“บิ๊กตู่” เผย มาตรการช่วย ปชช.ช่วงวิกฤตพลังงาน คนถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ร้านค้าคนละครึ่งเตรียมเฮ ย้ำตรึงราคาดีเซลให้นานที่สุด วอนผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค หั่นกำไรช่วยผ่านวิกฤต
วันนี้ (16 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ว่า วันนี้อยากแจ้งในเรื่องการหารือข้อเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครน และภาวะราคาพลังงานสูง ทำให้อย่างอื่นตามขึ้นไปทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีหลายอย่างด้วยกัน ในเรื่องของน้ำมันเราพยายามจะตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรตรงนี้ไปก่อน ซึ่งราคาจริงสูงกว่านี้มากนัก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ใช้กองทุนน้ำมันที่ติดลบอยู่ในปัจจุบันต้องหาเงินจากตรงอื่นมาเติมในส่วนนี้ ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันและต้องกำหนดมาตรการต่อไป ช่วงนี้ถ้าเราทำได้ไปจนถึงที่สุดแล้วของงบประมาณที่มีอยู่ก็อาจต้องมีมาตรการอื่นเพิ่มเติมขึ้นมา ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงสถานการณ์วิกฤต
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องการช่วยเหลือแรงงาน ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นกัน ก็จะต้องพิจารณาลดรายจ่ายของนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งกำลังจะให้กองทุนประกันสังคมพิจารณาดำเนินการ การช่วยเหลือการขาดแรงงานก็จะพิจารณา ซึ่งขณะนี้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวเพิ่มเติม และในด้านการเกษตรซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ มีหลายเรื่องด้วยกันทั้งในเรื่องของอาหารสัตว์ ปุ๋ย วันนี้ตนได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้พิจารณาความช่วยเหลือเรื่องปุ๋ยเคมีราคาแพง เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร เพราะปัจจุบันแม่ปุ๋ยของเราเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งหลายประเทศวันนี้เขาก็ต้องเก็บไว้เช่นกัน ไม่อยากส่งออก เพราะเขาก็มีผลกระทบเช่นกัน เราจึงต้องแก้ปัญหาในเรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ หรือที่เรียกว่าปุ๋ยสั่งตัด ให้เหมาะสมกับชนิดของพืชแต่ละชนิด ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้มีรายได้น้อย เราก็ต้องพิจารณาที่จะช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างไร ขณะนี้มีมาตรการเบื้องต้นที่อยู่ระหว่างการหารือ คือ บรรเทาผลกระทบราคาก๊าซหุงต้ม แอลพีจี ให้กับกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้มแอลพีจีสำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง การช่วยเหลือค่าไฟฟ้า การช่วยเหลือเรื่องของราคาน้ำมันเบนซินในกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงจะขอความร่วมมือให้ผู้ค้าเอ็นจีวีให้ตรึงราคาในช่วงวิกฤตพลังงานไปก่อน เป็นสิ่งที่รัฐทำได้ในเวลานี้
“เพราะฉะนั้นเราต้องติดตามสถานการณ์ วันนี้ราคาน้ำมันก็แกว่งขึ้นแกว่งลงอยู่ หลายคนบอกว่าทำไมในเมื่อราคาน้ำมันลงแล้วเราไม่ลดลง อย่าลืมว่าที่ผ่านมามันแพงเกินราคานี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะลงอย่างไรมันก็เกินลิตรละ 30 บาท มีแค่เฉพาะราคาของดีเซล ทุกอย่างมันขึ้นทั้งหมด ก็ขอให้เข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทย ขอทุกคนเข้าใจและร่วมมือกัน เพราะถ้าเราไม่ร่วมมือกัน ขัดแย้งกันไป วิกฤตการณ์มันก็แก้ไขไม่ได้ ถ้าพวกเราไม่เข้าใจกันหรือร่วมมือกัน ไม่ว่าใครก็ตาม รัฐบาลและนายกฯเองก็พยายามทำอย่างเต็มที่ หลายอย่างได้นำเข้าสู่การพิจารณาของครม. เพราะฉะนั้นทุกกระทรวงต้องช่วยกัน ถ้าเรามุ่งหวังแต่จะใช้งบประมาณมากๆ ทุกอย่างมันก็คือปัญหา เพราะเรามีงบประมาณไม่เพียงพอ รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชน ขอให้เข้าใจตรงนี้ ลองย้อนกลับไปดูที่ผ่านมาเราดูแลกันไปแล้วเท่าไหร่ สิ่งสำคัญคือความเข้าใจกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการทั้งหมดจะต้องสรุปให้ได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้เขาก็หารือกันอยู่ ซึ่งรัฐบาลก็ประชุมกันตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ก็ประชุมอีกครั้ง นำทุกๆ เรื่องเข้ามาสู่การพิจารณาและกลับไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาอีกครั้ง และเมื่อเรียบร้อยก็จะนำเข้าหารือในครม. เพราะมาตรการต่างๆครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะการอนุมัติสิ่งต่างๆ ก็จะมีเรื่องของงบประมาณด้วย สิ่งสำคัญที่สุด คือ การปรับวิธีการต่างๆ ก็ต้องมาดูว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้างหรือไม่ ภาคการเกษตรจะต้องดูแลอย่างไร เรื่องอาหารสัตว์ก็สำคัญ เพราะปัจจุบันต้นทุนมีราคาสูง ทั้งข้าวสาลี ข้าวโพด แม้เราจะมีการผลิตอยู่พอสมควร ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงเกษตรฯ
เมื่อถามว่า ราคาน้ำมันดีเซลรัฐบาลจะสามารถตรึงได้ในระยะเวลากี่เดือน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็จะตรึงเท่าที่มีเงินเหลืออยู่ ปัจจุบันก็มีอยู่ประมาณ 4 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งวันนี้ก็ใช้ไปจนเกือบจะหมดแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาใช้กันทุกวัน เพราะราคาที่แท้จริงของดีเซลควรจะเป็นลิตรละ 35-37 บาท แต่เราต้องตรึงไว้ที่ 30 บาทนานพอสมควร ราคาน้ำมันรอบบ้านก็ไม่ได้ถูกกว่าเรา เว้นแต่ประเทศที่มีแหล่งน้ำมันภายในประเทศ”
เมื่อถามว่า นอกจากเรื่องการตรึงราคาพลังงาน ในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะไข่ไก่ รัฐบาลได้มีการกำชับและดูแลอย่างดี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องกำชับและเป็นหน้าที่ของกระทรวงที่รับผิดชอบในการควบคุมราคา แต่ก็ต้องดูว่าเป็นธุรกิจเช่นเดียวกัน ถ้าเราคุมราคาไว้ในขณะที่ต้นทุนสูง จะให้ขายในราคาต่ำ ผู้ประกอบการก็คงประกอบการไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องดูที่ความเหมาะสมให้เกิดความเป็นธรรม ก็อยากขอร้องให้ธุรกิจเอกชนต่างๆ ขอให้ลดราคาลงบ้าง ไม่ใช่ลดจากราคาเดิมก่อนมีสงคราม แต่อยากขอให้ลดในส่วนของกำไรลงมาหน่อยได้หรือไม่ เพราะรัฐไม่อยากไปควบคุมจนมากนัก จนทำให้ธุรกิจเดินไม่ได้ สิ่งสำคัญต้นทุนมาจากต่างประเทศเสียจำนวนมาก ซึ่งไทยมีปัญหาตรงนี้อยู่ จึงต้องสร้างความเข้มแข็งด้านการผลิตเดินได้ด้วยตัวของเราเอง