“พรพรหม” ย้ำ นโยบาย “ชัชชาติ” “ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน” กทม. ต้องมีผู้รับผิดชอบ 24 ชั่วโมง ดูแลคนกรุงเทพฯ 3 มิติ ความปลอดภัย การเดินทาง และเศรษฐกิจ
วันนี้ (9 เม.ย.) นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ทีมงานด้านสิ่งแวดล้อมของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ และอดีตผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร New Dem หรือ กลุ่มคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “กทม. 24 ชั่วโมง กับการดูแลยามค่ำคืนของ “ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน”” ว่า
ทุกคนทราบกันดีว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ในช่วงเวลาค่ำคืน ยังมีคนอีกจำนวนมากมายที่ยังต้องดำเนินชีวิตและหาเลี้ยงชีพ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดสด หรือพนักงานกะกลางคืน แต่ที่ผ่านมานั้น การดูแล และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนจะมุ่งเน้นแค่ช่วงกลางวัน (เวลาทำการราชการ)
ผมเลยดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วย อ.ชัชชาติ ออกแบบนโยบาย “ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน” ที่มุ่งเน้นรับผิดชอบดูแลชีวิตประชาชนได้อย่างรอบด้านตลอด 24 ชั่วโมง และกำกับการดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลานอกงานราชการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ผมสามารถสรุปปัญหาที่ประชาชนใน กทม. ประสบในช่วงกลางคืน ออกเป็น 3 มิติ ได้แก่
1. มิติความปลอดภัย
แม้ถนนเส้นหลักจะมีเเสงไฟสว่างไสว แต่ปรากฏว่า ความสว่างในซอยทางเข้าบ้าน หรือถนนเส้นรองยังไม่เพียงพอ รวมถึงความไม่มีประสิทธิภาพของกล้อง CCTV ทำให้เกิดพื้นที่เสี่ยงมากมายระหว่างทางกลับบ้านของประชาชน นอกจากนั้น การรับมือ อุบัติเหตุ และ อุบัติภัย ยามค่ำคืนของ กทม. ยังคงเป็นภัยคุกความความปลอดภัยของประชาชน เช่น น้ำท่วมฉับพลันยามค่ำคืนเพราะ กทม. เปิดประตูระบายน้ำไม่ทัน หรือ การรับมืออัคคีภัยในพื้นที่ที่ไม่ทันท่วงทีและต้องอาศัยการช่วยเหลือของภาคประชาสังคม เป็นต้น
2. มิติความสะดวกสบายในการเดินทาง
เมื่อมีคนจำนวนมากยังต้องใช้ชีวิตในตอนกลางคืน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาและสร้างความไม่สะดวกสบายให้พวกเขาเป็นลำดับแรก คือ การเดินทาง เนื่องจากว่าเส้นทางหลักในการเดินทาง เช่น รถไฟฟ้าสายต่างๆ ต่างก็หยุดให้บริการหลังเที่ยวคืน รวมถึงเส้นทางย่อยที่ไม่มีรถโดยสายอำนวยความสะดวก ทำให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวต้องเสียเงินค่าเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม และ ไม่มีทางเลือกมากนักในการเดินทาง
3. มิติเศรษฐกิจ
ธุรกิจตอนกลางคืน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมืองหลวง กลุ่มคนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยามค่ำคืน แบ่งออกเป็น กลุ่ม “ทางตรง” เช่น ธุรกิจบันเทิง ร้านอาหาร เป็นต้น และ กลุ่ม “ทางอ้อม” เช่น พ่อค้าขายไก่ทอดหน้าสถานบันเทิง หรือ รถแท็กซี่รอรับลูกค้ากลับบ้าน แต่เมื่อเกิดวิกฤตเกิดขึ้นในสังคม เช่น วิกฤตโควิด-19 เราพบว่าธุรกิจกลุ่มดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านนั่งชิว หรือ ตลาดสดยามค่ำคืน ต่างได้รับความช่วยเหลือที่ล่าช้าทั้งที่ได้รับแรงกระทบรุนแรงกว่าธุรกิจอื่น
“ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน” ควรจะต้องเข้ามามีบทบาทอันสำคัญในการรับมือกับปัญหาต่างๆ เหล่านี้ หนึ่งในกลไกที่ต้องตัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยผู้ว่าฯ เที่ยงคืน ดูแลประชาชน คือ การจัดตั้ง “ศูนย์ดูแลเมืองยามค่ำคืน” (BMA Night Control Center) ที่จะเน้นดูแลเรื่องความปลอดภัย มีการติดตั้ง Dashboard ติดตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที เช่น ไฟดับ หรือเรื่องการรับมือกับอุบัติเหตุ อุบัติภัย และงานฉุกเฉินอื่นๆ นอกจากนี้ ยังอำนวยประสานสร้างความสะดวกสบายผ่านการส่งเสริม “การคมนาคมสาธารณะช่วงกลางคืน” การดูแลจุดจอดรถแท็กซี่ และการเพิ่มประสิทธิภาพของงานบริการภาครัฐช่วงกลางคืน เช่นการจัดเก็บขยะ หรือ งานซ่อมบำรุงต่างๆ
นอกเหนือจากนั้น งานของ “ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน” ควรจะต้องเน้นไปที่การส่งเสริมเศรษฐกิจยามค่ำ เช่น การจัดกิจกรรม Festival ประจำพื้นที่ ตลาดกลางคืน งานอาหาร งานศิลปะ Bangkok Night Run หรือ ghost tour (ที่พบได้ในหลายๆ เมือง) รวมถึงการจัดหาพื้นที่สร้างสรรค์และเพิ่มกิจกรรมตอนกลางคืน โดยเริ่มจากการใช้พื้นที่ของ กทม. รวมถึงการดูแลและสนับสนุนเศรษฐกิจยามค่ำคืนแบบครบวงจร
สุดท้ายแล้วผมขอสรุปประโยชน์ที่ชาวกรุง และ คนใน กทม. จะได้รับหากนโยบาย “ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน” ได้รับการนำไปปฏิบัติใช้จริง ออกเป็น 6 ข้อหลัก ได้แก่
1. การเพิ่มแสงส่องสว่างทั่ว กทม. โดยเฉพาะตรอก ซอกซอยต่างๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่อาศัย
2. การเพิ่มช่องทางการเดินทางที่ปลอดภัยและมีค่าใช้จ่ายต่ำ
3. การดูแลควบคุม การสัญจร และ การงานซ่อมบำรุงก่อสร้าง
4. การจัดระเบียบตลาด และ พื้นที่เศรษฐกิจยามค่ำคืน
5. การดูแล จัดการ และรับมืออุบัติเหตุ และ อุบัติภัยต่างๆ ในพื้นที่ กทม. และ พื้นที่ที่ส่งผลถึง กทม.
6. การส่งเสริมสร้างสรรค์พื้นที่กิจกรรม และ พื้นที่เศรษฐกิจใน กทม.
กรุงเทพมหานครเป็นเมืองชั้นนำระดับโลก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นเมือง 24 ชั่วโมง ที่ไม่เคยหลับใหล ดังนั้น ภาครัฐ โดยเฉพาะ กทม. ต้องเข้ามามีบทบาทในการดูแล และ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ อย่างครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง