ศบค.เคาะติดโควิดอาการเล็กน้อยให้สอบ เสี่ยงต่ำเรียน On Site ได้ เร่งฉีดเด็ก ขอผู้สูงอายุฉีดกันตาย

โฆษก ศบค. เผย เห็นชอบติดโควิดอาการเล็กน้อยเข้าสอบได้ นร.ครูเสี่ยงต่ำเรียน On Site ได้ตามปกติไม่ต้องปิดร.ร. ศบค.เร่งฉีดวัคซีนเด็กใกล้ปิดเทอม เตรียมก่อนเปิดเทอมถัดไป ขอเร่งฉีดเข็มกระตุ้นผู้สูงอายุ ป้องกันการเสียชีวิต

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า สำหรับมาตรการเปิดเรียนแบบ On Site ในสถานศึกษา ซึ่งมีการรายงานว่าข้อมูลเด็กติดเชื้อไม่เยอะเพียง 21% และ 22% เท่านั้น และมีการเตรียมมาตรการสำหรับการเปิดภาคเรียนและการป้องกันในสถานศึกษา รวมถึงแผนเผชิญเหตุ ซึ่งผลการเปิดภาคเรียนที่ 2 โดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งว่า พบว่า จากตัวอย่าง 122 โรงเรียน ในโรงเรียนที่มีการติดเชื้อยืนยัน 1 รายขึ้นไป พบว่า มีโรงเรียนที่ปิดสถานศึกษา 28.7% ส่วนหากมีการติดเชื้อยืนยันมากกว่า 1 ห้องเรียน พบว่า โรงเรียนปิดสถานศึกษา 55.7% แต่ที่น่าสนใจโรงเรียนที่ไม่ได้ติด แต่สถานศึกษาใกล้เคียงกันมีการติดเชื้อ ปรากฏว่า 9% ปิดไปด้วย ทั้งนี้ สถานการณ์กับสิ่งที่เผชิญเหตุไม่สอดคล้องกัน จึงเป็นสิ่งที่เป็นภาพสะท้อนที่อาจจะได้รับแรงกดดันจากผู้ปกครอง หรือครูที่ทำให้มาตรการที่อยากจะให้เปิดเรียนตามมาตรการดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามแผนเผชิญเหตุของสถานศึกษา

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบมาตรการการเปิดเรียน On Site สำหรับโรงเรียนประจำและโรงเรียนไป-กลับ ประกอบด้วย นักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเรียน On Site ได้ตามปกติ จะพยายามให้ปิดโรงเรียน แต่ให้สังเกตอาการ กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้จัดพื้นที่การเรียนการสอน ปฏิบัติงานทำกิจกรรมใน Quarantion Zone และแยกกับตัวเป็นเวลา 7 วัน และให้สังเกตอาการอีก 3 วัน ส่วนกรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่สอบ ไม่จำเป็นที่จะต้องงดการสอบให้สามารถไปสอบได้ หากไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้เข้าสอบได้ แต่ให้จัดสถานที่สอบในลักษณะที่โล่งและอากาศถ่ายเท โดยจัดที่นั่งสอบระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร และให้เดินทางไปสนามสอบโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือประสานหน่วยสถานที่สอบกรณีไม่มีรถยนต์ส่วนตัว.

โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังแถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า สำหรับแผนบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 นักเรียนที่เรียนออนไซด์ในโรงเรียน แต่ขณะนี้ใกล้จะปิดเทอมแล้วก็ต้องเร่งฉีดวัคซีนนักเรียนที่เหลือ เพื่อเตรียมการเปิดเทอมในช่วงถัดไป ส่วนสูตรฝาม่วง ฝาส้ม สูตรเชื้อตายซิโนแวค-ไฟเซอร์, ซิโนแวค-ซิโนแวค-ไฟเซอร์ ก็สามารถใช้ได้ โดยผู้ปกครองแต่ละคนก็ต้องการวัคซีนให้บุตรหลานต่างกัน สรุปซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข ก็จะนำเสนอทางเลือกให้กับประชาชนอีกครั้ง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ทางกรมควบคุมโรคไปดึงชุดข้อมูลของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ ช่วงวันที่ 1 ม.ค.- 18 ก.พ. 65 พบว่าอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 666 คน หรือ 82% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด พบว่า ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน 387 คน หรือ 58.2%, มีประวัติรับวัคซีนหนึ่งเข็ม 66 คน คิดเป็น 9.9%, รับวัคซีนสองเข็ม 197 คน คิดเป็น 29.5%, รับวัคซีนสามเข็มขึ้นไป 16 คนคิดเป็น 2.4% ทั้งนี้ ควรได้รับการฉีดวัคซีนทั้งเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มกระตุ้น ในผู้สูงอายุที่ครบระยะเวลาฉีดภายในเดือน มี.ค.นี้