xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” ไปอังกฤษ กับภารกิจปริศนา!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  - ทักษิณ ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา


ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กับการเดินทางไปประเทศอังกฤษ ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะทราบจากรายงานข่าว ว่า เขาเดินทางไปพักผ่อนที่นั่น หลังเทศกาลสงกรานต์ และอยู่ยาวหลายวัน ยังไม่ทราบกำหนดกลับ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 19 เมษายน ก็มีการระบุว่า มีการลาประชุมเรียบร้อยแล้ว

คิดว่าคงไม่มีอะไรให้น่าสนใจมากกว่าการเดินทางไปพักร้อน พักผ่อน ชาร์จแบตให้หายเหนื่อย หายเครียดจากปัญหาสารพัดที่รุมเร้าเข้ามา ก่อนที่จะต้องมาเจอกับเรื่องราวหลายอย่างที่หนักอึ้งกันต่อ โดยเฉพาะในช่วงเปิดสภาสมัยสามัญในกลางเดือนหน้า

แต่ล่าสุด วันอังคารที่ 19 เมษายน เมื่อ “บิ๊กตู่” กล่าวตอนหนึ่งตอบคำถามระหว่างแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กลับบอกว่า พล.อ.ประวิตร “ไม่ได้ไปพักผ่อน ท่านไปทำงาน ”

เมื่อถามว่า การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ ได้ไปพบกับใครด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ว่า “ถามอะไรแปลกๆ บ้าหรือเปล่า ไม่เคยสร้างสรรค์”


อย่างไรก็ดี จากคำถามและคำตอบดังกล่าว มันเริ่มน่าสนใจขึ้นมาทันที แม้ว่าในตอนแรกอาจจะฟังผ่านๆ ไม่ได้คิดอะไรมากนัก คิดว่าเป็นการไปพักผ่อน ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามประสาผู้สูงวัยคนหนึ่ง สำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ขณะเดียวกัน เมื่อบอกว่า “ไปทำงาน ไม่ได้ไปพักผ่อน” มันก็เกิดหูผึ่ง สงสัยขึ้นมาทันที และคนที่เดินทางไป ก็คือ “บิ๊กป้อม” และอีกหน้าที่หนึ่ง ก็คือ ไม่ต่างจากตำแหน่ง “ผู้จัดการรัฐบาล” เป็น “พี่ใหญ่” ในกลุ่ม “สาม ป.” ที่มีอำนาจอยู่ในเวลานี้

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงเป้าหมายปลายทาง ที่พิกัดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ มันก็ยิ่งชวนให้คิดมากเหมือนกัน เพราะเมื่อคิดไปคิดมา ทำให้พอหลับตานึกภาพบางอย่างผุดขึ้นมาทำนองว่า “มันเข้าเค้า” อยู่เหมือนกัน เพราะหลับตานึกทีไรมันก็มีภาพของ “พี่น้องชินวัตร” คือ “โทนี่” นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีบ้านพัก หรือจะเรียกว่า คฤหาสน์อยู่ที่นั่น รวมทั้งไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อยู่บ่อยครั้ง

ขณะเดียวกัน เมื่อบอกว่า ทุกอย่างเริ่ม “เข้าเค้า” หากพิจารณาจากท่าทีใหม่ของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่กล่าวในรายการของ “กลุ่มแคร์ฯ” กลุ่มการเมืองในเครือข่ายเมื่อวันก่อน ที่มีท่าที “ปกป้องสถาบันฯ” อ้างถึงการถวายงานรับใช้เจ้าใกล้ชิดมานาน พร้อมทั้งยังชี้ว่า “พวกเด็กๆ (ม็อบสามนิ้ว) ไม่รู้เรื่อง ที่เคลื่อนไหวให้ปฏิรูปสถาบันฯ ทั้งที่ไม่เกี่ยวกัน” อะไรประมาณนั้น จนเกิดดรามา ด่าทอกันในโซเชียลฯ ระหว่างพวก “แดง-ส้ม” ที่แยกกันสนับสนุนฝ่ายของตัวเอง

ไม่เว้นแม้กระทั่ง นายปวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธุ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ผู้ต้องหาคดี ม.112 และ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการ ผู้ต้องหาคดีเดียวกัน และลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ก็ได้ตำหนิ นายทักษิณ อย่างรุนแรง โดยการปกป้องเด็กๆ และเปิดโปงว่า “ต่อหน้าพูดอย่าง ลับหลังพูดอีกอย่าง” เนื่องจากนายปวิน อ้างว่า เมื่อพบนายทักษิณ ทีไรก็มีแต่ “ด่าเจ้า” ให้ฟังทุกที ถึงกับใช้คำแรงออกมาให้ได้ยินกันเลยทีเดียว

ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น หากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์ในอดีต ทั้งการให้สัมภาษณ์ หรือการพูดแบบโฟนอินเข้ามาในวงประท้วงของพวกคนเสื้อแดงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พอรับทราบว่า เขามีคำพูด และพฤติกรรมหลายครั้งที่ส่อไปในทาง “หมิ่นสถาบันฯ” อย่างชัดเจน ดังที่ปรากฏเป็นหลักฐานให้เห็นหลายครั้ง ทั้งการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ หรือการพูด รวมไปถึงพฤติกรรมของคนแวดล้อมมากมาย ก็ล้วนแล้วแต่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายทั้งสิ้น และที่สำคัญ หากจำกันได้ นายทักษิณ ชินวัตร กำลังถูกดำเนินคดีความผิดตาม มาตรา 112 อีกด้วย

เมื่อพิจารณาจากคำพูดล่าสุดของ นายทักษิณ ชินวัตร มันทำให้หลายคนมองว่า เขาพยายามเปลี่ยนท่าทีใหม่ด้วยท่าที “ปรองดอง” และหวังผลทางการเมืองกับ “อีกฝ่าย” อย่างน้อยหวังให้เกิด “การเจรจา” เพื่อให้เกิดการ “นิรโทษกรรม” ให้ตัวเองพ้นความผิดหรือไม่ หลังจากมีความมั่นใจว่า พรรคการเมืองของตัวเองจะชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาลในการเลือกตั้ง ที่คาดว่า จะมาถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยจะผลักดันลูกสาวคนเล็ก คือ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง อีกคนให้ได้

หากย้อนกลับไปจากคำพูดที่กล่าวทำนองว่า “พี่น้องไม่ต้องตามผมมา ส่งผมขึ้นฝั่งแล้วให้กลับไป” อะไรประมาณนี้ กับม็อบคนเสื้อแดง เมื่อหลายปีก่อน ความหมายก็คือ ไม่จำเป็นต้องก่อม็อบแล้ว เพราะตัวเองบรรลุเป้าหมายแล้ว ซึ่งก็มาพร้อมกับข่าวการ “เจรจาต่อรองกันลงตัวแล้ว” แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือช่วงก่อนการเลือกตั้งที่เกิดเรื่องกับพรรคไทยรักษาชาติ จนนำไปสู่การยุบพรรคในที่สุด

นั่นเป็นแบ็กกราวนด์ของ นายทักษิณ ชินวัตร และทุกครั้งก็ล้วนมีข่าวเรื่องการ “เจรจา” กันแทบทุกครั้ง กับผู้มีอำนาจ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันก็เริ่มมีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นมาอีกแล้ว ในช่วงการเมืองเข้มข้นก่อนหน้านี้ แล้วต่อมาก็มีเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่งมากลบ และนายทักษิณ ก็เริ่มลดโทนการเคลื่อนไหวลงไปมาก

แต่เมื่อมีคำพูดของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่บอกว่า “พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ไปพักผ่อน แต่ไปทำงาน” ที่ประเทศอังกฤษ มันก็เกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า “งานอะไร” และไปพบกับใครที่นั่น หรือไม่ทันที เพราะผู้สื่อข่าวก็เหมือนกับสงสัยถามสวนขึ้นทันทีว่า “ไปพบใครหรือไม่” มันถึงบอกว่า ทุกอย่างมันเข้าเค้าและชวนสงสัย

เพราะที่ผ่านมา ก็มีรายงานจากบรรดา “กูรู” บางคน ถึงกับฟันธงว่า หลังการเลือกตั้งคราวหน้าให้จับตาความเป็นไปได้ว่า อาจจะได้เห็นการตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ ในยุคของ “บิ๊กป้อม” ก็เป็นได้ แม้ว่าหลายคนไม่อยากเชื่อ ยืนยันว่าไม่มีทาง แต่ก็อย่างว่า การเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนกับคราวนี้ที่ทุกอย่างทำท่าลอยลมไปไกลแล้ว แต่ก็ทำให้หูผึ่งขึ้นมาทันทีว่าจะ “เป็นไปได้” อีกหรือไม่ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น