xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายแม่แตงโม” ร้อง กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ตั้ง คกก.สอบคดี จ่อเรียก “ผบ.ตร.- ผบช.ภ.1.- พฐ.” เข้าให้ข้อมูล ยันไม่แทรกแซง ตร.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทนายกฤษณะ” ยื่นเอกสารร้อง กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ขอตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีแตงโม ด้าน “ส.ว.สมชาย” เตรียมนัดถกนัดแรก 14 มี.ค. เชิญผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 1-เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน-ผบ.ตร. เข้ามาให้ข้อมูล ยัน กมธ.ไม่แทรกแซงตำรวจ ขณะที่ “ทนายกฤษณะ” เผย แม่กับพี่ชายเคลียร์ใจกันแล้ว ระบุ “ดายศ-ทนายษิทรา” ขอถอยออกมาก่อน

วันนี้ (8 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.47 น. ที่รัฐสภา นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือ คุณแม่ของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ภัทรธิดา นักแสดงสาวชื่อดัง พร้อมด้วย นางภานุชฎา ศิระยุทธโยธิน ญาติของแตงโม เดินทางมาพบ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีแตงโม

นายสมชาย กล่าวว่า วานนี้ (7 มี.ค.) ทนายความได้รับอำนาจจากคุณแม่และญาติแตงโม หารือกับตน และ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. เพื่อขอให้ กมธ. เข้ามาช่วยดำเนินการด้วย เพื่อให้เกิดความถูกต้องในการตรวจสอบทุกประการ เราเห็นว่า เป็นเรื่องเกี่ยวข้องสิทธิของเหยื่อ คือ คุณแตงโม และครอบครัว ซึ่งอยากได้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ทั้งการชันสูตรพลิกศพ หรือทางนิติวิทยาศาสตร์ เพราะข้อเท็จจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เชื่อว่า ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงมาดูคดีด้วยตนเอง เพราะอยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชน ดังนั้น กมธ.จะรับเรื่องไว้ และนำเข้า กมธ.เพื่อหารือต่อไป ว่า จะดำเนินการอย่างไร เช่น ตั้งคณะทำงาน หรือ คณะอนุ กมธ. เข้าไปช่วยตรวจสอบบางประการ โดยจะเริ่มหารือนัดแรกในวันที่ 14 มี.ค.นี้ เบื้องต้นจะเชิญผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 1 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และ ผบ.ตร. เข้ามาให้ข้อมูลในคดีดังกล่าว ยืนยันว่า การทำงานของ กมธ.จะไม่แทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ส่วนจะชันสูตรพลิกศพอีกครั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของญาติ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเรียบร้อยแล้วอาจจะไม่จำเป็นก็ได้ แต่ดูแล้วมีแนวโน้มว่าญาติคงไม่อยากให้ชันสูตรพลิกศพซ้ำ เพราะ กมธ.มีอำนาจในการเรียกข้อมูลทั้งภาพถ่ายทั้งหมด ตั้งแต่กล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ผลการตรวจ สภาพแวดล้อมของเรือ และผลการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งที่ผ่านมาในคดีต่างๆ ที่ กมธ.ตรวจสอบหลายคดีไม่ได้ชันสูตรพลิกศพซ้ำ แต่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ก็สามารถดำเนินการได้ วันนี้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานต่างๆ มาก เชื่อว่า เราสามารถทำงานช่วยในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติให้ญาติและสังคมได้ข้อมูลที่เท็จจริงถูกต้อง ตรงไปตรงมา ข้อมูลที่มีเงื่อนงำความสงสัยต้องคลี่คลาย เพราะความเป็นจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เพื่อให้คุณแตงโมไปสู่สุขคติและญาติพี่น้องมีความสบายใจ รวมทั้งคนผิดได้รับโทษตรงตามที่กระทำผิด

“เราเชื่อมั่นในตัวพนักงานสอบสวนที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ ซึ่ง ผบ.ตร. เอง ท่านก็เป็นมือสืบ และเป็น ส.ว. ด้วย ท่านก็ตรงไปตรงมา ท่านไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผิดพลาดแน่ ซึ่งการทำงานคู่ขนานกันระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ ในการทำให้เรื่องนี้กระจ่างถือว่าเป็นหน้าที่ที่ญาติและทนายมาขอร้องให้กมธ.ทำ เราก็จะดำเนินการ” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่า กมธ.จะตรวจสอบประเด็นข้อสงสัยว่ามีการมอมยาบนเรือหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เรายังฟังไว้ก่อน ยังไม่ตัดประเด็นทิ้ง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บข้อมูลก่อน ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่มี กมธ.จะไม่ก้าวล่วง และเราจะทำงานต่อไปจนกว่าคดีจะคลี่คลายไปสู่ความถูกต้อง

