เวียนแจ้ง 76 จังหวัด /18 กลุ่มจังหวัด ปรับใช้ “งบผู้ว่าฯบูรณาการ” หรือ งบผู้ว่าฯ ซีอีโอ ในอดีต ย้อนหลัง 8 ปี เฉพาะโครงการตามแผนปฏิบัติราชการ “สัญญาก่อน” มติ ครม.14 ก.ค. 58 ที่เหลือจ่าย ไม่สามารถดำเนินการได้ หรือดำเนินการไม่แล้วเสร็จ เน้นขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อชดเชยเงินที่ถูกพับไป
วันนี้ (23 มี.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้ง หัวหน้ากลุ่มจังหวัดทุกกลุ่มจังหวัด 18 จังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด
เพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (เพิ่มเติม) กรณีการขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อชดเชยเงินถูกพับไป และการใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการตามคำขี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
โดยให้การบริหารจัดการและการใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) ที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
แนวทางดังกล่าวว่าด้วยการขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อชดเชยเงินถูกพับไปของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เฉพาะงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2563
“ให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ใช้งบประมาณเหลือจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายปีปัจจุบัน หรือขอปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณจากโครงการที่ไม่สามารถดำเนินการได้/ดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ไปชดเชยเงินที่ถูกพับไป”
โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือหัวหน้ากลุ่มจังหวัด นำเสนอคำขอเปลี่ยนแปลงโครงการ เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) หรือ คณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ “แผนพัฒนาจังหวัด” (ก.บ.ก.) แล้วแต่กรณี
และเมื่อ ก.บ.จ. หรือ ก.บ.ก. ให้ความเห็นชอบแล้ว ให้จัดส่งคำขอเปลี่ยนแปลงโครงการมายังฝ่ายเลขานุการ ก.บ.ภ. เพื่อพิจารณากลั่นกรอง ก่อนเสนอขอความเห็นขอบ จากประธาน อ.ก.บ.ภ.ที่กำกับดูแลภาค และแจ้งเวียน อ.ก.บ.ภ.ภาค เพื่อทราบต่อไป
ทั้งนี้ ให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด เร่งดำเนินการใช้งบประมาณเหลือจ่ายไปชดเชยเงินถูกพับไปให้แล้วเสร็จ ก่อนเสนอดำเนินโครงการใหม่
ขณะเดียวกัน ให้ขยายระยะเวลาการขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เฉพาะกรณีชดเชยเงินถูกพับไปของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จากเดิมภายในเดือน มี.ค. 2565 เป็นภายในเดือน มิ.ย. 2565
ส่วนการใช้งบประมาณชองจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เพื่อดำเนินการตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
ให้ใช้งบประมาณเหลือจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายปีปัจจุบัน หรือขอปรับ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณจากโครงการที่ไม่สามารถดำเนินการได้หรือดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ไปชำระหนี้ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
“เฉพาะโครงการที่ดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และมีการกำหนดในสัญญาก่อนมติคณะรัฐมนตรี (14 ก.ค. 2558)”
โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือหัวหน้ากลุ่มจังหวัด นำเสนอคำขอเปลี่ยนแปลงโครงการ และขอความเห็นชอบจาก ก.บ.จ. หรือ ก.บ.ก. เพื่อพิจารณากลั่นกรองแล้วแต่กรณี และกรณีกลุ่มจังหวัดเดิม (ก่อนการเปลี่ยนแปลง ปี 2560) ให้เสนอขอความเห็นชอบในสังกัดกลุ่มจังหวัดใหม่
สำหรับ งบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2563 พบว่า ในปี 2557 จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ได้รับจัดสรร 18,000 ล้านบาท ปี 2558 ได้รับจัดสรร 18,000 ล้านบาท
ปี 2559 ได้รับจัดสรร 25,199 ล้านบาท ปี 2560 ได้รับจัดสรร 26,999 ล้านบาท เป็นงบจังหวัด 20,474 ล้านบาท กลุ่มจังหวัด 6,525 ล้านบาท ปี 2561 ได้รับจัดสรร 28,000 ล้านบาท เป็นงบจังหวัด 19,600 ล้านบาท กลุ่มจังหวัด 8,400 ล้านบาท
ปี 2562 ได้รับจัดสรร 28,000 ล้านบาท เป็นงบจังหวัด 19,600 ล้านบาท กลุ่มจังหวัด 8,400 ล้านบาท ปี 2563 ได้รับจัดสรร 24,000 ล้านบาท
ในส่วนของงบบริหาร จังหวัดขนาดใหญ่ 24 จังหวัด จะได้งบบริหาร 10 ล้านบาท จังหวัดขนาดกลาง 39 จังหวัด ได้งบบริหาร 9 ล้านบาท และจังหวัดขนาดเล็ก 13 จังหวัด ได้งบบริหาร 8 ล้านบาท
ขณะที่ 18 กลุ่มจังหวัด ได้งบบริหาร กลุ่มจังหวัดละ 5 ล้านบาท.
