ประชุมสภามีมติส่ง ครม.ดูร่าง กม.สมรสเท่าเทียม 60 วัน หลัง ส.ส. LGBT ก้าวไกล หลั่งน้ำตาดันสิทธิ สร้างรักไร้เงื่อนไข ลั่นหากไม่แก้แปลว่ารัฐไทยไม่ให้ค่าความรักของกลุ่มหลากหลายทางเพศ
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาวาระร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. … ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเท่าเทียม และความหลากหลายทางเพศ มี นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล เป็นผู้เสนอ โดย นายธัญวัจน์ อภิปรายตอนหนึ่งว่า ในปี 2565 มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก เราอาจจะนึกไม่ออกว่าบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ มีปัญหาอะไรบ้างในขณะที่พวกเขาจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้ และคิดว่า พวกเราแอลจีบีทีมีสิทธิเท่าเทียมแล้ว เราจะไม่นึกถึงกฎหมายเมื่อวิกฤตชีวิตยังไม่มาถึง
โดยระหว่างที่ นายธัญวัจน์ กำลังอภิปรายอยู่ได้สะอื้นไห้พร้อมเช็ดน้ำตา ทำให้นายชวนกล่าวขึ้นว่า “ขอให้กำลังใจ อย่าร้องไห้นะครับ”
จากนั้น นายธัญวัจน์ อภิปรายต่อว่า บางช่วงเวลาเป็นเวลาชี้เป็นชี้ตาย ถ้าเราไม่แก้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้แปลว่ารัฐไทยไม่ได้ให้คุณค่าความรักของกลุ่มผู้มีความรักหลายทางเพศ จากข้อมูลแอลจีบีทีในประเทศเรามีจำนวน 4,000,000 คน และเป็นการคาดคะเนที่เราอาจมีถึง 7,000,000 คน ในประเทศไทย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ประชาชนรอคอยเป็นจำนวนมาก ที่ถูกพรากสิทธิขั้นพื้นฐานไป
“วันนี้ถึงเวลาที่การเมืองต้องก้าวหน้าก้าวไกล เรายังมีกฎหมายในระบบสองเพศที่ไม่เอื้อต่อการดำเนินชีวิตในประเด็นความหลากหลายทางเพศ ในเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ เรื่องรสนิยมทางเพศ ที่ยังถูกเลือกปฏิบัติ สิ่งเหล่านี้คือสิทธิขั้นพื้นฐานของคนทุกคนในโลกใบนี้ที่เราจะดำเนินชีวิตตามที่เราต้องการ การสร้างครอบครัวของชายและหญิงทั่วไป คือ การสืบสายโลหิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุตรหรือมรดก แต่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ สร้างครอบครัวด้วยสายสัมพันธ์ และนี่คือรักที่ไม่มีเงื่อนไข คิดว่ากฎหมายฉบับนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของการให้อย่างไม่มีเงื่อนไข ดังนั้น เราทุกคน ส.ส.จะใช้อำนาจที่เรามีอยู่ในมือกดโหวตให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านเข้าสู่วาระที่ 1 ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาต่อไป” นายธัญวัจน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สมาชิกส่วนใหญ่จากพรรคก้าวไกลแสดงความเห็นด้วยกับสาระของร่างกฎหมายดังกล่าว และยังมี ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นๆ ด้วย อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย
ด้าน นายอนุชา นาคาศัย คณะรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ครม.ให้รับร่างดังกล่าวไปพิจารณาก่อนที่สภาจะพิจารณารับร่างหลักการวาระที่ 1 โดย ครม.จะใช้เวลาพิจารณา 60 วัน
จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นท้วงติง ว่า ไม่เห็นด้วยที่กฎหมายหลายฉบับต้องส่งไปให้ ครม.พิจารณา เท่ากับล่าช้าไป 3-4 เดือน โดยไม่มีความคืบหน้าทั้งที่กฎหมายเข้ามาสภามาเป็นปีแล้ว
ต่อมาที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติส่งร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. … เพื่อให้คณะรัฐมนตรีนำไปพิจารณาก่อนเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า จะรับหลักการต่อร่างกฎหมายหรือไม่ภายใน 60 วันด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 227 เสียง ไม่เห็นด้วย 157 เสียง งดออกเสียง 10 เสียง จากนั้นนายชวนได้สั่งปิดประชุมในเวลา 18.36 น.