ด้าน นายกฤษณะ กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนคุณแม่แตงโม และเป็นทนายความที่เข้ามาดูแลคดีนี้ ขอขอบคุณประธานกมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ที่รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งความหวังของเราถึงมันจะมีน้อย แต่ความยุติธรรมต้องมีในสังคม และตนในฐานะทนายความมีหน้าที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของลูกความ ค้นหาความจริง สิ่งไหนที่ยังไม่กระจ่างตนต้องหาและค้นให้เจอ รวมถึงต้องหาผู้ที่เราไว้วางใจ และประชาชนให้ความวางใจ ที่นี้เป็นที่แรกที่ตนมาขอความเมตตาแทนคุณแม่แตงโม สืบหน้าข้อเท็จจริงในครั้งนี้พร้อมกับญาติๆ

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีทนายความหลายคนออกมามีส่วนร่วมต่างๆมากมายนั้น จะเป็นประโยชน์หรือข้อเสียกับคดี นายกฤษณะ กล่าวว่า เรื่องของคดีความในรูปแบบคดีอาญา เราต้องดำเนินการตามที่คุณแม่แต่งตั้ง ขณะที่ในส่วนของคดีแพ่งก็จะต้องดำเนินการต่อไป ขณะที่ทนายความคนอื่นที่เข้ามา ตนเปิดกว้าง ไม่ได้มีอคติต่อกัน เพราะมีวิชาชีพเดียวกัน หากอยากเข้ามาร่วมหาหลักฐานเพื่อประโยชน์ของน้องแตงโมนั้นตนไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณแม่มีความประสงค์ว่าจะให้ตนเป็นผู้ดำเนินการเพียงผู้เดียว ตนก็เคารพสิทธิ์ของคุณแม่ แต่ทนายความคนอื่นๆสามารถเข้ามาในลักษณะเป็นที่ปรึกษาก็ได้ เพื่อหาข้อมูลช่วยกัน เราอย่าไปตำหนิกันเลยในเวลานี้ ควรหาความชัดเจนให้น้องแตงโม เพราะน้องอาจจะรอพวกเราอยู่ในเรื่องข้อเท็จจริง เร็วๆ นี้ เราคงจะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายๆ หน่วย รวมถึงมีหาคนสอบถามถึงความปลอดภัยของพวกตนด้วย พวกตนมั่นใจในการกระทำของตนเองว่าเราทำถูกต้อง ในส่วนของทนายที่ให้คำแนะนำต้องน้อมรับและให้ความเคารพทุกคน พร้อมให้ความร่วมมือประสานงานหาหลักฐานทั่วไป ส่วนจดหมายของคุณแม่ที่ออกมาก็เป็นความประสงค์ของคุณแม่ ตนไม่ขอไปก้าวล่วงหรือไปขัด แต่ได้อธิบายให้คุณแม่ฟังและเข้าใจแล้ว

เมื่อถามว่า คุณแม่มีความประสงค์ชันสูตรศพน้องแตงโม รอบสองหรือไม่ นายกฤษณะ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับคุณแม่ ทราบว่าตอนนี้ใกล้ถึงวันงานพิธีแล้ว ซึ่งได้มีโอกาสปรึกษา พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา แล้วว่า ทางคุณแม่และทางญาติไม่ให้ผ่าพิสูจน์อีก ทางเรามีวิธีใช้รูปถ่าย ซึ่ง กมธ.จะเรียกข้อมูลต่างๆ มา โดย พญ.คุณหญิง พรทิพย์ และทีมงานมีความเชี่ยวชาญที่จะเข้ามาช่วยดู แต่ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ คงลงไปช่วยผ่าพิสูจน์ไม่ได้ ซึ่งจากนี้ทาง กมธ.คงมีการเรียกตรวจสอบหลักฐานและรูปภาพต่างๆ อีกครั้ง เรื่องการผ่าพิสูจน์ศพต้องเคารพการตัดสินใจของคุณแม่อีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของตนในทางที่คุยมาทางคุณแม่อยากจัดพิธีให้แล้วเสร็จ และยังขอไม่ออกความเห็นเรื่องการผ่าพิสูจน์รอบสอง อยากให้ใช้ภาพถ่ายไปก่อนในตอนนี้

เมื่อถามว่า ล่าสุด คุณและกับนายดายศ เดชจบ พี่ชายของแตงโมได้พูดคุยกันหรือยัง นายกฤษณะ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้คุณแม่ได้เล่าให้ตนฟังว่าได้เคลียร์กันแล้ว และเมื่อเช้าที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายดายศแล้ว ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมตนมา พร้อมทั้งได้พูดคุยกับ นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ หรือ ไทด์ ดาราดังอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ก็ได้ให้คำแนะนำหลายทาง ทั้งนี้ ในส่วนของนายดายศได้แจ้งกับตนว่าให้ช่วยคุณแม่เต็มที่ได้เลย ส่วนนายอายศขอถอยออกมานิดนึง และจะช่วยดูเหมือนเดิม โดยพี่น้องกันทำเพื่อน้องแตงโม ซึ่งตนก็ได้ประสานกาวใจกันแล้ว จึงขอให้เป็นเรื่องของครอบครัว

