xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯสั่งพุ่งเป้าแก้โควิด ให้ จว.ทำแผนเผชิญเหตุ ขอเข้าใจรักษาตามอาการ สัปดาห์หน้าสรุปเปิดเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาฯ สมช.เผย นายกฯสั่งแก้โควิดพุ่งเป้า ให้ คกก.โรคติดต่อ จว.ใช้กลไกท้องถิ่น ทำแผนเผชิญเหตุ เตรียมโฮม-คอมมูนิติ้ไอโซเลชั่น รพ.สนาม ยัน สธ.รับมือได้ ขอเข้าใจรักษาตามอาการ สัปดาห์หน้าสรุปแผนรับเปิดภาคเรียน เสนอ อยากเห็นเปิดมากที่สุด

วันนี้ (20 ก.พ.) พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. ยืนยันว่า การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในขณะนี้ ยังไม่มีการปิดโรงพยาบาลสนาม ขณะเดียวกัน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องใช้กลไกการปกครอง ระดับอำเภอ หมู่บ้าน มาช่วยรณรงค์บริหารจัดการผู้ติดเชื้ออย่างเหมาะสมตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ออกมาตรการไปในช่วงนี้ คือ ต้องคัดกรองผู้ติดเชื้ออย่างชัดเจน พร้อมสื่อสารไปยังผู้ติดเชื้อให้มีความชัดเจน เข้าใจถึงอาการ ว่า หากไม่มีอาการถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต้องใช้ระบบโฮมไอโซเลชั่น และระบบคอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น ตามระดับที่เหมาะสม เพราะไม่เช่นนั้นโรงพยาบาลจะรับมือไม่ไหว อย่างไรก็ตาม กับการระบาดในช่วงนี้ ศปก.ศบค.ได้มีการรื้อฟื้นแผนการจัดการเกี่ยวกับโรงพยาบาลสนามที่เคยทำไว้ เพื่อมาเตรียมความพร้อมรองรับไว้ด้วยในทุกพื้นที่ ซึ่งได้มีการสั่งการให้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศแล้ว เพราะผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในจังหวัด และมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการแพร่กระจายเร็วของเชื้อโอไมครอน ที่กระจายได้ง่าย และมาจากมาตรการผ่อนคลายที่เปิดให้ทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขประเมินแล้วว่าย่อมมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญ มาตรการที่คนต้องตระหนักป้องกันตนเอง โดยสังคมมีมาตรการดูแลตนเอง ผู้ประกอบการต้องมีความเสียสละเปิดกิจการอย่างมีมาตรการรัดกุม หากทุกคนให้ความร่วมมือ สถานการณ์ก็จะดีขึ้น แต่เมื่อไม่ป้องกัน ตัวเลขก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ติดตามและประชุมอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำมาตลอดในการแก้ไขปัญหาแบบพุ่งเป้า จึงได้มีการหารือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ว่า จะต้องการใช้กลไกระดับปกครองลงไปช่วยกันให้มากที่สุด พร้อมมีมาตรการย่อยไปกำกับดูแล เพื่อไม่ให้เสียระบบเศรษฐกิจ อาทิ การจัดกิจกรรมของชุมชนต้องมีการคัดกรอง

เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ระบบสาธารณสุขไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ขอประชาชนปฏิบัติตัวอย่างระมัดระวังป้องกันตนเองอย่างดี ในส่วนของภาครัฐ นายกฯเน้นย้ำสร้างมาตรการระบบสาธารณสุขรองรับให้ได้ โดยทุกจังหวัดไปคิดแผนเผชิญเหตุไปเตรียมความพร้อมรองรับต่างๆ ทั้งโฮมไอโซเลชั่น คอมมูนิติ้ ไอโซเลชั่น โรงพยาบาลสนามอย่างพร้อมเพรียง

ในส่วนของการเปิดภาคเรียน เลขาฯ สมช. ย้ำว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการพยายามให้มีการเปิดภาคเรียนให้มากที่สุดโดย ให้เตรียมมาตรการต่างๆ ไว้ โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเพื่อสรุปมาตรการในการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบการศึกษาในโรงเรียน หลังกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ได้สรุปมาตรการออกมาแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) ตนเองจะดูในรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้ง แล้วจะเสนอเข้าที่ประชุม ศบค. สรุปมาตรการออกมา ซึ่งมาตรการนั้นจะให้โรงเรียนเปิดภาคเรียนได้ มีการแบ่งโซนพื้นที่ เพราะเด็กต้องเรียนได้ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ดีอย่างเหมาะสม รวมถึงเร่งฉีดวัคซีน ยืนยันแม้มีกระแสต่อต้านจากโซเซียล แต่วัคซีนลดความรุนแรงจากการติดเชื้อได้

เลขาฯ สมช. ยังกล่าวว่า การเปิดด่านชายแดนในพื้นที่ภาคใต้ ในเดือนมีนาคมนี้ ยังคงเดินหน้าต่อไป แต่ต้องมีมาตรการที่สอดคล้องกับการป้องกันโรคให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะตัวเลขที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไม่มาก จนส่งผลกระทบต่อการติดเชื้อ แต่ปัจจุบันกลายเป็นการติดเชื้อภายในประเทศมากกว่า

พร้อมกันนี้ เลขาฯ สมช.ยืนยันว่า การยกเลิกสิทธิรักษาฟรีโรคโควิด-19 หรือ ยูเซ็ป ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ จะไม่กระทบต่อผู้ป่วยในประเทศ ขณะเดียวกัน ต้องมีการรณรงค์สร้างความเข้าใจในการรักษาตามอาการที่เหมาะสม ไม่ใช่ติดเชื้อแล้ว ต้องเข้าโรงพยาบาลทันที เพราะอาจส่งผลต่อระบบสาธารณสุขได้ ดังนั้น ต้องปรับในเรื่องนี้ พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตระหนก โดยขอให้มั่นใจในการรักษาแบบโฮมไอซูเลชั่น กับคอมมูลนิตี้ โฮมไอซูเลชั่น ซึ่งขณะนี้ทุกพื้นที่รับนโยบายไปดำเนินการแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น