ประชุมใหญ่ “รปช.” เลือก “ดร.มิ้งค์” นั่ง เลขาฯ พรรคคนใหม่ “เอนก” เร่งเครื่องสร้างผลงาน หวังกลับมาร่วมรัฐบาล-นั่ง รมว.อว.อีกสมัย หลังเลือกตั้ง
วันนี้ (24 เม.ย.) เวลา 09.30 น. ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดย นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย กรรมการบริหารพรรค ส.ส.ของพรรค และสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุม โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรค และ นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง อดีตหัวหน้าพรรค เข้าร่วมประชุมด้วย
นายเอนก กล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่ง ว่า ถ้าไปถามอธิการบดีทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน ทุกคนล้วนพอใจและชื่นชมกับผลงานของ รมว.อว. หรือหากไปถามอาจารย์มหาวิทยาลัย และนักศึกษา ต่างก็พอใจกับผลงานของกระทรวง นอกจากนั้น ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง อาทิ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ก็พอใจที่เราปฏิรูปได้เร็วขนาดนี้ ซึ่งวงการอุดมศึกษา 5 ปีที่แล้ว เราพูดว่าอุดมศึกษาไทยจะไม่ทันโลก แต่เราเข้ามาเพียงแค่ 2 ปี เราสามารถเปลี่ยนสภาพดังกล่าวได้ทั้งหมด ตอนนี้อุดมศึกษาไทยวิ่งฉิวแล้ว อย่างไรก็ตาม เราเชื่อมั่นในรัฐบาล เชื่อมั่นในตัวนายกฯ เราเลือกเข้าร่วมรัฐบาลในขณะที่คนอื่นลังเล ส.ส.เราช่วยรัฐบาลตลอด ไม่เคยเรียกรับเงินแลกคะแนนเสียง และไม่มีการรับเงินพิเศษ ทุกคนมีจรรยาบรรณที่ดี อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหลือตนจะเร่งสร้างผลงานในกระทรวง อว. ซึ่งจะช่วยสร้างฐานเสียงของเราในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองและนักศึกษา ทั้งนี้ อยากจะเปลี่ยนพรรคเป็นพรรคปัญญาชน พรรคของคนมีความรู้ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกว่าหากเข้าคูหาต้องการพรรคที่ทำเรื่องการศึกษาระดับอุดมศึกษาต้องเลือกพรรครวมพลังปะชาชาติไทย อย่างไรก็ตาม หากเราทำได้ ก็จะได้เข้าร่วมเป็นรัฐบาล และ รมว.อว.อีกสมัยหนึ่ง
นายเอนก กล่าวอีกว่า นอกจากทำหน้าที่ รมว.แล้ว ตนยังได้ทำเรื่องการปฏิรูปด้วย ซึ่งเป็นไปตามอุดมการณ์ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยได้ แม้จะมี ส.ส.เพียง 5 คนก็ตาม และสุดท้ายเรายึดมั่นแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ซึ่งภายใน 15 ปีข้างหน้า 2580 อว.ต้องเป็นกระทรวงแห่งการพัฒนาที่ทำให้ประเทศไทย กลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่หากเราไม่ตั้งใจ รัฐบาลไม่ต้องมั่น ประชาชนไม่ตื่นรู้ ประเทศเราก็จะเป็นประเทศกำลังพัฒนาไปตลอดกาล ส่วนแนวคิดในการส่งยานอวกาศไปสู่ดวงจันทร์นั้น ก็จะเป็นการส่งสัญญาณว่าเราเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
นอกจากนั้น มีการเลือกตั้งเลขาธิการพรรค และตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค โดยสำหรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคที่ประชุมมีมติเลือก ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ (ดร.มิ้งค์ ) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ แทน นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ที่ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมีมติเลือก ผศ.ศักราช ฟ้าขาว อดีตประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี อดีตคณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เป็นกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง