จสิ้นหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่อัยการต่อไป
ปฏิกิริยาหลังจากที่ได้ฟังการแถลงข่าว ต้องบอกว่า ชาวโซเชียลฯ เกือบจะร้อยละร้อย “ขัดใจ” เป็นความหมายไปในทำนองที่ต่อว่าตำรวจ “สรุปเหมือนไม่สรุป” ทำให้ แฮชแท็ก #แตงโมต้องได้รับความยุติธรรม ว่อนไปทั่วโซเชียลฯ
ไปจนถึงเพื่อนดารา อย่าง...“แทค ภรัณยู” โพสต์ภาพจอดำผ่านอินสตาแกรม พร้อมกับข้อความว่า “มันจบนานแล้ว…ที่จริงไม่ต้องรอถึงวันนี้หรอก” และเขียนแคปชันว่า “จบข่าวแยก... #ก็เท่านี้ละ #สวัสดีวันอังคาร #ตายจ่ายจบ”
“แอนนา” วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนสนิทของ “แตงโม” ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว โพสต์ข้อความลงโซเชียลฯ โดยเป็นคลิปรูปที่ถ่ายกับแตงโม ตั้งแต่ยังเรียนด้วยกันจนถึงปัจจุบัน พร้อมเขียนข้อความถึงเพื่อนว่า ขอโทษนะเธอฉันทำได้เท่านี้….อีกไม่กี่วันก็ต้องส่งเธอไปไกลแสนไกล ลาก่อนนะ“”
ขณะที่ “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม บอกว่า หลังจากที่เห็นตำรวจแถลงจบ รู้สึกว่าเหมือนเด็กเล่านิทานให้ฟัง มันขัดแย้งกับความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ เพราะยังมีข้อพิรุธหลายแห่งที่ตำรวจไม่ได้เอ่ยถึง
ส่วน “แม๊” นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน นั้น แสดงความพอใจต่อการสรุปสำนวนของตำรวจ ซึ่งที่มีประเด็นพูดถึงเงิน “30 ล้าน” แม่แตงโม ยืนยันว่า นั่นเป็นการสมมติ แต่หลังจากได้ฟังแถลงแล้วก็อาจจะมีการเรียกเงินเพิ่มก็ได้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่ที่ตัวเอง แต่ที่แน่ๆ ที่ “แม๊” จะไม่ทน ติดใจและสิ่งที่จะดำเนินต่อจากนี้ คือ ไล่ฟ้องชาวเน็ตที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เสียๆ หายๆ
เรียกว่า แม๊.. แรงไม่ตก แถมได้ไฟเขียวจากทนาย ให้โมโหออกสื่อได้ จึงเป็นประเด็นควันหลงที่ชาวเน็ตตามแซะแม่แตงโมไม่เลิกรา และที่เป็นประเด็น “ดรามา” และถูกชาวโซเชียลฯ เรียกระดมรถทัวร์มาลงกระหน่ำก็ยังคงเป็นคู่ “แซน วิศาพัช” และ “กระติก” เพื่อนสนิท และผู้จัดการส่วนตัวแตงโมที่แสดงออกถึงความพอใจที่ตำรวจสรุปคดี
“แซน” พูดสั้นๆ หลังตำรวจแถลงสรุปคดีว่า “สบายใจ ไม่ได้ทำอะไรผิดเนอะ” และที่กวักมือเรียกทัวร์มากที่สุด เป็นภาพขณะทั้งคู่อยู่ภายในรถเดินทางไปรับทราบนัดฟังคำสั่งคดี โด “แซน” โพสต์ลงไอจีตัวเอง พร้อมกับข้อความ “เป็นกำลังใจให้กันและกันโน้ะ ใครจะพูดถึงเรายังไงสุดท้ายความจริงจะปกป้องพวกเราเอง.. ปล.ออกความเห็นได้ตามสะดวกเลยนะคะ...”
แน่นอนว่า มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นถล่มกัน “ตามสะดวก” ไปตามคำเชื้อเชิญของแซน
งานนี้สรุปว่า คดีจบคนไม่จบ ตำรวจยังไม่สามารถเรียกศรัทธาจากประชาชนได้ เพราะสังคมไม่หายข้องใจ ยังคาใจกันอยู่ แถมคู่ “แซน-กระติก” ก็ขยันทำคอนเทนต์เรียกคณะทัวร์เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
**ปม “แคนดิเดตนายกฯ” กับ “นายกฯสำรอง” ปัญหาของลุงๆ ที่ดูจะไม่ลงรอยกันอีกรอบ
มีความชัดเจนขึ้นมาอีกระดับ สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านมีข้อสรุปว่า จะยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หลังจากกฎหมายลูก 2 ฉบับ เกี่ยวกับการเลือกตั้งผ่านวาระ 3 แล้ว ก็คือ ประมาณปลายเดือน มิ.ย. และอภิปรายช่วงต้นเดือน ก.ค.
