เกิดอะไรขึ้น? โซเชียลแห่แชร์ รร.ในเชียงใหม่ จัดโปรไม่รับปริญญาลดพิเศษ ลั่นสลิ่มไม่ใช่ลูกค้า “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดงเหนือ-อีสาน” เกือบ 3 หมื่นหมู่บ้านพร้อม ปักธงป้องสถาบันฯ จัดรำลึกทุกวันที่ “13 มกรา” ยาวถึง “13 ตุลา”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (4 ม.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น โซเชียลแห่แชร์ รร.ในเชียงใหม่ จัดโปรไม่รับปริญญา ได้ส่วนลดพิเศษ! ลั่น สลิ่มไม่ใช่ลูกค้า!
โดยระบุว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 ในโลกออนไลน์มีการแชร์โพสต์ของโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการจัดโปรโมชันพิเศษ หากไม่รับปริญญา จะได้รับส่วนลดจากทางโรงแรม โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า
ปีนี้ใครปฏิเสธการรับปริญญา เพราะเหตุผลใดๆ ก็ตาม เรามีโปรโมชัน #โปรไม่รับปริญญา หากท่านไม่เข้าร่วมรับปริญญา คือสิ่งที่ตั้งใจเปลี่ยน จะให้ส่วนลดโรงแรม พิเศษครับ inbox มาจอง พร้อมแจ้งว่า ขอทราบ โปรไม่รับปริญญา เราจะเปลี่ยนวัฒนธรรมไปด้วยกัน เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของการนิยมศักดินา เริ่มได้ที่ตัวเรา รับจากมือพ่อแม่ คนที่ส่งเสียให้เราเรียนดีกว่า เงินเรา ภาษีเรา
อย่างไรก็ตาม ทางทีมข่าวเดอะทรูธได้ทำการตรวจสอบไปยังเพจโรงแรมดังกล่าว พบว่า มีการโพสต์ข้อความถึงโปรโมชันดังกล่าวจริง ซึ่งไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า แอดมินเพจหรือเจ้าของโรงแรมเป็นผู้โพสต์ ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ยังมีการโพสต์ข้อความอีกด้วยว่า สลอน มาสอนกูทำธุรกิจ ทำมาบอกไม่ควรพูดนั่นพูดนี่ ไม่ควรด่าลูกค้า หรือ เตรียมตัวเจ๊ง
1. สลิ่มไม่ใช่ลูกค้ากู ขยะแขยงความเป็นฝุ่น
2. อย่ามา ปญอ. ทุกธุรกิจมีสิทธิพลาด เจ๊ง แต่ปัจจุบันการเอาวัคซีนคุณภาพดีๆ มาช้า ทำให้หลายๆ คนตกงาน สิ้นเนื้อประดาตัว
3. การปิดปาก เจ้ายศเจ้าอย่าง คือ ตัวทำลายให้ชาติไม่พัฒนา
ถ้ากูอยากเรียนเดี๋ยวจะ #แพคลิ้ง ไปหา ถ้าไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของผม อย่ามาเสนอหน้าสอนผม อยู่รอดมา 18 ปี มาเกือบเจ๊งตอนพ่อมึงเอาตู่ขึ้นมา กูยังเอาตัวรอด แต่ ห. ที่สุด คือ วัคซีนดีๆ มีแล้วไม่เอาเข้ามา
#อดพมต มาทำเป็นสอนกู ไม่ต้องค่ะ มีตังปากดีก็มาซื้อ โรงแรมกูได้ เอา บช. มาโชว์ค่ะ กูไม่เชื่อมึงจะมีปัญญาซื้อศิลปะเหล่านี้ ไม่ได้เหยียดนะคะ กูรู้ พวกมึงเข้าไม่ถึงค่ะ เพราะอาร์ตเหล่านี้ ใช้สมองค่ะ ไม่ได้ใช้น้ำตาซาบซึ้งตีค่าศิลปะที่วิจารณ์ไม่ได้ #ศิลปะที่วิจารณ์ไม่ได้คือขยะ
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 มกราคม ก็ได้โพสต์ข้อความว่า อีสลิ่ม มึงเป็น ห อะไร #สกมดทชยพมต พอโรงแรมกูมีโปร #ไม่รับปริญญา ก็มาแช่ง #สงสัยไม่มีลูกค้า พอกูตอบ เต็มค่ะ ขายดี เพราะ #ที่นี่ไม่มีสลิ่ม มึงก็บอกรัฐบาลดีเนอะ #ตรรกะสลิ่ม อี..ทอง มึงตาบอดเหรอที่ไม่เห็นคนจนลง เปิดข่าว อ่านสื่อที่อื่นนอกจาก Top News 3 นิ้วที่ไม่ใช่สามนิ้วบ้าง มึงอ่าน Economists นะคะ หรือ นิตยสารเมืองนอกที่เค้าวิเคราะห์ค่ะ อย่า ปญอ ดูข่าวสองทุ่มแล้วโง่ๆ ยืนในโรงหนัง เพื่อแสดงออกอะไรก็เรื่องของมึง
ถ้ามึงยังไม่เห็นเจตนาคน. Call Out. ก็ร้องเพลง ยืนในโรงหนังให้เมื่อยตีน แบบนกแก้วนกขุนทองต่อไปค่ะ พวกกูจะนั่งดู ไม่กราบ ทีตอนรับเสด็จเสือกอยากคลาน ทำไมในโรงหนังไม่หมอบคลานวะ อดท.
