“รวมไทยยูไนเต็ด” ส่งอีก 3 ส.ก.ผลักดัน “ผู้ว่าฯ นกฮูก” เสริมทัพกลางคืน ดูแลประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ชี้เพราะปัญหาเลือกเวลาเกิดไม่ได้
วันนี้ (29 มี.ค.) นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด เปิดเผย ว่า พรรครวมไทยยูไนเต็ด เล็งเห็นว่า กทม. คือเมืองที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น หนึ่งในไอเดียหลักและนโยบายที่ทางพรรคต้องการขับเคลื่อนในการพัฒนา กทม. คือ การเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในการบริหารงาน กทม. ในช่วงนอกเวลาราชการ ในการดูแลประชาชน พัฒนาเศรษฐกิจ และ สร้างสรรค์พื้นที่ สำหรับคนทุกกลุ่ม ทุกวัย
โดยพรรคจะผลักดันนโยบายผ่าน ส.ก.เรื่อง “ผู้ว่าฯ นกฮูก” เนื่องจากว่าเมืองหลวงแห่งนี้เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล และเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก มีดำเนินกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งมักจะมีเหตุไม่คาดคิด (การเกิดอุบัติเหตุ/อุบัติภัย) ในยามค่ำคืนได้ตลอดเวลา
ดังนั้น ผู้ว่าฯ กทม. หรือ ส.ก.ที่ต้องดูแลแต่ละเขต ต้องมีการเตรียมความพร้อมในการดูแลกิจกรรม ธุรกิจ หรือ ประชาชนที่ใช้ชีวิตในช่วงเวลากลางคืนอย่างเป็นระบบมากขึ้น มีการพัฒนายกระดับพื้นที่ หรือ กิจกรรมยามย่ำคืนให้มีความครอบคลุมและเท่าทันความต้องการของประชาชน และ สังคมโลกอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ พรรครวมไทยยูไนเต็ด จึงได้ส่ง 3 ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ที่มีความสนใจในประเด็นด้านการขับเคลื่อนความปลอดภัยและการพัฒนาชีวิตประชาชนยามค่ำคืน ได้แก่ คุณยิว หรือ นางสาวริสา แซ่ฮึง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางคอแหลม, นายวัทธิกร หรุ่นศิริ หรือ คุณแพท ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตราชเทวี และ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตวังทองหลาง คุณปุ๋ย นายพงศ์ธร เพชรชาติ เพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญในเมืองหลวง กทม.
"พรรครวมไทยยูไนเต็ดแม้จะส่งแค่ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่ง ส.ก. แต่ก็ได้มองขาดถึงปัญหาเมืองที่ต้องการได้รับการดูแล มหานครเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ดังนั้น โครงสร้างการบริหารงานของ กทม. จำเป็นต้องตอบโจทย์ในประเด็นดังกล่าวด้วย หน้าที่ของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร คือ การเข้าไปผลักดันเกิดการพัฒนาการดำเนินงานของกทม.ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคนกรุงมากขึ้น สร้างความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตของประชาชน"
นางสาวริสา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. บางคอแหลม พ่วงด้วยผู้บริหารร้านอาหาร 91 bar & restaurants ที่จะมีลูกค้าประจำเข้ามาใช้บริการในช่วงเวลาหลังเลิกงาน ได้เสนอแนวทางการดูแลและพัฒนากทม.ยามค่ำคืนว่า “พบว่า คน กทม.ส่วนมาก จะใช้ชีวิตในช่วงเย็นถึงกลางคืนเป็นหลัก เนื่องจากเวลากลางวันผู้คนส่วนมากมักจะใช้เวลาอยู่ในที่ทำงาน หรือ สถานศึกษา จึงมองว่าความปลอดภัยในการเดินทาง และ การใช้เวลาว่างในช่วงเย็น ไปจนถึงช่วงกลางคืน ควรได้รับการดูแลและได้รับการพัฒนามากกว่านี้
นายวัทธิกร ผู้ช่วยนักบินหนุ่ม ที่ตัดสินใจลงมาสมัครเพื่อเป็นตัวแทนประชาชนในการพัฒนา กทม. ได้แสดงความคิดเห็นว่า พื้นที่เขตราชเทวีเป็นเหมือนใจกลางเศรษฐกิจอีกพื้นที่ใน กทม. ที่มีความหลากหลายของคนกลุ่มคนมากมาย ดังนั้น พื้นที่ดังกล่าวสามารถยกระดับและพัฒนาให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์และพื้นที่กิจกรรมยามค่ำคืนให้มากขึ้นและมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะเขตราชเทวี พื้นที่ที่มีกิจกรรมในช่วงเย็นและยามค่ำคืน มากเป็นลำดับต้นของ กทม. เช่น บริเวณอนุสาวรีย์ชัย เพชรบุรีซอย 7 หรือ บริเวณแยกประตูน้ำ
และผู้สมัครคนสุดท้ายที่สนับสนุนและเห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายผู้ว่าฯ นกฮูก คือ นายพงศ์ธร หนุ่มใหญ่ที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานคร และเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายในเมือง ได้เสริมเติมว่า เขตพื้นที่วังทองหลาง เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของคนหลากหลาย มีซอกซอยมากมาย ดังพื้นที่แสงส่องสว่างและความปลอดภัยในการเดินทางภายในเขตต่างๆ ก็เป็นประเด็นสำคัญ ต้องการเข้ามาผลิกโฉมให้คนกรุงเห็นว่า แสงสว่างและความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่าย ถ้าผู้แทนประชาชนมีความตั้งใจจริง”
