xs
xsm
sm
md
lg

ศึกบ้านใหญ่ชลบุรี vs เสี่ยเฮ้ง คลื่นลมสงบ จบที่ลุงตู่?! **ดรามานอกสนาม ศึกแดงเดือด ขอเงินหลวงสปอนเซอร์ 400 ล้าน “เสี่ยวินิจ” ควันออกหู “กูไม่รู้เรื่อง”!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ศึกบ้านใหญ่ชลบุรี vs เสี่ยเฮ้ง คลื่นลมสงบ จบที่ลุงตู่?!

หลังจากเปิดศึกศักดิ์ศรี “ฆ่าได้หยามไม่ได้” สาดวิวาทะผ่านสื่อกันระหว่าง พี่ใหญ่ของบ้านใหญ่ชลบุรี “สนธยา คุณปลื้ม” กับ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กรณีการเตรียมการจัด ส.ส.ลงเลือกตั้ง ที่ต่างฝ่ายต่างสังกัดพรรคพลังประชารัฐในปัจจุบัน

“สนธยา” นั้นถึงกับควันออกหู เมื่อรู้ว่ากลุ่มบ้านใหญ่กำลังจะถูกท้าทายมองไม่เห็นหัวจากอีกฝ่าย ที่อยากจะ “สร้างอาณาจักร” จนยกตัวอย่างเปรียบเปรบกับ “หมาก้าวร้าว” ที่มีพฤติกรรม หักหลัง และทรยศ ไม่อาจจะนิ่งเฉย

ขณะที่ “เสี่ยเฮ้ง” เล่านิทาน “ขุนศึกคู่กายกับแม่ทัพอัลไซเมอร์” เปรียบเปรยเรื่องราวของแม่ทัพ สั่งให้ไปรบ เมื่อชนะ 3 หัวเมืองสิ่งที่รับปากไว้ลืมหมด ไม่เหลียวแล ลั่นปลูกข้าวกินเอง และว่าเจ้าของหมาเอาไปทิ้งวัด มีคนเก็บไปเลี้ยงดู แลเห็นคุณค่า จะยังเป็นหมาของคนๆ นี้ อยู่หรือ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ว่ากันว่า ศึกครั้งนี้ได้ก่อมรสุมคลื่นลมแรงซัดสาดเข้าสู่ฝั่งชลบุรี ไปจนถึงพรรคพลังประชารัฐที่เดิมก็เรื่องเยอะอยู่แล้วให้แตกร้าวมากขึ้น

ฟังว่า เรื่องนี้ไปถึง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดย “ลุงตู่” ไล่ให้ไปคุยกันเอง เพราะเห็นเป็นเรื่องชองพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อวานนี้ เจอหน้าสื่อ “ลุงตู่” ก็ยังย้ำคำเดิม ผมไปจัดการอะไรเขา ให้ไปพูดคุยกัน ผมจะไปจัดการอะไรได้ ผมสั่งใครเขาได้เล่า เป็นเรื่องของความรักความสามัคคี ก็อยู่พรรคเดียวกันก็ไปคุยกันเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเกิดที่ไหน ผมก็บอกให้ทุกคนไปคุยกัน ผมจะไปสั่งการอะไรใครเขาได้ เป็นเรื่องภายในของเขา อย่าขยายความกันเยอะนักเลย เขาก็ไปคุยกันเองอยู่แล้วมั้ง

ล่าสุด “สุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะอดีต ส.ส.ชลบุรี หลายสมัย บอกมาว่า ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ชลบุรี ระหว่าง “สนธยา คุณปลื้ม” กับ “สุชาติ ชมกลิ่น” น่าจะจบแล้ว เงียบแล้ว

 สุชาติ ชมกลิ่น
ถามว่าใครเคลียร์ปัญหาให้ แกนนำ พปชร.บอกว่า ทุกคนน่าจะพอ คุยกันแล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบ “พล.อ.ประยุทธ์” อาจจะลงมายุติปัญหา นายกฯบอกว่า เดี๋ยวว่างคงจะมีโอกาสได้คุยสร้างความเข้าใจกัน ซึ่งลุงตู่ว่าไม่เป็นไร ผู้ชายทะเลาะกัน ก็โอเค

อดีต ส.ส.ชลบุรี ยังบอกอีกว่า วันก่อนประชุมและได้คุยกับ “สนธยา” เขาก็บอกว่าหยุดและได้เจอ “รัฐมนตรีเฮ้ง” ก็ว่า ไม่มีอะไร และเข้าใจนะ คนมันเคยอยู่ด้วยกัน บางทีอาจจะไม่ได้เกิดจากความรู้สึกตัวเอง บางทีคนรอบข้าง หรือที่คนเอาไปนำเสนอข่าวบางทีอาจจะแรงไปบ้าง เรื่องนี้น่าจะยุติกันได้ ผู้ชายด้วยกันไม่มีปัญหา

สรุปว่า งานนี้ แม้ว่า “ลุงตู่” จะปฏิเสธออกสื่อ ไม่ใช่กาวใจจะไปสั่งใครให้เคลียร์กันได้ เป็นเรื่องที่ผู้ชายเขาคุยกัน แต่คนในพรรค พปชร. ก็เชื่อสนิทใจว่า คลื่นลมมรสุมชลบุรีครั้งนี้สงบจบลงได้เพราะ “ลุงตู่”

คำถามเกิดขึ้นว่า เอ..แล้วงี้ พี่ใหญ่ 3 ป. “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคตัวจริง อยู่ที่ไหนจ๊ะ?



สนธยา คุณปลื้ม
**ดรามานอกสนาม ศึกแดงเดือด ขอเงินหลวงสปอนเซอร์ 400 ล้าน “เสี่ยวินิจ” ควันออกหู “กูไม่รู้เรื่อง”!

คอนเฟิร์มแน่นอนแล้ว “ศึกแดงเดือด” การฟาดแข้งระหว่าง 2 สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ “ลิเวอร์พูล-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” จะมีขึ้นเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ โดยการจัดของ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ที่มีเสี่ย “วินิจ เลิศรัตนชัย” เป็นบิ๊กบอส ทำให้ทั้ง “แฟนผี-แฟนหงส์” ต่างเริ่มหยอดกระปุกเก็บเงินไว้ซื้อตั๋วกันตั้งแต่ตอนนี้แล้ว เพราะราคา 5,000-25,000 บาท ก็แพงใช่เล่น ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

แต่จู่ๆ ก็เกิดดรามาขึ้นมาจนได้ เมื่อมีสื่อบางสำนักรายงานข่าวอ้างคำพูดของ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ทางบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ได้ทำหนังสือมายังการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อขอรับการสนับสนุนการจัดการแข่งขัน เป็นเงินราว 400 ล้านบาท จึงได้มอบหมายให้ “ก้องศักดิ์ ยอดมณี” ผู้ว่าการ กกท.ทำการศึกษาดูความเป็นไปได้ และวิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจให้ชัดเจนก่อน ว่า หากจัดแล้วสิ่งที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งหากมีการขอรับการสนับสนุนมา คงต้องเอาเรื่องเข้า ครม.อาจไม่สามารถอธิบายเหตุผลต่อ ครม.ได้ และยิ่งในสภาวะโควิด ซึ่งประเทศจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง

และแน่นอน เมื่อข่าวการขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 400 ล้านบาท กระแสคัดค้านก็ดังขึ้นอื้ออึงทันที เงินจำนวนนี้ก็ไม่ใช่น้อย ควรนำมาแก้ปัญหาโควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องของชาวบ้าน ที่มีความเร่งด่วนกว่าก่อนหรือไม่ เรื่องภาพลักษณ์ของประเทศควรเอาไว้ทีหลัง

ศึกแดงเดือด
พอเป็นประเด็นดรามาขึ้นมา “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ก็ให้สัมภาษณ์สื่ออีกครั้ง เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ว่า กกท.เสนอเรื่องของบประมาณสนับสนุนศึกแดงเดือด 400 ล้านบาทจริง แต่หลังจากได้ทำการศึกษาดูความเป็นไปได้ และวิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงงบประมาณที่กระทรวงมีแล้ว ทำให้ต้องปฏิเสธการอนุมัติงบประมาณก้อนนี้ เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินไป เมื่อเทียบเทียบงบประมาณที่กระทรวงมีจำกัด พร้อมยืนยันว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ ทางกระทรวงสนับสนุนเฉพาะสถานที่จัดงาน คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน และค่าน้ำ ค่าไฟ รวมใช้งบประมาณราว 1 ล้านบาท

