xs
xsm
sm
md
lg

เป็นอะไรมากมั้ย “รังสิมันต์ โรม” ปลุกติ่งตามล่าผู้พิพากษาอนุมัติหมายจับ **“สุรนันทน์” เปิดตัวร่วมทีมสมคิด แก้ปัญหาเศรษฐกิจกับพรรคสร้างอนาคตไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**เป็นอะไรมากมั้ย “รังสิมันต์ โรม” ปลุกติ่งตามล่าผู้พิพากษาอนุมัติหมายจับ

กรณี “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอแรงพี่น้องประชาชนช่วยกันตามหาผู้พิพากษาเจ้าของลายเซ็น ที่ลงนามออกหมายจับผม เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ในคดีป่ารอยต่อฯ

“รังสิมันต์” ขยายความว่า วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีนัดหมายต้องเดินทางไปที่ สน.บางขุนนนท์ อีกครั้ง เพื่อให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในคดีมูลนิธิป่ารอยต่อฯ จากการที่อัยการมีความเห็นว่า สำนวนไม่สมบูรณ์ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา

ตามที่เขาเคยตั้งคำถามว่า ในเมื่อสำนวนยังไม่เรียบร้อยเช่นนี้ แล้วทางตำรวจจะดันทุรังเร่งออกหมายจับเพื่อนำตัวเขามาส่งอัยการไปเพื่ออะไร? แล้วศาลอนุมัติหมายจับ ทั้งที่ไม่มีเหตุแห่งการหลบหนีเช่นนี้ได้อย่างไร ?

เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม ได้ปรึกษากับทนายความแล้วเห็นว่า ต้องมีการดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงถามตัวผู้พิพากษาท่านนั้น ถึงสาเหตุการอนุมัติหมายจับ

 รังสิมันต์ โรม
“จึงขอแรงพี่น้องประชาชนช่วยกันตามหาผู้พิพากษาเจ้าของลายเซ็น ที่ลงนามออกหมายจับผม พี่น้องท่านใดทราบ หรือมีข้อมูลว่าเจ้าของลายเซ็นนี้ ชื่ออะไร รบกวนแจ้งมาทางกล่องข้อความของเพจได้เลยครับ ผมจะได้ตามหา และขอให้ชี้แจงต่อการกระทำดังกล่าวครับ”

เรื่องนี้ทำเอาชาวเน็ตถึงกับอึ้ง วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติรายนี้ อย่างกว้างขวาง ทำตัวใหญ่คับประเทศ เพราะขบวนการยุติธรรมก็เดินไปตามขั้นตอนปกติ แต่ “รังสิมันต์” กลับไม่ปกติ เรียกว่า หวาดหวั่นจนเสียศูนย์ ออกอาการโอเวอร์แอกติ้งมากเกินไปหรือเปล่า ไหนว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย คนต้องเท่าเทียม? หรือทำตัวเองแท้ๆ คนเท่าเทียมกันที่เรียกร้องนั่น ไม่มีอยู่จริง

“รังสิมันต์” เล่นใหญ่ บ่งบอกถึงการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม แต่กลับเรียกร้องความเป็นธรรมแบบนี้ ไม่เรียกว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่ ข่มขู่ผู้พิพากษาแล้วจะเรียกอะไร? และการเรียกร้องให้สาวกตัวเองตามล่าผู้พิพากษา แทนการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมกับ ส.ส.แล้วหรือ

สรุปหลายๆ คอมเมนต์ ของชาวเน็ตเป็นไปทำนองเดียวกันว่า เรื่องแบบนี้ “รังสิมันต์ โรม” จะทำผิด หรือ ไม่ผิด ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ไม่ผิดก็ต่อสู้ไปตามระบบ กฎหมายใช้บังคับกับทุกคนไม่ใช่หรือ ผู้พิพากษาก็ทำตามขั้นตอน หากทำผิดก็ตรวจสอบได้ ไม่เห็นจะต้องร้องเอะอะโวยวาย เรียกม็อบโซเชียลฯ มาจัดการกดดันตามระบอบของตัวเอง กับคนที่ไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองคิด ชนิดที่ “กร่าง” เรียกพี่ จริงๆ

งานนี้ “โรม” ผู้ยิ่งใหญ่ จึงถูกตั้งคำถามว่า เป็นอะไรมากมั้ย? และจะมีอะไรตามมาจากนี้ น่าสนใจ ติดตามเป็นยิ่งนัก


**“สุรนันทน์” เปิดตัวร่วมทีมสมคิด แก้ปัญหาเศรษฐกิจกับพรรคสร้างอนาคตไทย

สุรนันทน์ เวชชาชีวะ
ในวันที่ “อุตตม สาวนายน” อดีต รมว.คลัง และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีต รมว.พลังงาน พร้อมแกนนำพรรค ทำการเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา... มีคนเห็น “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ไปปรากฏตัวในฐานะผู้สังเกตการณ์ ไม่ใช่ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค
แต่ล่าสุด เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) “สุรนันทน์” ได้โพสต์ภาพตนเอง พร้อมข้อความบนภาพ “#ทีมสมคิด” ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Suranand Vejjajiva นอกจากนี้ ยังโพสต์ข้อความ #ทีมสมคิด Meet Thihk Room พรรคสร้างอนาคตไทย
แบบนี้ ก็ถือเป็นการแสดงความชัดเจน ในการร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย โดยพรรคจะมีการประชุมใหญ่ในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค และเปิดโลโก้พรรค... เชื่อว่า วันนั้นจะมีการเปิดตัว “สุรนันทน์” ในฐานะหนึ่งในทีมงานผู้บริหารพรรคด้วย เช่นกัน

อุตตม สาวนายน
“สุรนันทน์” เผยว่า ได้พูดคุยกับ “อุตตม สาวนายน” มา 5-6 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าไปร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย เพิ่งมาตัดสินใจในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี่เอง หลังถูก “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” อดีตรองนายกฯ ชักชวนว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องเข้าไปช่วยประเทศชาติแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

“สุรนันทน์” บอกว่า รู้จักกับ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” มากว่า 30 ปี และรู้ว่า “สมคิด” เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย แม้จะยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ตาม และเห็นว่า “สมคิด” คือ คนที่เหมาะสมที่สุด ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง ผ่านมาทั้งรัฐบาลของ “ทักษิณ ชินวัตร” และรัฐบาลของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เพียงแค่ยังไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งเท่านั้น ... หวังว่า เมื่อถึงเวลา “สมคิด” คงไม่ปฏิเสธกับการรับตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ

“สุรนันทน์” เห็นว่า จุดอ่อนของ “รัฐบาลลุงตู่” อยู่ที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะชุดความคิดที่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เคยวางไว้ในช่วงต้นของรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ถูกสานต่ออย่างครบถ้วน เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางบุคลากร ด้วยเหตุผลทางการเมือง ทำให้แผนเศรษฐกิจต่างๆ ชะงักงันไป

ประกอบกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทั่วโลก แต่การบริหารจัดการของรัฐบาล มีจุดอ่อนเยอะมาก ทำให้การดูแลระบบสาธารณสุขของประชาชนช่วงแรกมีปัญหา ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ไม่ได้สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจระยะยาว และทุกวันนี้การแก้ปัญหาก็ยังไม่ได้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาระยะสั้น เรื่องปากท้อง ยังทำได้ไม่ถูกจุด

 สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
สำหรับ “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นบุตรชายของ นายนิสสัย เวชชาชีวะ กับนางมารินา อิศรเสนา ณ อยุธยา จบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์การเมือง ที่วิลเลียมส์คอลเลจ, ปริญญาโทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และปริญญาโทการบริหารที่สถาบันศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพฯ ในปี 2538 และปี 2539 สังกัดพรรคพลังธรรม แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

จากนั้นในปี 2544 ปฏิบัติหน้าที่รองโฆษกพรรคไทยรักไทย และขยับเป็น โฆษกพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคไทยรักไทย เป็นรองเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี และ ปี 2548 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนกระทั้งเกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49

“สุรนันทน์” เป็นหนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกตัดสิทธิในการเลือกตั้ง จึงไปทำงานด้านสื่อ และจับงานธุรกิจ

เมื่อพ้นโทษเว้นวรรคทางการเมือง ... เดือน มี.ค. 55 “สุรนันทน์” กลับเข้ารับตำแหน่งโฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในปีเดียวกัน และเมื่อหมดยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ “สุรนันทน์” ก็ไปทำธุรกิจร้านกาแฟ Brainwake @ Sukhumvit 33

“สุรนันทน์” นับเป็นนักการเมืองระดับมันสมอง ที่ “เก๋าเกม” และอยู่ในวงจรอำนาจมานาน ตอนนี้ก็เตรียมหวนกลับสู่สนามการเมืองอีกครั้ง เพื่อมาช่วยงานนโยบายให้กับ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” และพรรคสร้างอนาคตไทย ส่วนจะได้รับตำแหน่งอะไรเป็นพิเศษ หรือไม่ ต้องจับตาวันประชุมใหญ่พรรค ช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้




กำลังโหลดความคิดเห็น