พม. สนองนโยบายนายกฯ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดึงเครือข่าย จ.แพร่ เร่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลให้ครอบคลุม ช่วยแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า
วันที่ 31 มี.ค. 65 นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วยนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวง พม. น.ส. นิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่จังหวัดแพร่ เพื่อเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตําบลบ้านหนุน อําเภอสอง และมอบเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง จํานวน 200 ครัวเรือน จากนั้น เดินทางไปเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตําบลเวียงทอง อําเภอสูงเม่น และมอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จํานวน 200 ครัวเรือน และเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน จํานวน 20 ครัวเรือน และเดินทางไปเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตําบลเหมืองหม้อ อําเภอเมืองแพร่ และเปิดโรงเรียนครอบครัวตําบลเหมืองหม้อ พร้อมทั้งมอบเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง จํานวน 200 ครัวเรือน มอบรางวัลอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ดีเด่น
นอกจากนี้ได้พบปะพูดคุยกับผู้แทนสภาเด็กและเยาวชนตำบลกลุ่มสตรีโรงเรียนผู้สูงอายุและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพร้อมทั้งเยี่ยมชมผลงานรวมทั้งได้เยี่ยมชมกิจกรรม“Move on Bully”รณรงค์ต่อต้านการบูลลี่ (Bully)จากเพจ Because We Careภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงพม.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)และภาคีเครือข่ายนำโดยนายอนุกูลปีดแก้วอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการและพันตำรวจเอกหญิงศิริกุลศรีสง่าผู้ดูแลเพจซึ่งนำบทเพลง “ปล่อยผ่าน (Move on Bully)”ที่มีเนื้อหาในการให้กำลังใจแก่ผู้ที่ถูก Bullyมาถ่ายทอดสอนร้องเพลงและร่วมร้องเพลงกับเด็กๆในชุมชนเวียงทองอำเภอสูงเม่นซึ่งจะมีการขยายผลการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆต่อไป
นายจุติ กล่าวว่า วันนี้มาเป็นตัวแทนของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาดูแลศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลในการแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ซึ่งได้รับภารกิจให้เร่งดูแลปัญหาตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย โดยอยากให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังในทุกมิติ และทุกกระทรวงจะบูรณาการร่วมกัน เพราะงานของประชาชนคืองานหลักที่ต้องเร่งแก้ไข และสิ่งสำคัญคือการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน การแก้ปัญหารายได้ของประชาชนให้มีอาชีพใหม่เพิ่มเติม การแก้ปัญหาการศึกษาในเรื่องการขาดทุนทรัพย์ การลดค่าใช้จ่าย และการลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเราดำเนินการในหลายมิติร่วมกับทุกกระทรวง โดยหวังว่าจะเห็นความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาผ่านศูนย์แห่งนี้ ตามความต้องการของนายกรัฐมนตรีที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดแพร่ในวันนี้ ตนและคณะได้มาเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตําบลรวม 3 แห่ง ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางบูรณาการความช่วยเหลือสำหรับการให้บริการสวัสดิการสังคมที่ครอบคลุมแก่กลุ่มเปราะบางและประชาชนทุกช่วงวัยที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคมและสถานการณ์โควิด - 19 ในพื้นที่ ภายใต้การให้บริการสังคมแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลเข้ามาติดต่อขอความช่วยเหลือในตัวเมือง โดยการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของกระทรวง พม. ในพื้นที่ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมทั้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.)