“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบ หารือ ออท.สปป.ลาว มุ่งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกมิติ เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
วันนี้ (22 ก.พ.) เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายแสง สุขะทิวง (H.E. Mr. Seng Soukhathivong) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย ที่ได้มีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์สองประเทศ ตลอดการดำรงตำแหน่ง ชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย กับ สปป.ลาว ซึ่งมีความสนิทสนมเสมือนเป็นญาติพี่น้อง ทั้งนี้ สปป.ลาว เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของไทย ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความผูกพัน ทั้งจากภาษาและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรี พันคำ วิพาวัน มีแผนที่จะเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีนี้ โดยเห็นว่า จะเป็นโอกาสในการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-สปป.ลาว สู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างเป็นทางการ
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งประจำประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีครึ่ง พร้อมทั้งขอบคุณนายกรัฐมนตรี รัฐบาลไทย รวมถึงประชาชนชาวไทย ที่ได้ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีเสมอมา เอกอัครราชทูต สปป.ลาว ภูมิใจที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย กับ สปป.ลาว มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ประชาชนทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ เอกอัครราชทูต สปป.ลาว ได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนสปป.ลาว จากเหตุอุทกภัย เมื่อปี 2562 ตลอดจนให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษาโรคโควิด-19 แก่ สปป.ลาว ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือที่สำคัญร่วมกัน ดังนี้
- ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้หาแนวทางความร่วมมือเปิดจุดผ่านแดนระหว่างกันอย่างปลอดภัย โดยทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะสามารถกลับมาเปิดจุดผ่านแดนได้โดยเร็ว ซึ่งเชื่อมั่นว่า จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศจากผลกระทบของโควิด-19 ตลอดจนประชาชนที่อาศัยตามแนวชายแดนจะได้กลับมาดำเนินวิถีชีวิตตามปกติ
- ด้านแรงงาน ฝ่าย สปป.ลาว พร้อมที่จะส่งแรงงานลาวมาทำงานที่ไทยอย่างถูกกฎหมายอีกครั้ง ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยดูแลและอำนวยความสะดวกเรื่องการต่ออายุการทำงานในไทย โดยไม่ต้องเดินทางกลับ สปป.ลาว เพื่อลดค่าใช้จ่ายและการเคลื่อนย้ายแรงงาน พร้อมขอให้มั่นใจว่า ไทยได้ให้การดูแลแรงงานลาวในไทยอย่างเต็มที่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งการเข้าถึงการตรวจ การรักษา และการได้รับวัคซีน
- ความเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสำเร็จของโครงการรถไฟ ลาว-จีน และหวังว่า จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบรางของไทยได้โดยเร็ว ตลอดจนขอให้ฝ่าย สปป.ลาว พิจารณาเรื่องพิธีศุลกากรที่รวดเร็ว ไม่ซ้ำซ้อน และเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ อย่างเป็นธรรมที่ท่าบกท่านาแล้งของ Vientiane Logistics Park (VLP) ซึ่งจะช่วยจูงใจให้ผู้ประกอบการไทยใช้บริการการขนส่งสินค้าผ่านรถไฟ ลาว-จีน มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่าย สปป.ลาว เร่งพิจารณาเรื่องการพัฒนาเส้นทางหมายเลข 12 (R12) ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของ สปป.ลาว ตลอดเส้นทางด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียินดีร่วมมือกับ สปป.ลาว ในทุกด้านที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่สอดคล้องกับวาระที่ไทยผลักดันในโอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ APEC โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง