“ทักษิณ” โวยโดนปล่อยข่าวสปอนเซอร์ขบวนการล้มเจ้า ยันไม่เคยโอนเงินให้ใคร ท้าโชว์ใบเสร็จ โอดทำมาหากิน ตปท.ลำบากพอแล้ว ลั่นจงรักภักดี สนับสนุนการดำรงอยู่ของสถาบันฯ กตัญญูรู้คุณถึงประสบความสำเร็จ วอนอย่าไปหลงเชื่อ
วันนี้ (3 ธ.ค. 64) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Thaksin Shinawatra” ปฏิเสธกระแสข่าวว่า ให้การสนับสนุนด้านการเงินกับขบวนการล้มเจ้า พร้อมทั้งยืนยันว่า จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
โดย นายทักษิณ ระบุข้อความว่า “วันนี้อยากจะเล่าให้พี่น้องคนไทยได้ฟัง ตามประสาคนแก่ที่อาจชอบพูดเรื่องอดีตบ้าง แต่ผมเป็นคนแก่ที่ถึงแม้อนาคตตัวเองจะสั้นเพราะอายุเยอะแล้ว แต่ก็ยังห่วงอนาคตลูกหลานไทย ผมจำได้ว่าเมื่อผมอายุ 40 ปี กลุ่มชินคอร์ปได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำทางการบริหารจากอเมริกาบริษัทหนึ่งมาเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท ในการปรับวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้เข้มแข็งขึ้นเหมาะสมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ปรากฏว่า ประโยคแรกที่บริษัทนั้นขึ้นสไลด์ โชว์ขึ้นมาบอกว่า Thailand is a rumour driven society คือ ประเทศไทยเป็นสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยข่าวลือ ชอบมีการปล่อยข่าวลือกัน และบางทีข่าวลือก็ขับเคลื่อนประเทศไทยได้เสียด้วย เพราะว่าเราเป็นคนไทยที่อ่อนไหวต่อข่าวลือ และก็นึกว่าข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ความจริงข่าวลือ แปลว่า ข่าวที่คนปล่อยอยากให้เป็นจริง
ขณะนี้ก็มีคนปล่อยข่าวว่า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จะถูกยุบ โดยอ้างว่าผมไปสนับสนุนขบวนการล้มเจ้าบ้าง ไปอ้างว่ามีเงินไหลมาจากต่างประเทศมาสู่ขบวนการล้มเจ้าบ้าง สรุปแล้วก็จะพาดพิงผมเป็นคนทำ ผมเลยต้องขออนุญาตออกมาเล่าให้พี่น้องฟังว่า ถ้าใครมีหลักฐานว่ามีโอนเงินมาจากผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอนเงินเข้าสู่ขบวนการล้มเจ้า ผมจะให้รางวัลอย่างงาม เพราะไม่มีทางมี และผมไม่เคยโอนเงินมา ไม่ว่าเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ลำพังทำมาหากินและไว้ใช้ในต่างประเทศก็หนักหนาอยู่แล้ว คงไม่คิดจะโอนเงินมาทำอะไร
ขอยืนยันว่า ข่าวทั้งหลายเป็นข่าวปล่อยที่เป็นเท็จอย่างสิ้นเชิง ส่วนเรื่องที่ผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการล้มเจ้านั้น ยิ่งเป็นเรื่องที่ตลกและไม่มีมูลแม้แต่นิดเดียว เพราะผมเป็นคนที่จบโรงเรียนเตรียมทหาร จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และได้ทุนเล่าเรียนจาก ก.พ. ตามความต้องการของกรมตำรวจไปศึกษาต่อทั้งปริญญาโท และปริญญาเอกที่อเมริกา
เพราะฉะนั้นโดยธรรมชาติของผม นอกเหนือจากระบบสถาบันที่ต้องดำรงอยู่ด้วยความจงรักภักดีแล้ว ยังเป็นเรื่องความกตัญญูรู้คุณที่เป็นจุดแข็งในชีวิตผม ทำให้ชีวิตผมมีความสำเร็จมาทุกวันนี้ เพราะผมมีความกตัญญูรู้คุณ
ดังนั้น เรื่องที่กล่าวหาทั้งหมด ขอยืนยันว่า ไม่มีมูล และอย่าหวังว่าจะมีคนหลงเชื่อตามคนที่ปล่อย ผมขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง”