xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” ยกศักยภาพ อสม.เป็นหมอคนที่ 1 ดูแลคนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เผยสถาบันพระบรมราชชนกเปิดอบรม “ผู้ช่วยพยาบาล” 3 พันคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองนายกรัฐมนตรี “อนุทิน” เผย สถาบันพระบรมราชชนกเปิดตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล 3,000 ตำแหน่ง ยกศักยภาพ อสม. เป็นหมอคนที่ 1 ดูแลคนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสครอบคลุมถึงลูกหลาน อสม. ด้วย พร้อมขอให้แนะนำคนในชุมชนไม่ใช้กัญชาในทางที่ผิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นช่องทางเพิ่มรายได้ระยะยาว

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (9 เม.ย.) เวลาประมาณ 09.30 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ “ปลดล็อก กัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้” เขต 10 (ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร) ซึ่งเป็นการสัญจรให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชา กัญชง แก่ประชาชนครั้งที่ 6 จากเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน สถานบันการศึกษาและประชาสังคมในการให้ความรู้ประชาชน ทั้งในด้านกฎหมาย ความรู้เกี่ยวกับการปลูก และโอกาสทางธุรกิจ ใน 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะครบทุกเขตภายในเดือน พ.ค. นี้

นายอนุทิน กล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษเพื่อเปิดการประชุมวิชาการ ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินนโยบายทุกด้านเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี โดยมีการลงทุนทั้งด้านเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยครอบครอบในโรงพยาบาลทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พัฒนาบุคลากรที่เพียงพอตามนโยบาย 3 หมอ ซึ่งปัจจุบันระบบสาธารณสุขไทยมีจุดแข็งอยู่ที่ อสม.ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนา อสม.ให้เข็มแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสถาบันที่ผลิตบุคลากรด้านการสาธารณสุข สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาลเพิ่ม 3,000 ตำแหน่ง สำหรับ อสม. ทั่วประเทศโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้ อสม.จากทุกจังหวัดมีโอกาสพัฒนาตนเองประมาณจังหวัดละ 40-50 คน และหากไม่สามารถเข้าเรียนได้ก็ให้สิทธิกับลูกหลาน อสม.เข้าเรียนได้ โดยแต่ละจังหวัดจะตั้งคณะกรรมการคัดเลือก อสม.ที่มีคุณสมบัติต่อไป

ทั้งนี้ หลักสูตรนี้มีระยะเวลา 1 ปี ตามโครงการจะทำให้มีผู้ช่วยพยาบาลเพิ่มอีก 3,000 คน ซึ่งจะช่วยงานบุคลากรทางการแพทย์ดูแลประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะขณะนี้บุคลาการการแพทย์ทุกประเภทรวมกันแล้วมีไม่เกิน 3 แสนคน ไม่เพียงพอต่อการดูแลประชาชนเกือบ 70 ล้านคน และหากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพดีทางสถาบันพระบรมราชชนกจะมีการเปิดหลักสูตรเพื่อให้ศึกษาต่อในหลักสูตรพยาบาลต่อไป

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการผลักดันกัญชา กัญชง ออกจากยาเสพติดว่า หลังจากที่ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565 ซึ่งจะทำให้กัญชาและกัญชงไม่เป็นยาเสพติดประชาชนสามารถปลูกในครัวเรือนได้

อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือ อสม. ทุกคนได้ช่วยกันแนะนำให้ประชาชนในชุมชนว่าอย่าไปใช้กัญชา กัญชงในทางที่ผิด ให้ใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์การดูแลรักษาตัวเองในพื้นฐาน หากจะดำเนินการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมต่างๆ ก็ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้ความั่นใจผู้เกี่ยวข้องว่าประชาชนได้ใช้กัญชาอย่างเข้าใจ ใช้ประโยชน์ในทางที่ดี เพราะหากมีการใช้ในทางที่ผิดจำนวนมาก จะทำให้กัญชา กัญชงกลับเข้าเป็นยาเสพติด การผลักดันที่ผ่านมา 2 ปีเพื่อให้พืชชนิดนี้เป็นโอกาสในการสร้างรายได้สร้างอาชีพ ตลอดจนให้การเข้าถึงยารักษาโรคของประชาชนก็จะไร้ประโยชน์

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อรองรับกับการที่ประชาชนให้ความสนใจที่จะปลูกกัญชาเพื่อเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้มากขึ้น ได้ให้นโยบายกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กำหนดแนวทางเพื่อจะรับซื้อช่อดอกของกัญชามาผลิตเป็นยา เพื่อเป็นการสร้างดีมานด์พื้นฐานดูแลไม่ได้เกิดปัญหากัญชาล้นตลาดจนกระทบกับราคา โดยจะเป็นการดูแลให้ครบกลไกการตลาดทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และเกิดการพัฒนาสายพันธุ์ที่ดี ให้กัญชาไทยมีชื่อเสียงในระดับโลก

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายปลดล็อกกัญชา กัญชง สนับสนุนให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ได้มีผู้ประกอบการได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเกี่ยวกัญชา กัญชงแล้ว 4,624 ราย มีพื้นที่ปลูก 435,800 ตร.ม. ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ 46.31 ตัน โดยร้อยละ 60 นำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อีกร้อยละ 40 ใช้ในทางการแพทย์ ในตลาดโลกคาดการณ์ว่าในปี 2567 มูลค่าการค้ากัญชาทั่วโลกจะอยู่ที่ประมาณ 1.039 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4 แสนล้านบาท

สำหรับงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 10 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด หายเจ็บ หายจน รวมพลคนรักกัญ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. 2565 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ภายในงานมีการออกบูธขายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชา กัญชง จากผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต การให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างปลอดภัย การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ทั้งแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกัญกัญชา กัญชง การปลูก ตลอดจนโอกาสทางธุรกิจและการสร้างรายได้จากกัญชาและกัญชง และจัดงานภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19












กำลังโหลดความคิดเห็น