ก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่า รัฐบาล “ลุงตู่” ไม่ควักเงิน 400 ล้าน อุดหนุนศึกแดงเดือดครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่ายังมีดรามากันไม่ยอมจบ จนกระทั่ง “เสี่ยวินิจ” ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ระหว่างออกรายการผ่านช่องยูทูบ “NANAKE555” ของ “น้าเน็ก” เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ว่า “ยังไม่มีอะไรเลย อยู่ๆ ก็เต้าเรื่องขึ้นมาว่า ชงรัฐสนับสนุน 400 ล้านบาท แล้วแม่งเป็นข่าวเป็นนายวินิจ เลิศรัตนชัย ทำหนังสือถึง...กูยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย

“คือผมก็ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร หวังดีประสงค์ร้าย แล้วก็บอกว่าดรามากันใหญ่ คนยังไม่มีกิน รัฐบาลเอาเงินไปช่วยทำไปเพื่ออะไร เรื่องนี้รัฐไม่เกี่ยวเลย เฟรชแอร์ เป็นโปรโมเตอร์เอง เงินกู ตังค์กู ชีวิตกู กูก็ทำเองได้หรือไม่ว่ะ อะไรทุกอย่างมันต้องพึ่งรัฐเหรอ ก่อนจะออกข่าวถามกูสักนิด กูขอจริง คือ ขอความช่วยเหลือเรื่องสนาม แต่ไม่ได้มีเงิน 400 ล้านเลย งานนี้สำเร็จได้ด้วยสปอนเซอร์จริงๆ” เสี่ยวินิจ ยืนยันหนักแน่นว่าศึกแดงเดือดครั้งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเงินสปอนเซอร์ ไม่จำเป็นต้องขอเงินรัฐบาลมาช่วย

วินิจ เลิศรัตนชัย
กระนั้นก็ตาม การเอาทีมฟุตบอลชื่อเสียงระดับโลก มูลค่าการตลาดสูงๆ 2 ทีมมาแข่งกันในไทย ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีกำลังเงินที่มากเพียงพอ

แฟนเพจ “วิเคราะห์บอลจริงจัง” วิเคราะห์เอาไว้เมื่อวันก่อนว่า เมื่อครั้งที่ “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น” จัดศึกปรีซีซันระหว่าง แมนยูฯ กับ เชลซี ในปี 2013 นั้น ค่าใช้จ่ายในการจ้างสโมสรพรีเมียร์ลีกมาเตะในไทยอยู่ที่ราวๆ ทีมละ 100 ล้านบาท สองทีมรวมกันก็ต้องจ่าย 200 ล้าน ยังไม่นับค่าประชาสัมพันธ์ ค่ามีเดีย ค่าเช่าสนามราชมังฯ และดีเทลสารพัดอย่าง ตีกลมๆ สิงห์ควักเงินเพื่อแมตช์นี้ไปราวๆ 300 ล้านบาท

สำหรับการแข่งขัน “ลิเวอร์พูล vs แมนฯ ยูไนเต็ด” ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2022 มั่นใจได้เลยว่า ค่าจ้างสองทีมรวมกันแพงแน่ ผ่านมา 9 ปีแล้ว มูลค่าต่างๆ ก็เพิ่มสูงขึ้น ก็ประเมินกันว่า ค่าจ้างทีม ค่า PR ทุกสิ่งอย่างใดๆ ควรจะอยู่ในระดับ 500 ล้านขึ้นไป หรือถ้าจะเคลมว่าถึง 1,000 ล้าน ก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์นัก

“เฟรชแอร์ เฟสติวัล” ผู้จัดการแข่งขัน จะได้กำไรไหม กับเงินค่าตั๋วที่ตั้งราคา 5,000 บาท ถึง 25,000 บาท เมื่อประเมินจากขนาดความจุของสนามราชมังฯ และตั๋วขายหมด ก็จะได้เงินขายตั๋วราว 700 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ดูดีทีเดียว แต่จริงๆ อาจได้ไม่ถึง เพราะต้องมีบัตรสปอนเซอร์อีกหลายพันใบ

แต่เงินค่าตั๋ว 700 ล้านบาท บวกเงินสปอนเซอร์ ก็ได้ลุ้นว่าน่าจะคุ้มทุนอยู่ แต่เมื่อดูอีกปัจจัย คือ เมื่อถึงวันฟาดแข้ง โควิด-19 ยังจะอยู่หรือไม่ ถ้ายังระบาดไม่หยุด หรือระบาดหนักขึ้นมา จะจัดคนดูเต็มสนามไม่ได้ ก็คงจะเจ๊งลูกเดียว ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล !!




กำลังโหลดความคิดเห็น