รมว.คมนาคม ย้ำชัด 7 รมต.ภูมิใจไทย พิจารณารอบด้านเหตุไม่ร่วมสังฆกรรม ครม. แปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
วันนี้ (9 ก.พ.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เลื่อนวาระการพิจารณาแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน ในรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริษัทในเครือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ตามที่ กระทรวงมหาดไทย เสนอออกไปก่อนว่า ในเรื่องนี้ต้องขอขอบคุณ นายกรัฐมนตรี และ ครม. ที่เข้าร่วมประชุม ที่ทำให้ได้มีการเปิดโอกาสรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในการที่ให้กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชี้แจงในส่วนที่กระทรวงคมนาคมตั้งข้อสังเกต ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักของกฎหมาย และ หลักธรรมาภิบาล เพราะหลายประเด็นทาง กทม. ยังทำไม่รอบด้านและครบถ้วน
และการที่ 7 รมต.ของพรรคภูมิใจไทย แสดงออกชัดเจนไม่เข้าร่วมประชุม ครม.ก็เนื่องจากไม่เห็นด้วยต่อกระทรวงมหาดไทยที่มีการเสนอขอขยายสัญญาสัมทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในขณะที่ การดำเนินการต่างๆ ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการไม่เข้าร่วมประชุม ครม. ก็แสดงออกชัดว่าค้าน ไม่อยากให้ต้องเมื่อเข้าร่วมประชุมแล้วไปถกเถียงกันใน ครม. ให้เป็นเรื่องเป็นราว ในเมื่อไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา คมนาคม ได้ทำความเห็นส่งไปยัง เลขาธิการ ครม. หลายครั้ง และชัดเจนมาก ซึ่งนอกจาก 4 ประเด็นก่อนหน้า ในครั้งนี้ได้เพิ่มเติมไปอีก 2 ประเด็น ทั้งในเรื่องของการที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังคงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทางด้านทิศเหนือ จาก หมอชิต-คูคต แม้ว่าก่อนหน้าจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ระหว่าง กทม. และ รฟม.ก็ตาม แต่ในปัจจุบันทาง กทม. ยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชย สิ่งปลูกสร้างให้กับ รฟม. แต่อย่างใด นอกจากนั้นยังมีประเด็นในเรื่องของการคำนวณอัตราค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้บริการ ว่ามีการใช้หลักการคำนวณอย่างไร เป็นต้น เนื่องจากทาง คมนาคม มองว่าอัตราค่าโดยสารที่จะจัดเก็บตลอดสายสามารถทำให้ถูกกว่า 65 บาทได้
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า หากในการประชุม ครม. ครั้งต่อๆไปทางกระทรวงมหาดไทย จะยังมีการเสนอ วาระดังกล่าว เข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ทางพรรคภูมิใจไทย จะแสดงท่าทีอย่างไรนั้น ยืนยันว่า หากกระทรวงมหาดไทยเสนอวาระดังกล่าวกลับเข้ามา และมีการทำให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของกฎหมาย และ หลักธรรมาภิบาล ทางพรรคภูมิใจไทยก็จะสนับสนุน แต่ถ้ายังไม่มีการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบของกฎหมาย ก็บอกได้เลยว่า พรรคภูมิใจไทยจะยังคงคัดค้านเหมือนเดิม เพราะหากไม่มีการดำเนินการให้ถูกต้อง จะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกกฎหมาย