“กัปตันเครื่องบิน” หันปลูกกัญชงขายสร้างรายได้หลายล้าน เผยมุ่งพัฒนาระบบปลูกต้นทุนต่ำเพื่อเกษตรกร

ศรีสะเกษ - “กัปตันเครื่องบิน” นามสกุลดังศรีสะเกษ หันมาปลูกพืชกัญชงแปรรูปขายสร้างรายได้หลายล้าน ทั้งในรูปของวัตถุดิบ สารสกัด CBD และผลิตภัณฑ์กัญชง เผยต้องการพัฒนาระบบการปลูกกัญชงต้นทุนต่ำเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรทั่วไปสามารถปลูกพืชกัญชงได้ พร้อมนำผลิตภัณฑ์ขายในงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 10 “หายเจ็บ หายจน รวมพล คนรักกัญ”

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ บริษัท เอซีบีดี อโกร จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 888 หมู่ 7 บ้านหนองตะมะ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายธีรวัฒน์ อังคสกุลเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซีบีดี อโกร จำกัด เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นกัปตันเครื่องบินของสายการบินแห่งหนึ่ง และต่อมาตนได้เริ่มหันมาปลูกพืชกัญชงเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ขณะนี้ต้นกัญชงกำลังเจริญเติบโตสูงใหญ่มาก เรามีโรงเรือนทั้งหมดอยู่ 4 โรงเรือน พื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร และขออนุญาตปลูกไปประมาณ 1,500 ต้น


บริษัท เอซีบีดี อโกร จำกัด ปลูกเป็นโมเดลกัญชงอย่างเดียว ซึ่งความแตกต่างระหว่างกัญชากับกัญชง คือแตกต่างกันในส่วนของสารสำคัญที่อยู่ในช่อดอก คือ สาร THC ที่เราเรียกว่าสารเมา กฎหมายไทยจำแนกว่า หากสาร THC ในช่อดอกมีมากกว่า 1% โดยน้ำหนัก เราจะจำแนกว่าเป็นกัญชา แต่สายพันธุ์ของเราเป็นสายพันธุ์ ที่คัดเลือก THC มาต่ำกว่า 1% เพราะฉะนั้นจะจำแนกได้ว่าเป็นกัญชง ดังนั้นผลผลิตของเราจะไม่มีฤทธิ์มึนเมาในลักษณะกล่อมประสาท

จุดมุ่งหมายเราคือต้องการที่จะเป็นผู้นำในการผลิตพืชกัญชงและผลผลิตจากพืชกัญชงใน จ.ศรีสะเกษและภาคอีสาน โดยพืชกัญชงนี้สามารถนำเอาไปแปรรูปได้หลากหลาย ไล่ตั้งแต่รากขึ้นไปที่มีสรรพคุณในด้านการลดการอักเสบรักษาโรคเกาต์ ในส่วนของใบสามารถนำเอาไปชงเป็นเครื่องดื่มในลักษณะของชาได้ ดื่ม แล้วจะทำให้รู้สึกว่าหลับสบาย


นายธีรวัฒน์กล่าวต่อว่า ในส่วนของช่อดอก จะมีสารอีกตัวหนึ่งซึ่งเรียกว่า CBD จะไม่มีฤทธิ์ทำให้มึนเมาแต่มีคุณสมบัติพิเศษคือ เมื่อบริโภคเข้าไปแล้วจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายช่วยให้หลับสบาย ช่วยให้คลายเครียด จากคุณสมบัติเหล่านี้สามารถนำไปทำเป็นส่วนประกอบในหลายๆ ส่วนได้ เช่น อาหารเสริม ใส่ในอาหาร ผสมในเครื่องสำอาง พืชกัญชงนี้สามารถเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ได้ โดยมุ่งเน้นไปในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพ

สิ่งที่เรามุ่งหวังคือ เราต้องการที่จะพัฒนาระบบการปลูกที่ใช้ต้นทุนต่ำ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรทั่วไปสามารถปลูกพืชกัญชงได้ ตอนนี้ต้นกัญชงที่เราปลูกสามารถนำเอามาใช้ประโยชน์ได้แล้ว เพราะได้รับใบอนุญาตในการจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราได้ไปติดต่อกับลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งลูกค้าที่รับซื้อไปจะได้นำเอาไปพัฒนาสูตรในการผลิตอาหารและเครื่องดื่มต่อไป


ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาจะเป็นลักษณะของวัตถุดิบ เช่น ใบกัญชงอบแห้ง สามารถนำเอาไปชงเป็นชาดื่มได้ และในส่วนของช่อดอกแห้ง จำหน่ายให้ลูกค้านำเอาไปเข้ากระบวนการสกัดเพื่อให้ได้สาร CBD โดยเราส่งไปจำหน่ายให้ลูกค้าทั่วประเทศซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ๆ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายราย และได้เซ็นสัญญาซื้อขายมูลค่าหลายล้านบาทไปเมื่อเร็วๆ นี้

นายธีรวัฒน์กล่าวอีกว่า บริษัท เอซีบีดี อโกร จำกัด ได้มีแผนการดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท ในระยะเริ่มต้น คือ 1. จำหน่ายวัตถุดิบจากพืชกัญชง (raw materials) และ สารสกัดในกลุ่มแคนนาบินอยด์ (cannabinoid) จากพืชกัญชงสู่ผู้ผลิตกลางน้ำ ซึ่งนำไปใช้ต่อยอดในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง กลุ่มธุรกิจอาหารเสริมในสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

2. สร้างแบรนด์และสินค้าจากพืชกัญชงและสารสกัดซีบีดี ที่ได้รับมาตรฐานจากคณะกรรมการอาหารและยา สู่ผู้บริโภคอย่างปลอดภัย และได้รับคุณประโยชน์สูงสุดจากสารสำคัญ ตนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมกัญชงด้วยนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสร้างความยั่งยืนมั่นคงควบคู่ไปกับท้องถิ่น


อีกทั้งบริษัท เอซีบีดี อโกร จำกัด ยังคงมุ่งเน้นในการสร้างมาตรฐานกัญชงให้พร้อมต่อการแข่งขันในตลาดด้วยมาตรฐานระดับสากล ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกให้การยอมรับ โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่างกันออกไป ได้แก่ น้ำมันกัญชง ซีบีดีบริสุทธิ์, น้ำมันเมล็ดกัญชง, ใบกัญชงอบแห้งเต็มใบ, ใบกัญชงอบแห้งแบบบด และส่วนประกอบทุกส่วนของต้นกัญชง ซึ่งเหมาะสมกับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับกัญชง

โดยตนได้นำผลิตภัณฑ์กัญชงไปจำหน่ายในการจัดงานการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 10 (ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร) “เขตสุขภาพที่ 10 หายเจ็บ หายจน รวมพล คนรักกัญ” ซึ่งกำหนดจัดงานนี้ขึ้นในระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. 65 นี้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ด้วย


ทางด้าน นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษของเรามีแนวทางนำกัญชา กัญชง มาสร้างเป็นนวัตกรรมผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้านของชาวศรีสะเกษได้ เนื่องจากว่า จ.ศรีสะเกษมีพืชเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ นอกจากทุเรียนภูเขาไฟแล้วก็มีหอมหัวแดงและกระเทียม และที่กำลังพัฒนาอีกอย่างคือ กาแฟโรบัสตาภูเขาไฟ สายพันธุ์ศรีสะเกษ เพราะ จ.ศรีสะเกษ มีดินภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุสำคัญต่อการเติบโตของพืชเป็นจุดสำคัญและจุดเด่นของเรา

สำหรับกัญชา กัญชงของศรีสะเกษ ต้องเป็นกัญชา กัญชงที่มีคุณภาพ หลังจากที่มีการปลดล็อกจากการเป็นยาเสพติดแล้ว ใบ กิ่ง ก้าน ราก ลำต้น ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากการปลูกกัญชา กัญชง และผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตก็สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ สามารถพัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดได้ จ.ศรีสะเกษของเรามีโรงงานผลิตยาสมุนไพร โรงงานผลิตเครื่องสำอาง และโรงงานผลิตอาหาร ซึ่งสามารถนำผลผลิตกัญชาภูเขาไฟมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องสำอางที่มีคุณภาพได้ เช่น ตอนนี้จังหวัดศรีสะเกษกำลังให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนในการทำชากัญชงเพื่อให้ได้รับมาตรฐาน GMP เป็นการพัฒนาจากภูมิปัญญาของชุมชนจริงๆ และนอกจากนี้จะมีคุกกี้กัญชา สบู่กัญชง แชมพูกัญชง ซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้ได้มาตรฐาน GMP เช่นเดียวกัน