ส.ส.พปชร. ดอดพบนายกฯ ช่วยหนุนร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อ ปชช.ผ่านเข้าสู่สภา เปิดทางยกร่าง พ.ร.บ.ของรัฐบาลเป็นแกนหลักในการออก กม. หวังการแก้ปัญหาเดินหน้า ลดมลพิษ ดูแลสุขภาพของ ปชช.
วันนี้ (18 ก.พ.) น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือในประเด็นที่พรรค พปชร. ได้นำเสนอร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อประชาชน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเซ็นรับรอง ก่อนบรรจุเป็นวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่นายกฯเข้าใจ และให้ความสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ แต่ด้วยกระบวนการทางกฎหมาย ต้องรอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบการตัดสินใจ อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ
นอกจากนี้ ยังได้เข้าพบ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้สนับสนุนร่าง พ.ร.บ ฉบับนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว ทาง รมว.กระทรวงทรัพย์ รับปากที่จะนำเรื่องไปหารือ ปลัดกระทรวง และอธิบดีต่อไป
“เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างรวดเร็ว ในฐานะที่เป็นผู้ยื่นร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อประชาชนในนามของพรรค พปชร. ได้นำเสนอต่อท่านนายกฯ ว่า หากรัฐบาลมีความประสงค์ในการร่าง พ.ร.บ. ในนามของรัฐบาล ก็พร้อมเปิดกว้างให้รัฐบาลสามารถยื่นเป็นร่างหลัก และนำร่างของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และร่างของภาคประชาชนมาร่วมประกอบการพิจารณาของสภา เพื่อทำให้เกิดการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเรื่องของฝุ่น PM 2.5 อย่างเป็นรูปธรรม”
อย่างไรก็ตาม การยื่นร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้ตีความว่าเข้าลักษณะเป็นร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงินตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 134(2 ) และร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภา ได้จัดการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่าง พ.ร.บ. ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และรอนายกรัฐมนตรีลงนามสนับสนุนในลำดับถัดไป
“พปชร.เป็นพรรคแรกที่เสนอร่าง พ.ร.บ. เข้าสู่สภา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 หลังจากที่ร่างของ ส.ส. และภาคประชาชนที่เสนอเข้ามาก่อนหน้านี้ถูกตีตกไป ด้วยการวินิจฉัยว่า เป็นร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงิน ซึ่งต้องได้รับคำรับรองจากนายกรัฐมนตรีก่อน ที่จะนำเสนอกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ซึ่ง ร่าง พ.ร.บ. ที่ พปชร. เสนอในครั้งนี้ ถือเป็นกฎหมายที่จะมาดูแลประชาชน และการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก P.M 2.5 ซึ่งถือเป็นภัยอันตรายต่อสุขภาพ และเป็นปัญหาต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน”
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ที่พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นไปทั้ง 3 ข้อ มีเป้าหมายเพื่อต้องการกระตุ้นให้เกิดการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง รวมทั้งกระตุ้นให้ประชาชนเห็นว่าอากาศสะอาดเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่สามารถเรียกร้องจากภาครัฐได้ รวมทั้งการให้อำนาจองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น (อปท.) ในการแก้ปัญหาได้เองโดยไม่ต้องรอส่วนกลาง เพราะปัญหาของฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาที่ต้องจัดการเร่งด่วน หากล่าช้าในการพิจารณา ประชาชนอาจจะได้รับผลกระทบในวงกว้างมากขึ้น น.ส.ภาดาท์ กล่าว