ศบค.พบโรงเรียนไม่มีติดโควิด แต่ปิดตามโรงเรียนข้างเคียงถึง 9% หวั่นกระทบการเรียนการสอนออนไซต์ เห็นชอบมาตรการเปิดเรียนออนไซต์อยู่ร่วมโควิดปลอดภัย สัมผัสเสี่ยงต่ำมาเรียนได้ เสี่ยงสูงให้เรียนโซนกักตัวสำหรับโรงเรียนประจำ ส่วนไปกลับให้แยกกักที่บ้าน กรณีสอบติดเชื้อไม่มีอาการ อาการเล็กน้อย หรือสัมผัสเสี่ยงสูงมาสอบได้ ใส่หน้ากากตลอดเวลา จัดสถานที่เฉพาะแบบเปิดโล่ง เว้นห่างเกิน 2 เมตร
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า เรื่องที่ 3 การเรียนออนไซต์อยู่ได้กับโควิดในสถานศึกษา ทั้งนี้ การติดเชื้อในเด็กนักเรียนอายุ 0-19 ปี พบประมาณ 21.9% อัตราเสียชีวิตต่ำ ที่ผ่านมามีการทำมาตรการเปิดภาคเรียนออนไซต์ แบบแซนด์บ็อกซ์ ภายใต้ 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้ม มีการทำแผนเผชิญเหตุ รวมถึงการเรียนแบบออนไลน์ หรือไฮบริด อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แจ้งผลสำรวจการเปิดภาคเรียนที่ 2 ของจำนวน 122 โรงเรียน พบว่า โรงเรียนที่มีการติดเชื้อยืนยัน 1 รายขึ้นไป มีการปิดสถานศึกษาถึง 28.7% เรียกว่าปิดไปเลย 1 ใน 4 โรงเรียนที่ติดเชื้อมากกว่า 1 ห้องเรียนปิดถึง 55.7% แต่ที่น่าสนใจคือ โรงเรียนที่ไม่มีการติดเชื้อ แต่สถานศึกษาใกล้เคียงติดเชื้อ กลับปิดโรงเรียนด้วยถึง 9%
“นี่คือ สิ่งที่สถานการณ์กับสิ่งที่เผชิญเหตุไม่สอดคล้องกัน เป็นภาพสะท้อน อาจเป็นแรงกดดันผู้ปกครอง ครู นักเรียน ทำให้มาตรการเปิดออนไซต์ไม่เป็นอย่างที่ว่า จึงมีการเสนอการเปิดเรียนออนไซต์ สำหรับโรงเรียนประจำ โดยผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ยังเรียนออนไซต์ตามปกติได้ ให้สังเกตอาการและเมินตนเอง นักเรียน ครู บุคลากรสัมผัสเสี่ยงสูง ให้จัดการเรียนการสอนในควอรันทีน โซน 7 วัน และติดตามอาการอีก 3 วัน ตรวจคัดกรองหาเชื้อ ในวันที่ 5-6 และครั้งสุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ แต่หากมีอาการให้ตรวจทันที ส่วนผู้ที่ติดเชื้อให้พิจารณาจัดทำ School Isolation จัดการสอนอย่างเหมาะสม” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนโรงเรียนไป-กลับ สัมผัสเสี่ยงต่ำยังมาเรียนตามปกติเช่นกัน สัมผัสเสี่ยงสูง แยกกักตัวที่บ้าน 7 วัน สังเกตอาการ 3 วัน ตรวจหาเชื้อตามระยะเวลาเช่นกัน ส่วนกรณีการจัดสอบ หากผู้เข้าสอบติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย หรือสัมผัสเสี่ยงสูง ให้เข้าสอบได้ แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือก่อนและหลังเข้าสอบ งดพูดคุย เว้นระยะห่าง เดินทางไปสนามสอบด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือประสานหน่วยงานจัดสิบ หน้วยบริการสาธารณสุข กรณีไม่มีรถส่วนตัว ผู้คุมสอบปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเข้มข้น โดยสถานที่จัดสอบสำหรับผู้สัมผัสเสีย่งสูงหรือผู้ติดเชื้อที่เป็นสัดส่วน อยู่ในลักษณะที่โล่ง โปร่งอากาศถ่ายเท เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร