ประณามฝ่ายค้าน! “วิปรัฐบาล” ซัด จ้องแต่เล่นเกมการเมือง ใช้สภาเป็นตัวประกันแบบไม่เคยมีมาก่อน ชง 3 ข้อเข้ม แก้ลำรักษาองค์ประชุม ขีดเส้นเคลียร์ 2 สัปดาห์สุดท้าย ก่อนปิดสมัย เหน็บช่วงซักฟอกอย่าเผลอเสนอนับองค์ประชุมญัตติตัวเอง
วันนี้ (11 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอให้มีการนับองค์ประชุม ในการประชุมสภา เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า เป็นการจงใจใช้สภาเป็นเกมทางการเมือง เพื่อให้สภาล่มต่อเนื่อง จากเรื่องญัตติคลองไทย จนมาถึงการเสนอนับองค์ประชุมล่าสุดวานนี้ (10 ก.พ.) ตนขอประณามการดำเนินการที่หวังผลให้สภาเป็นตัวประกันทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่วนที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ระบุฝ่ายค้านก็เคยทำเช่นนี้มาก่อนนั้น การนับองค์ประชุม การวีโต้ หรือการบอยคอต เคยมีมาก่อน ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน
“ในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ก็รับผิดชอบในองค์ประชุมสภา นั่งอยู่ในสภาตลอด และการประท้วง หรือนับองค์ประชุมก็ต่อเมื่อเราเห็นว่ากฎหมายที่รัฐบาลเสนอเข้ามาไม่มีความถูกต้อง เช่น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พรรคก็ยืนยันไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ จึงคัดค้าน และแสดงออกหลายวิธี จนมีความรุนแรงในสภา ประกอบกับประธานสภาในสมัยนั้น ก็ได้ชื่อว่าประธานใบสั่ง ได้สั่งปิดอภิปรายขณะที่ ส.ส.ยังมีสิทธิอภิปรายอยู่ จึงเป็นที่มาที่แตกต่างกัน แต่กรณีของ นายพิเชษฐ์ สมาชิกยังสามารถอภิปรายได้ทั้ง 2 ฝ่ายเต็มที่ ไม่มีความขัดแย้ง หรือไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนั้นๆ ดังนั้น การนับองค์ประชุมแบบนี้ ผู้เสนอต้องมีคงามรับผิดชอบด้วย” นายชินวรณ์ กล่าว
รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวต่อว่า ตนได้หารือกับประธานวิปรัฐบาล เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาสภาล่มในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้าย ก่อนปิดสมัยประชุม โดยแบ่งเป็น 3 กรณี คือ 1. หากฝ่ายค้านยังเล่นเกมในสภาอยู่ เราจะต้องทำความเข้าใจประชาชน ให้เข้าใจว่าการกระทำแบบนี้ จะทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติเสียหาย รวมถึงประโยชน์ของประชาชน 2. กรณีไม่แสดงตน การไม่แสดงตนนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับกฎหมายหรือญัตติสำคัญ แต่กรณีที่ไม่แสดงตน เพื่อให้สภาล่มนั้น คิดว่า ต้องนำไปสู่คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานมาตกลงให้เกิดความชัดเจน ไม่เช่นนั้น ส.ส.ที่กำลังปฏิบัติงานอยู่จะไม่สามารถทำงานได้ เช่น ตนที่เมื่อวานก็ไม่ได้แสดงตน เพราะตนลงไปเสนอกฎหมาย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องรับทราบรายงาน พอมีการเสนอนับองค์ประชุมแบบพร่ำเพรื่อ จะทำให้เกิดปัญหากับ ส.ส.ที่ตั้งใจทำงาน จึงอยากเรียกร้องให้ผู้เสนอนับองค์ประชุมรับผิดชอบด้วย
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า และ 3. ส.ส.ที่ไม่แสดงตนต่อเนื่องหลายครั้ง วิปจะร้องขอไปยังหัวหน้า หรือเลขาฯพรรคการเมืองต่างๆ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กำชับ ส.ส.ไม่ให้มีพฤติกรรมไม่แสดงตน เนื่องจากอาจขัดจริยธรรม เพราะได้ใช้สิทธิตั๋วเครื่องบินเดินทางมาประชุม แต่ไม่แสดงตนในที่ประชุม หากทำแบบนี้ซ้ำๆ ถึง 10 ครั้ง ก็เห็นด้วยให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ให้กับประชาชน ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติของการครอบงำใดๆ ตนขอความเป็นธรรมให้ ส.ส.เหล่านี้ด้วย ก็ขอความร่วมมือสมาชิกทุกคนรับผิดชอบช่วยกันรักษาองค์ประชุม และภาพลักษณ์สภาในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายนี้ ก่อนปิดประชุม
รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวด้วยว่า ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมมาตรา 152 วันที่ 17-18 ก.พ.นี้ หวังว่า ฝ่ายค้านคงไม่เผลอไปเสนอนับองค์ประชุมในญัตติตัวเอง และในสัปดาห์สุดท้ายวันที่ 23 ก.พ.นี้ จะมีการพิจารณากฎหมายที่ตนเสนอ คือ ร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองที่สามารถช่วยหาเสียงให้กับผู้ลงสมัครของพรรคได้ และในวันที่ 24-25 ก.พ. จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะมีการหารือในวิป 3 ฝ่ายต่อไป