ข่าวปนคน คนปนข่าว
**“ซินแสเข่ง” บอกไม่มีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่จะมีปฏิวัติ ลุงตู่ดวงรุ่งพุ่งถึงปีหน้า ส่วนลุงป้อมดวงจู๋ กู่ไม่กลับ
เพิ่งมีความคืบหน้าจากที่ประชุม ครม. ถึงเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า มหาดไทยจะชงเรื่องเข้า ครม.ในเดือน มี.ค. และน่าจะได้หย่อนบัตรกันในเดือน พ.ค.นี้ พร้อมกับการเลือกตั้ง ส.ก.ไปในคราวเดียวกันเลย
ข่าวนี้ทำให้บรรดาพรรคการเมือง และผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. รวมทั้งคนกรุงเทพฯคึกคักกันไม่น้อย
แต่แล้ว “ซินแสเข่ง” ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง ที่เป็นถึงผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย ที่พยากรณ์ตามหลักโหราศาสตร์จีน ก็ออกมาชี้เปรี้ยงว่า จะไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เกิดขึ้นภายในปีนี้แน่นอน รวมทั้งการเลือกตั้งใหญ่ก็จะไม่มีเช่นกัน เพราะจะไม่มีการยุบสภา แต่มีโอกาสเกิด “ปฏิวัติรัฐประหาร” มากกว่า ขอให้จับตาในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และ ส.ค.ปีนี้
“ซินแสเข่ง” ยังทำนายไปถึงตัว “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า จะไปอยู่ในตำแหน่งอื่นที่สูงขึ้น เพราะปีนี้ดวงดีมาก และจะดีต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ...มีดวงผู้นำ มีบารมี อำนาจ วาสนา ... แต่ให้ระมัดระวังอารมณ์ และปาก จะทำเสียการใหญ่
ส่วนดวงของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นั้น ดวงตกอย่างไม่น่าเชื่อ บารมีจะรูดลงเรื่อยๆ ถึงปีหน้าก็แทบไม่เหลือ และให้ระวังเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษ ทางที่ดีควรลงจากอำนาจแล้วให้คนอื่นที่มีบารมี ดวงดี ขึ้นมาทำหน้าที่แทน
คำทำนายดังว่า ได้รับความสนใจ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก โดยเฉพาะในโลกโซเชียลฯ ... ถามว่า “ซินแสเข่ง” ทายแม่นนักหรือ ก็บอกได้ว่าก็มีถูกบ้าง ผิดบ้าง คนที่ไม่ชอบ ไม่เชื่อในศาสตร์นี้ก็บอกว่า “หมอดู คู่กับหมอเดา” ส่วนคนที่ชอบก็จะบอกว่า “ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่”
แต่ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ “ซินแสเข่ง” ก็เพิ่งถูกทัวร์ลง เพราะทายผลเลือกตั้งซ่อมกรุงเทพฯ เขต 9 จตุจักร หลักสี่ ว่า “มาดามหลี” สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ จะชิงดำกับ “สุรชาติ เทียนทอง” พรรคเพื่อไทย สุดท้ายมาดามหลี จะเข้าวิน เพราะดวงชะตาอยู่ในช่วงขาขึ้น พื้นดวงเป็นคนมีความทะยานอยาก กล้าได้กล้าเสีย ชีวิตจะมีความเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งหน้าที่การงาน มั่นคงขึ้น ยิ่งได้ดวง “ลุงตู่” มาหนุนเสริม ย่อมสมหวังแน่
ส่วนดวงของ “สุรชาติ เทียนทอง” นั้น ตกดวงชะตาเจ้าทุกข์ ไม่ทุกข์เรื่องตนเอง ก็ทุกข์เรื่องผู้อื่น ชอบหาความทุกข์มาใส่ตัว อารมณ์อ่อนไหว ใจดี มีเสน่ห์ เพียงแต่เดือนมกราคมนี้ ตกเดือนดาวบาปพระเคราะห์ ให้เป็นอุปสรรคจะเกิดการปะทะแตกแยก สับสนไม่ปรองดอง สุดท้ายไม่ได้ดั่งใจหวัง เพราะจังหวะเดือนไม่เคลื่อนหนุน
ผลการเลือกตั้งออกมาปรากฏว่า “สุรชาติ” ชนะขาด ทิ้งห่าง “มาดามหลี” ไม่เห็นฝุ่น “ซินแสเข่ง” เลยโดนถล่มว่า “ทายมั่ว”
แต่ “ซินแสเข่ง” ก็ออกมาสวนกระแส ยืนยันไม่ได้มั่ว และไม่ได้เข้าข้างรัฐบาล เพราะไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรด้วย ... ดวงชะตา “มาดามหลี” เป็นช่วงขาขึ้นจริงๆ แถมดวงมีความสมพงศ์กับดวงเมือง แต่สิ่งที่ทำให้ผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ก็เพราะดวงของ “ลุงป้อม” ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่กำลังดวงตก เลยฉุดให้มาดามหลีตกลงมาด้วย ...ถ้ามาดามหลี เลือกชู “ลุงตู่” ไม่ใช่ “ลุงป้อม” ผลเลือกตั้งจะไม่ออกมาแบบนี้ เพราะดวงชะตาของ “ลุงตู่” กำลังดีมากๆ มีทั้งอำนาจ วาสนา บารมี...