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภา มีการดีล ส.ส. 30 เสียงจากฝ่ายรัฐบาล เตรียมโหวตไม่ไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งกลุ่มที่ถูกมองว่ามีโอกาสที่จะไปจับมือฝ่ายค้าน ก็คือ บรรดาพรรคเล็ก พรรคจิ๋ว รวมทั้งพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นเลขาธิการพรรคด้วย
ประกอบกับ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา “พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมด้วย “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” นำคณะกรรมการบริหาร และ ส.ส.ของพรรค เข้ารดน้ำขอพร “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อนักข่าวเจอหน้า “ลุงป้อม” จึงถามถึงเรื่องจุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ได้รับคำตอบยืนยันว่า ต้องสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะอยู่ฝ่ายรัฐบาล
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เขาเตรียมพร้อมเลือกตั้งและเริ่มเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯกันแล้ว พรรคพลังประชารัฐ จะเปิดตัวด้วยหรือไม่ “ลุงป้อม” ตอบว่าก็ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นไง บอกตั้งนานแล้ว ไม่ต้องถามอีก ส่วนจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ชื่อเดียว หรือไม่นั้น ยังไม่รู้ แต่อาจจะมีชื่อสำรองและไม่รู้ว่าจะต้องเป็นชื่อพลเรือน หรือไม่
เมื่อโยงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีการขึ้นป้ายบิลบอร์ดรูป “ลุงป้อม” อวยพรประชาชน เนื่องในวันนปีใหม่ไทย จึงถูกมองว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ คู่กับ “ลุงตู่” ด้วยหรือไม่ ซึ่ง “ลุงป้อม” ไม่ตอบ และเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที
แล้วนักข่าวก็นำเรื่องนี้ไปถาม “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า “ลุงป้อม” ให้สัมภาษณ์เรื่องนายกฯสำรอง ในกรณีที่นายกฯเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง “พล.อ.ประยุทธ์” กล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ท่านไม่ได้พูดแบบนั้น”
เพราะคำว่า “นายกฯ สำรอง” ทำให้มีการตีความไปต่างกัน โดย “ลุงป้อม” นั้นหมายถึง แคนดิเดตนายกฯ หมายเลข 2 ของพรรค ซึ่งต้องเตรียมไว้ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร...ขณะที่ “ลุงตู่” คิดว่า “นายกฯ สำรอง” หมายถึงว่าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ใครจะมาเป็นนายกฯต่อจากลุงตู่ ... หรือมีการตีความว่า นายกฯบริหารงานมาครบ 8 ปี ในเดือน ส.ค.นี้ ถือว่าครบวาระแล้ว
หาก “ลุงตู่” ต้องพ้นตำแหน่งจากเรื่อง 8 ปี โอกาสก็เปิดกว้างให้กับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่จะเป็น “นายกฯ สำรอง”
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นักข่าวถาม “ลุงป้อม” อีกครั้ง ว่า ที่ระบุว่าอาจมีแคนดิเดตนายกฯสำรอง หาก “พล.อ.ประยุทธ์” ติดเงื่อนไขวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ซึ่ง “ลุงป้อม” ก็ตอบว่า “มีที่ไหน บอกว่ายังไม่รู้ ยังไม่ถึงเวลา ไม่เข้าใจเลย” ... เมื่อถามว่ากลัวประชาชนแตกตื่น จึงมาถามให้แน่ชัด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “มีที่ไหน ใครล่ะ เป็นนายกฯสำรอง พูดไปเรื่อย”
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า หากเริ่มนับหนึ่ง ของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งปี 62 ไม่ใช่นับหนึ่งตั้งแต่ทำรัฐประหาร ... “ลุงตู่” ก็ยังไม่พ้นตำแหน่งนายกฯในเดือน ส.ค.นี้ และหากรัฐบาลอยู่ครบวาระ หรือมีการยุบสภา ช่วงปลายปีหลังการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก... เมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง “ลุงตู่” จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ เพียงคนเดียว หรือมี เบอร์ 2 เบอร์ 3 ด้วย ซึ่งคนนั้นจะเป็นใคร... ใช่ “ลุงป้อม” หรือไม่
และหาก “ลุงตู่” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ในเดือน ส.ค.นี้ ย่อมไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ไม่ได้ ...แล้วแคนดิเดตนายกฯสำรอง คนนั้นจะเป็นใคร ... “ลุงป้อม” ในฐานะหัวหน้าพรรคที่ปฏิเสธเก้าอี้นายกฯมาตลอด ก็อาจจะต้องจำใจรับ “แคนดิเดตนายกฯ” ก็เป็นได้