นายกฯ ยอมรับราคาปุ๋ย-อาหารสัตว์ แพง ยังต้องหารือหลายฝ่าย ย้ำ รบ.เกาะติดทุกปัญหาต่อเนื่อง พร้อมตั้งสมมติฐาน วางแผนแก้ไข-คาดการณ์อนาคต ขอคนไทยอย่าขัดแย้ง หันหน้าคุยกัน ไม่ใช้อารมณ์
วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามแก้ปัญหาราคาปุ๋ยแพง ว่า วันนี้ยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งได้รับรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า มีปัญหาระหว่างผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และสมาคมหลายแห่งที่ต้องมาหารือกัน ทั้งนี้ ทุกเรื่องต้องมีการหารือกันทั้งสองฝ่ายเสมอ ทั้งผู้ได้รับผลกระทบ ผู้ให้บริการจัดหาปุ๋ยเข้าประเทศ เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาอาหารสัตว์ ที่มีทั้งส่วนหนึ่งที่เป็นผู้ประกอบการพืช ไร่ของเราเอง ที่ไม่ต้องการให้เอาของผู้อื่นเข้ามาช่วย แต่ขณะนี้มันขาดแคลนแล้วเราจะทำอย่างไรถ้าไม่นำเข้ามา เพราะเขาไม่อยากให้มีการนำเข้า เพราะตอนนี้ราคามันสูงดีอยู่แล้ว นี่คือสิ่งยาก แต่ก็ต้องค่อยๆหารือว่าจะทำกันยังไงต่อไป
“สิ่งที่วันนี้รัฐบาลกำลังทำกันอยู่ โดยเฉพาะนายกฯให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดทุกเรื่อง ทุกวัน ทุกปีที่ผ่านมาก็ทำแบบนี้ เรื่องใดที่เป็นเรื่องของความเดือดร้อน เรื่องของความขัดแย้ง ในฐานะที่เคยเป็นทหารมาก่อนก็จะต้องประเมิน วางแผนงานต่างๆ ในสมมติฐาน เช่น เรื่องสงครามวันนี้เราก็ต้องมองว่ามันเกิดขึ้น มันจะยาวไหม ในช่วง 3 เดือน มันจะเกิดปัญหาอะไรใน 3 เดือนนี้ไหม แล้วปัญหาเช่นเดิมเหมือนใน 3 เดือนนี้ ถ้ามันต่ออีก 3 เดือนจะทำยังไง หรือถ้าสถานการณ์มันรุนแรงมากกว่าตอนนี้ มีการสู้รบมากขึ้น สมมติฐานนี้จะทำยังไง เพราะฉะนั้นจะต้องเตรียมแผนงานและหารือเตรียมการไว้ล่วงหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้เราก็อนุมัติไป 10 มาตรการช่วยเหลือประชาชนให้เป็นทางการ อย่าลืมว่าทั้งหมดใช้งบประมาณทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องงบประมาณเราใช้ดูแลประชาชนไปเยอะ ทั้งการลดภาษี อุดหนุนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง และอย่าลืมว่าถ้าเราทุ่มงบประมาณทั้งหมดลงไปเฉพาะปัญหาใดปัญหาหนึ่ง ปัญหาอื่นจะเกิดตามมาทันที เพราะมีอีกหลายหน่วยงาน หลายกระทรวงต้องใช้งบประมาณในภาพรวม หลายอย่างต้องทำต่อเนื่อง จะให้ตัดทั้งหมดก็ไม่ได้ วันนี้ต้องดูว่างบประมาณภาครัฐเป็นอย่างไร นั่นคือเหตุผลที่ต้องปรับตัวเลขตามนโยบายการคลังมาโดยตลอด เพื่อแก้ปัญหาได้ในอนาคตตามสมมติฐานที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเราก็อยากให้ทุกอย่างสิ้นสุดโดยเร็วทุกเรื่อง แต่มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของประเทศเรา นี่คือ สิ่งที่ยกตัวอย่างให้เห็นว่าความขัดแย้งมันพร้อมจะเกิดขึ้นตลอดเวลาในโลกใบนี้ และเราประมาทไม่ได้ แม้ในภูมิภาคของเราเองที่ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เราต้องเตรียมความพร้อมของเราให้พร้อม
“สิ่งสำคัญที่สุดคือความพร้อมของคนไทยเราทุกคนในการแก้ไขปัญหา อย่าขัดแย้งกัน ผมไม่อยากจะให้ขัดแย้งอะไรกันมากมายนักหรอก ความคิดมันไม่ตรงกันได้ แต่จะหาวิธีปฏิบัติอย่างไรให้มันทำได้ดีที่สุด ก็ต้องหันหน้ามาพูดกัน แล้วหาทางออกที่ดีที่สุดด้วยเหตุผล ด้วยหลักการที่เข้าใจตรงกัน ถ้าต่างคนต่างพูดแล้วถือเป็นอารมณ์กันทั้งหมด ไม่มีทางสำเร็จทุกเรื่อง กลับไปย้อนดูว่าทุกอย่างที่พูดกันออกมา เราทำมาหรือเปล่า รัฐบาลทำไปแล้วหรือยัง ไม่มีอะไรสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมพูดได้เพราะอยู่มาหลายปี แต่ผมก็เปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมทำ รัฐบาลนี้ที่ผมอยู่ ผมทำไปเยอะพอสมควร หลายเรื่องที่เอามาพูดกันตอนนี้เราก็ทำไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็ขอให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วยก็แล้วกัน แค่นั้นแหละ” นายกฯกล่าว