ตายด้วยกัน! เสียงประทัดปลุก “ปารีณา” แรงขึ้นล้านเท่า! จ่อบุกร้อง ป.ป.ช.เชือด “เลขาฯ เพื่อไทย” ถือครอง ภ.บ.ท.5, ส.ป.ก. ยังลอยนวล หนาวรับเมษาฯของจริง “ศรีสุวรรณ” จี้ เช็กบิล 19 ส.ส.เข้าข่าย ผิดจริยธรรมร้ายแรง?
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (10 เม.ย.) นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า
“#ลอยนวล
พอเห็นคำว่า..มั่นใจรัฐบาลไปไม่รอด ก็..อดไม่ได้ ที่จะถามประเสริฐไปว่า มีสติไหมตอนพูด ในเมื่อเห็นๆ อยู่ว่า หลังการอภิปรายก็รอดตลอด แต่ที่ไม่รอด คือ ปารีณา และท่านด้วย เพราะท่านก็แจ้งต่อ ป.ป.ช. ว่าครอบครองที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิเหมือนกัน แล้วทำไมยังลอยหน้าลอยตาลอยนวลอยู่
ดังนั้น วันจันทร์นี้ ปารีณา จะไป ป.ป.ช. เพื่อนำคำพิพากษาศาลฎีกาไปประกอบเรื่อง ประเสริฐ ครอบครองที่ดินรัฐ จะได้ชี้มูลไม่ยาก และจะร้องให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการไต่สวนคดีของประเสริฐครอบครองที่ดินรัฐ ว่า มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เหตุใดคดีปารีณาเร็ว คดีของประเสริฐล่าช้ามาก
ปล.ขอบคุณเสียงประทัดที่คู่แข่งส่งคนมาจุดแล้วเรียกนักข่าวมาทำข่าว ฉลองปารีณาหลุด ส.ส. ทำให้ปารีณาขึ้น!!!! และหยุดร้องไห้ ต่อไปปารีณาจะแรงกว่าเก่า 1 ล้านเท่า ค่ะ”
สำหรับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นหนึ่งใน 19 นักการเมือง ที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เมื่อปี 2562 ให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินของ ส.ส.จากหลายพรรคการเมือง ทั้งการถือครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 , ที่ดิน ส.ป.ก. รวมถึงกรณีการถือครองกรรมสิทธิ์ทับพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ (จากไทยโพสต์)
วันนี้เช่นกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แจ้งว่า
“ในจันทร์ที่ 11 เม.ย. 65 นี้ เวลา 10.00 น. ศรีสุวรรณ จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.นนทบุรี เพื่อขอให้เร่งรัดการไต่สวนสอบสวน กรณีสมาคมฯเคยยื่นร้องเรียนให้ตรวจสอบ ส.ส. อีกกว่าสิบราย ที่ยึดถือครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. อยู่ในขณะเป็น ส.ส. ที่สมาคมฯเคยยื่นร้องเรียนไว้เมื่อปลายปี 2562 ว่า เข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ หลังจากศาลฎีกาฯได้วางบรรทัดฐานในคดีปารีณาไว้แล้ว #กฎหมายต้องไม่เลือกปฏิบัติ”
อย่างไรก็ตาม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เคยเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริจแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีความผิดฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ในข้อ 11 และข้อ 17 กรณีครอบครองที่ดินของรัฐในรูปของ ภ.บ.ท.5/ส.ป.ก. จำนวน 29 แปลง เพื่อทำปศุสัตว์ โดยถือครองมาตั้งแต่ปี 2545-2546 ก่อนที่จะมาเป็น ส.ส.ซึ่งหลังจากมีมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป และเมื่อศาลฎีกาประทับรับฟ้องจะเป็นเหตุให้ ส.ส. อาจต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีนั้น
กรณีการวินิจฉัยเกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ถือว่าเป็นกรณีแรกของ ป.ป.ช. หลังจากที่กฎหมายกำหนดให้ ป.ป.ช.มีอำนาจหน้าที่เอาผิดเกี่ยวกับจริยธรรม ซึ่งสื่อมวลชนหลายสำนักรายงานว่า ยังมี ส.ส.อีก 13 ราย ที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ร้องเรียนไว้ต่อ ป.ป.ช.ในเรื่องที่คล้ายกับกรณีของ ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์
แต่แท้ที่จริงแล้ว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำความไปร้องเรียน ป.ป.ช.เกี่ยวกับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) หลายพรรคการเมืองรวมทั้งรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่อาจถือครองที่ดินรัฐในรูปของ ภ.บ.ท.5 และ ส.ป.ก. หรือออกเอกสารสิทธิ์ทับที่อุทยานฯถึง 4 ครั้ง ดังนี้
ครั้งแรกเมื่อ 20 พ.ย. 62 มี 3 ราย คือ 1) น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ พรรคพลังประชารัฐ 2) นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ พรรคพลังประชารัฐ และ 3) นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ พรรคเพื่อไทย
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 62 มี 3 ราย คือ 1) นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง พรรคภูมิใจไทย 2) นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ พรรคภูมิใจไทย และ 3) นายอนุชา น้อยวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 62 มี 13 ราย คือ 1) นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี พรรคอนาคตใหม่ (ในขณะนั้น) 2) นายศักดินัย นุ่มหนู พรรคอนาคตใหม่ (ในขณะนั้น) 3) พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ พรรคพลังประชารัฐ 4) น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ พรรคพลังประชารัฐ 5) นายวุฒิพงษ์ นามบุตร พรรคประชาธิปัตย์ 6) นายสุพล จุลใส พรรครวมพลังประชาชาติไทย 7) นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์ 8) นายมานพ ศรีผึ้ง พรรคภูมิใจไทย 9) นายสฤษดิ์ บุตรเนียร พรรคภูมิใจไทย 10) นายสนอง เทพอักษรณรงค์ พรรคภูมิใจไทย 11) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง พรรคเพื่อไทย 12) นายสุชาติ ภิญโญ พรรคเพื่อไทย และ 13) นายสงวน พงษ์มณี พรรคเพื่อไทย ส่วนรายล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 63 คือ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย รวมทั้งสิ้น 19 ราย (ไม่รวมปารีณา)
ดังนั้น เมื่อ ป.ป.ช.วางบรรทัดฐานเกี่ยวกับการที่ ส.ส.ห้ามมีที่ดินรัฐในกรณีของปารีณา ไกรคุปต์ ไว้แล้ว ก็เชื่อมั่นว่า ส.ส.และหรือรัฐมนตรี อีก 19 รายที่เหลือก็อาจจะต้องเดินตามรอยการวินิจฉัยเฉกเช่นกรณีของปารีณาไปในลักษณะเดียวกัน...
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ เมื่อกฎหมายศักดิ์สิทธิ์กับ “ปารีณา” ในคดีบุกรุกที่ ส.ป.ก. ถึงขั้นศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิตทางการเมือง
ดังนั้น ใครก็ตามที่มีหลักฐานชัดเจนว่า ทำผิดเหมือนคดี “ปารีณา” ต้องไม่มีข้อยกเว้น หรือรูปหน้าปะจมูก เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นจะถือว่า เลือกปฏิบัติทันที และเข้าอีหรอบเดิม ที่ต่อให้กฎหมายแรงแค่ไหน การบังคับใช้ก็ทำได้แต่กับบางคนเท่านั้น ระวังมันเกิดขึ้นอีก!?