ย้อนไปก่อนหน้านี้ 3 กรกฎาคม 2564 ช่วงที่ หมิว สิริลภัส กองตระการ นักแสดง-พิธีกรจากช่อง 7 ถูกปลดฟ้าผ่า เนื่องจากใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมในโซเชียลมีเดีย กลายเป็นประเด็นร้อนสนั่นโลกออนไลน์และสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมาก
เพจของทางโรงแรมดังกล่าว ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวและฝากข้อความถึงนักแสดงสาวให้มาพักที่โรงแรมฟรีตลอดชีวิต โดยบอกว่า หากใครรู้จัก นักแสดงท่านนี้ ถ้าแชร์ถึงเค้า โรมแรมนี้ พักฟรีตลอดชีพ ไม่ต้องมาโปรโมต ไม่ต้องการการตลาด แต่เราคือ เพื่อนกัน ตราบใดที่คนที่ออกมาเรียกร้อง ถูกกลั่นแกล้ง หากต้องการความเงียบสงบ พักผ่อน ที่นี่ คือ บ้านหลังที่สอง รับประกันโรมแรมนี้ ไม่ใช่โรงแรมไก่กา และไม่ต้องมาโปรโมต เพราะ เราเข้าใจสิ่งที่โดน ขอบคุณ influencer ทุกคน คนที่มีเสียงดัง หากท่านไม่ทำเพื่อประชาชน จะเอาตังเค้าไปทำไม #คนเท่ากัน #Callout โรงแรมประชาธิปไตย #เราคือเพื่อนกัน
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น อดีตเสื้อแดงเหนือ-อีสาน ลุย 3 หมื่นหมู่บ้าน คุยชาวบ้าน ปักธงป้องสถาบันฯ จัดรำลึกทุกวันที่ 13 มกรา ยาวถึง 13 ตุลา
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่เมื่อวานนี้ ที่เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี มีการจัดงาน “ตุ้มโฮม ฮักแพง เบิ่งแยงกัน เฮาเสี่ยวกัน บ่ถิ่มกัน”
โดยมี นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน นายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ นายสุรพล หมื่นศรีพรม แกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) นายไวทิต ศิริสุวรรณ อดีตประธานกรรมการสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ และอดีตประธานเครือข่ายสหภาพแรงงานธนาคารและสถาบันการเงิน
พร้อมสมาชิกตัวแทนจากภาคอีสาน 20 จังหวัด และ ภาคเหนือ 17 จังหวัด เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนของภาคประชาชนร่วมกับทางภาครัฐ ในการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรชาวไร่ชาวนา สู้กับสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกถึงการนำเข้าส่งออกของราคาสินค้าทางการเกษตร
นอกจากนั้น ยังมีการร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการวางกรอบแนวทางปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สนับสนุน ม.112 ให้กระจายไปสู่หมู่บ้านต่างๆ ที่เคยเป็น “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง” ทั้ง 28,850 หมู่บ้าน
โดย เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับเครือข่ายผ่านระบบวิดีโอลิงก์ว่า ปัจจุบันนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากภัยต่างๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดมีผู้ป่วยและเสียชีวิตลดลงเป็นอย่างมาก ทางรัฐบาลเองก็ไม่หยุดนิ่งหาทุกวิธีเพื่อเป็นแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก
จึงอยากจะให้แกนนำทุกคนคอยเฝ้าระวังและป้องกันให้ข้อมูลข่าวสารกับทางสมาชิกทุกๆ วัน จะทำให้การแพร่ระบาดลดลงไม่กระจายไปจากคนสู่อีกคน เพราะมีการป้องกันและรับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกวิธี ส่วนคนที่ติดเชื้อก็จะสามารถรักษาได้ทันเวลากับอาการที่เกิดขึ้นของผู้ป่วย
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า วันนี้อยากจะให้พวกเราอดีตหมู่บ้านเสื้อแดง รักและสามัคคีกันเอาไว้เพื่อจะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ต้องไปทะเลาะกับใคร ตั้งใจทำงานสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ทางตนและรัฐบาลเองไม่เคยคิดจะทอดทิ้งประชาชนมีแต่จะส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มจำนวนขึ้น
นอกจากนั้น ทางตนมีแนวความคิดให้ทาง “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง” และ ประชาชนทุกหมู่เหล่าออกมาปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาร่วมทำกิจกรรมกันทุกวันที่ 13 ของเดือน รวมใจจุดเทียนชัยน้อมรำลึกถึงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันที่ 13 ตุลาคม คล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทย ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตต่างๆ สามารถธำรงไว้ซึ่งเอกราชตราบจนถึงปัจจุบัน เราจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2565 ไปจนถึงงานใหญ่คือ วันที่ 13 ตุลาคม 2565
แน่นอน, เห็นได้ชัดว่า การเคลื่อนไหวของขบวนการ 3 นิ้ว มีผลกระทบเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะการสร้างความขัดแย้งแตกแยก ที่ไม่เพียงแค่ความเห็นต่าง อย่างที่แกนนำ และนักวิชาการ 3 นิ้ว พยายามอธิบาย ทุกครั้งที่ต้องการให้ร้ายกับฝ่ายอำนาจรัฐที่กระทำกับพวกตน ทั้งที่แท้จริงแล้ว มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ขยายความขัดแย้ง
และเป็นไปตาม สิ่งที่นักวิชาการ 3 นิ้ว ที่อยู่เบื้องหลัง ต้องการให้เกิดขึ้น และปลุกปั่นมาตลอด แต่กลับอ้างว่า สิ่งที่เกิดขึ้น อยู่ในความคิดของคนไทยบางส่วนอยู่แล้ว จึงเรียกร้องให้มีพื้นที่สำหรับความเห็นต่าง นั่นหมายถึงต้องมีคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือ ถ้าความขัดแย้งนำไปสู่ความรุนแรง ก็เป็นเพราะการปลุกปั่นยุยง มิใช่เกิดขึ้นเอง จากความเห็นต่าง?
อีกด้านของการเคลื่อนไหวรับมือ อย่างกรณีชักชวนให้อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็น หมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน เป็นเครือข่ายปกป้องสถาบันฯของรัฐ ก็เช่นกัน
ถ้าแสดงออกในเชิงของการทำความดี ของการปกป้องสถาบันฯด้วยความจงรักภักดีอย่างแท้จริง และเป็นพลังให้เห็นถึงความพร้อมเพรียงของคนไทยส่วนใหญ่ เพื่อที่จะยืนยัน หรือ พิสูจน์ว่า เป็นคนส่วนใหญ่ ที่ไม่ต้องการให้มีการ “ล้มเจ้า” หรือ โจมตี ต่อต้าน สถาบันฯ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะนั่นหมายถึง “ความเห็นต่าง” จากพวก สามกีบ อย่างแท้จริง รวมทั้งไม่ได้เอาทัวร์ไปลงใคร ต่อต้านใคร
แต่ถ้าเกิดขึ้นเพื่อเคลื่อนไหวปะทะกับฝ่ายตรงข้าม ก็ถือว่า มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบหากเกิดความรุนแรงด้วย เพราะถือว่า เข้าข่ายการปลุกปั่นยุยงให้เกิดการปะทะได้เช่นกัน และเส้นแบ่งก็บางมาก จนอาจถูกกล่าวหาว่า พร้อมปะทะด้วยความรุนแรงได้?
แต่เหนืออื่นใด เห็นได้ชัดว่า การต่อสู้ระหว่างคนสองกลุ่มในสังคมไทย เริ่มขยายวงไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกอย่างชัดเจน ซึ่งใกล้จุดอันตราย และเปราะบางอย่างมาก หากยังไม่มีวิธีจัดการเรื่องนี้ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ หรือใครยังคิดว่า “เอาอยู่” ก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาเอาเองก็แล้วกัน!?