เมื่อถามว่า จดหมายที่คุณแม่เขียนออกมานั้น ต้องการสื่อถึง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ใช่หรือไม่ นายกฤษณะ กล่าวว่า ไม่เลยครับ ตนได้อธิบายให้คุณแม่ฟังด้วยความเป็นกลางมากที่สุด แต่คุณแม่ยืนยันจุดประสงค์ว่าต้องการให้ตนเป็นผู้ดำเนินการคนเดียวเท่านั้น ส่วนเหตุผลอะไรลึกๆ ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่ในส่วนเรื่องที่จะเป็นการโพสต์ให้ทนายษิทราได้ทราบหรือไม่นั้น ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะคุณแม่มีจุดประสงค์เพื่อต้องการส่งให้นักข่าว โดยส่งมาทางตน และตนส่งให้นักข่าวต่อตามจุดประสงค์คุณแม่ ซึ่งไม่มีจุดประสงค์อะไรกับทนายษิทรา ส่วนตัวตนยังศรัทธา และเคารพทนายษิทรา

เมื่อถามว่า แสดงว่า วันนี้ทางนายดายศ ก็ไม่มีทนายความ และทนายษิทรา ไม่ใช่ทนายความในคดีนี้ใช่หรือไม่ นายกฤษณะ กล่าวว่า อย่าบอกว่าไม่มีเลยดีกว่า ให้บอกว่าเป็นที่ปรึกษาดีกว่า เพราะเรายังคุยกันและให้คำแนะนำเชิงกฎหมาย แต่ถามว่าจะให้เข้ามายุ่งเกี่ยวหรือไม่ เมื่อเช้าตนได้พูดคุยกับนายดายศแล้ว และบอกว่า ให้เป็นหน้าที่ตนไปเลย ส่วนทนายษิทราและนายดายศนั้นขอถอยออกมา ส่วนทนายษิทราจะเข้ามาตนก็ยินดี หากจะเข้ามาหาข้อมูลเพิ่มเติมเหมือนที่บอกก็เป็นสิทธิ์ของเขาเต็มร้อยอยู่แล้ว ตนไปห้ามไม่ได้ ในฐานะทนายความสถาบันเดียวกันก็อยากจะร่วมงานกันด้วย

เมื่อถามว่า สรุปแล้วนายดายศสามารถเป็นผู้จัดการมรดกได้หรือไม่ นายกฤษณะ กล่าวว่า ผู้เสียหายทางนิตินัยหรือผู้เสียหายโดยตรงที่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีได้ในเชิงคดีอาญา คุณแม่มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงคดีแพ่งด้วย สำหรับเรื่องมรดก นายดายศ สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ ส่วนเรื่องคดีความเป็นหน้าที่ของตนตรวจสอบเอกสารและผลสรุปทางคดี เพื่อส่งต่อให้พนักงานอัยการ ก่อนตรวจสำนวน หากเห็นว่ายังไม่สามารถสั่งฟ้องได้ก็จะตีเรื่องกลับมาที่พนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนส่งให้อัยการอีกครั้งก่อนส่งศาลเพื่อสั่งฟ้องต่อไปโดยตั้งหลักเป็นโจทก์ร่วม และทำคำร้องเรียกค่าเสียหายในคดีนี้เข้าไปด้วย แต่เรายังไม่ทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาจะต่อสู้คดีหรือไม่ เพราะตอนนี้ยังปฏิเสธอยู่ ซึ่งเราก็ต้องให้เกียรติเขาด้วย เพราะยังเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา แต่ในส่วนการเรียกร้องค่าเสียหายที่เป็นประเด็นตอนนี้ ขอเก็บเป็นรูปคดีของตนที่จะใช้ในชั้นศาล

ขณะที่ นางภานุชฎา กล่าวว่า ช่วงนี้คุณแม่ไม่ค่อยสบาย ทำให้ต้องพักผ่อน เพราะในวันที่ 11 มี.ค. จะต้องจัดงานพิธีไว้อาลัยให้น้องแตงโมแล้ว จึงให้คุณแม่พักผ่อนเยอะๆ และจะได้มีแรง วันนี้ต้องขอขอบคุณ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ที่รับเรื่องของน้องไว้แล้วอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ เราต้องสืบหาความจริงให้ค้นพบ เพื่อให้น้องไปสู่สุคติ ไม่ว่าสาเหตุจะเกิดจากอะไร ครั้งนี้ก็จะเป็นความหวังครั้งใหม่ที่ครอบครัวเฝ้ารออยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น