เพิ่งโดนเผาเครื่อง จากเรื่องเลือกตั้งซ่อมมาหมาดๆ แต่ “ซินแสเข่ง” ยังแบกตำแหน่ง ผอ.สถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย ออกมาทำนายหวังกู้หน้าว่า จะไม่มีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่จะมีปฏิวัติแทนนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
** “บีม-ศรัณยู” โหน “พลังใบ” ทำกระท่อมเสีย ชาวเน็ตขุดอดีตพบพฤติกรรมดีดชนแล้วหนี-แต่งรถเลียนตำรวจ
“บีม-ศรัณยู ประชากริช” นักแสดงหนุ่มที่แสดงพฤติกรรมห่ามเกี่ยวกับการขับขี่รถพร้อมกับไลฟ์สดโชว์ความหวาดเสียวเสี่ยงอุบัติเหตุ แถมเคี้ยว “ใบกระท่อม” ชวนให้คิดว่า พืชสมุนไพรที่กำลังเป็นที่นิยมออกฤทธิ์ดีดเข้าให้หรือไม่
ชาวโซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณกันหนัก จากดรามาที่ต่างได้เห็น “บีม-ศรัณยู” ใช้เข่าขับรถ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย บางจังหวะก็ลุกขึ้นยืนถ่ายวิว มือควงพวงมาลัยไปจนถึงขับทะลุข้ามเกาะกลางถนนไปอีกฝาก
ขณะที่เจ้าตัวไลฟ์สดก็มีติ่งเข้าไปอวยยศ ยกให้เป็น “สหายพลังใบกระท่อม” แต่ก็มีชาวเน็ตจำนวนมาก บอกว่า พฤติกรรมขับรถแบบนี้ “ขยะสังคม” ชัดๆ และตั้งคำถามไปถึงตำรวจ เมื่อคนมีชื่อเสียงไลฟ์ลง FB หิวแสงโจ่งแจ้งขนาดนี้ ตร.ไม่ทำงานเลยหรือ ?
ชาวเน็ตยังได้ช่วยกันขุดคุ้ยประวัติ นักแสดงคนนี้ก็ปรากฏว่า “บีม ศรัณยู” เคยตกเป็นข่าว เมื่อปี 2552 ตอนนั้นเป็นพิธีกรรายการสีสันบันเทิง ช่อง 3 และดารานักแสดงละคร ขณะกำลังขับรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำคาดขาว ตกแต่งเลียนแบบรถตำรวจ ติดสติกเกอร์ประตูด้านหน้าทั้งสองข้างมีข้อความว่า “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” พร้อมเครื่องหมายตราสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตัวเลข 2-0 ขนาดใหญ่ ส่วนประตูด้านหลังสองข้าง ติดสติกเกอร์เป็นภาษาอังกฤษว่า ROYAL THAIPOLICE หลังคาด้านบนติดไซเรนแบบยาว ส่วนกระจกรถด้านหลัง ติดสติกเกอร์ขนาดใหญ่เต็มบานว่า “สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ และกองปราบปราม” โดย “ศรัณยู” ได้ขับรถหลบหนี ภายหลังจากที่ขับไปชนรถยนต์อีกคันบนถนนสุโขทัย หน้าโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
มารอบนี้ แม้เจ้าตัวจะออกมาไลฟ์สดขอโทษสังคม เห็นว่า ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เหตุเกิดเมื่อไร เนื่องจาก “บีม ศรัณยู” ไลฟ์สดมีหลายคลิป อาจเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระไป ดูว่าผิดข้อหาใดบ้าง และเมื่อพิสูจน์ทราบได้แล้วพนักงานสอบสวนจะเชิญตัวมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดี โดยข้อหามีทั้ง ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคลล หรือทรัพย์สินผู้อื่น, ใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ, ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมาย หรือสัญญาณจราจรที่ปรากฏในทาง หรือ ติดตั้งไว้ เป็นต้น
งานนี้ จากประวัติและพฤติกรรมที่นักแสดงหนุ่มเคยก่อไว้ในอดีต ชาวเน็ตลงความเห็นว่า ไม่เกี่ยวกับ “พลังใบ” ที่เจ้าตัวพยายามเอามาพรีเซนต์ แค่โหนกระแสที่ตอนนี้ “ใบกระท่อม” พืชสมุนไพร หลังจากหลุดจาก “ยาเสพติด” กำลังได้รับความนิยม ซึ่งจริงๆ กลุ่มคนที่สนับสนุนใบกระท่อม น่าจะต้องโกรธ “บีม ศรัณยู” ที่ทำลายภาพลักษณ์พืชสมุนไพรที่สู้อุตส่าห์ผลักดันกันมาให้ถูกกฎหมาย สุดท้ายมีคนแบบนี้ที่บอกว่า ใช้ใบกระท่อมแล้วดีด คึกคะนอง หิวแสง ขับรถอันตรายต่อชีวิตคนอื่น คนแบบนี้ต่อให้เคี้ยวใบยูคาลิปตัส ก็หาเรื่องขับรถ ขับเรือ โดยขาดจิตสำนึกอยู่ดี
ดรามาร้อนเรื่องนี้ จึงอยู่ที่ตำรวจแล้วละว่าจะดำเนินการแค่ไหน...ก็ต้องติดตามกันต่อไป