xs
xsm
sm
md
lg

ผึ้งแตกรัง หลังศาลรธน.ฟันเปรี้ยง “สามนิ้ว” มุ่งล้มล้างการปกครอง และทำกันเป็นขบวนการ!! **ดีๆ ด้วยกันทั้งคู่ "ณวัฒน์-ปารีณา" ชาวราชบุรีจะเลือกใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ผึ้งแตกรัง หลังศาลรธน.ฟันเปรี้ยง “สามนิ้ว” มุ่งล้มล้างการปกครอง และทำกันเป็นขบวนการ!!

แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า1 ปี แต่ผู้ที่ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คงจดจำการจัดชุมนุมของบรรดากลุ่ม “ชูสามนิ้ว” ในชื่อ “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ที่ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.63 กันได้ดี ซึ่งในวันนั้น นอกจากเวที แสงสีเสียงตระการตาแล้ว เนื้อหาสาระการปราศรัยและข้อเรียกร้อง ยังพุ่งเป้าไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง

ผู้ปราศรัยหลักบนเวทีในวันนั้น คือ อานนท์ นำภา- ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ... นอกจากจะใช้ถ้อยคำที่เรียกได้ว่า จาบจ้วง ล่วงละเมิด อย่างที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน และที่ช็อกผู้คนยิ่งกว่านั้นคือ แถลงการณ์ข้อเรียกร้องที่อ้างว่าเพื่อการปฏิรูปสถาบันฯ 10 ข้อ ที่ “รุ้ง” อ่านบนเวที

1.ยกเลิก มาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะ อันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้
2.ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
3.ยกเลิก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2561

4.ตัดลดงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรให้กับสถาบันกษัตริย์
5. ยกเลิกส่วนราชการในพระองค์
6.ยกเลิกการบริจาคและรับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด

ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล
7. ยกเลิกพระราชอำนาจในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ
8. ยกเลิกการประชาสัมพันธ์ และการให้การศึกษาที่เชิดชูสถาบันกษัตริย์แต่เพียงด้านเดียว
9. สืบหาความจริงเกี่ยวกับการสังหารเข่นฆ่าราษฎร
10. ห้ามมิให้ลงพระปรมาภิไธยรับรองการรัฐประหารครั้งใดอีก

นับเป็นข้อเรียกร้องที่ “รุนแรง ล้ำเส้นมาก” และหลังจากนั้นการชุมนุมของ “กลุ่มสามนิ้ว” ก็มีวาระเกี่ยวกับการ “ล้มล้างสถาบันฯ” ต่อเนื่องกันมา

นั่นจึงเป็นที่มาของคำร้องที่ “ณฐพร โตประยูร” ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า การกระทำของทั้งสามคน เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ...

และเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การกระทำและพฤติกรรมต่อเนื่องของผู้ถูกร้อง 1-3 มีเจตนาซ่อนเร้น เซาะ กร่อน บ่อนทำลาย เป็นการใช้สิทธิ เสรีภาพ มุ่งล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1-3 และ เครือข่าย เลิกการกระทำดังกล่าว !!

ณฐพร โตประยูร
... "ข้อเรียกร้องที่ขอให้ยกเลิกรธน. มาตรา 6 ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่รับรองพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ในฐานะทรงเป็นประมุขของรัฐที่ผู้ใดจะกล่าวหาหรือละเมิดมิได้นั้น จึงเป็นการกระทำที่มีเจตนาทำลายล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดแจ้ง ... การออกมาเรียกร้องโจมตีในที่สาธารณะ โดยอ้างการใช้สิทธิเสรีภาพตามรธน. นอกจากเป็นวิถีที่ไม่ถูกต้อง ใช้ถ้อยคำหยาบคาย และยังไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่เห็นต่างได้ด้วย อันจะเป็นกรณีตัวอย่างให้คนอื่นทำตาม ... ยิ่งกว่านั้นการกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 3 มีการดำเนินงานอย่างเป็นขบวนการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย...มีลักษณะก่อให้เกิดความวุ่นวายและความรุนแรงในสังคม...

ศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดว่า นอกจากทั้งสามคนแล้ว ยังมีเครือข่าย ขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข!!

ภาพจำที่เห็นกันชินตาในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มสามนิ้ว จะมีอาจารย์กลุ่มหนึ่งคอยให้กำลังใจ มีพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง และส.ส.ที่คอยวิ่งประกันตัว เวลาแกนนำถูกจับกุม รวมทั้งมีองค์กรจากต่างชาติ ก็เข้ามามีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ด้วย

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เมื่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ต่อไปนี้ บรรดาแกนนำที่ถูกดำเนินคดีอาญา มาตรา 112 คงออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ จะนอนจะนั่งไม่เป็นสุข รวมทั้งพรรคการเมือง อย่างพรรคก้าวไกลที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค ผลักดันให้มีการแก้ไข ม.112 ก็มีโอกาสถูกยุบพรรค เพราะมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว

นับว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การปัดกวาด "ขบวนการล้มล้างการปกครอง" ทั้งคนที่อยู่หน้าฉาก และผู้ชักใยบงการอยู่เบื้องหลัง

งานนี้ “ขบวนการล้มเจ้า” คงล้มเป็นโดมิโน ผู้เกี่ยวข้องต้องอยู่ในสภาพผึ้งแตกรัง ก็จับตาดูแล้วกันว่าหลังจากนี้จะมีใครเผ่นออกนอกประเทศกันบ้าง !!



**ดีๆ ด้วยกันทั้งคู่ "ณวัฒน์-ปารีณา" ชาวราชบุรีจะเลือกใคร

ปารีณา ไกรคุปต์
ถ้าเปรียบเป็นมวยก็นับว่า ขยันออกอาวุธฟาดกันตลอด ยิ่งเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามออกอาการซวนเซต้องปรี่เข้าใส่ น็อกได้ก็จะน็อก สำหรับ"ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" เจ้าของกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ กับ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ

คราวนี้ “ปารีณา” เพิ่งจะถูกศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิการฯ หลังจากก่อนนี้ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. อันเนื่องมาจากคดีรุกป่า

“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ไม่พลาดได้โพสต์ข้อความในเพจ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล – Mr.Nawat Itsaragrisil ถึง “ปารีณา” เป็นแคปชั่นข่าวที่ ระบุว่า ปารีณาคอตก ศาลฎีกาไล่พ้นกมธ. ไม่มีงานสภาอีก อ้างทำฟาร์มไก่รุกป่าเลี้ยงพ่อสมองเสื่อม

“ณวัฒน์” บอกว่าอ่านเหตุผลของการรุกป่าแล้วน่าเห็นใจ หรือสมัยหน้าผมจะลองลงสมัครผู้แทนราษฎรราชบุรี เพราะมีคนเคยท้าผมไว้ ถ้าผมลงจะมีใครเลือกผมมั้ยครับ ขอเสียงหน่อย

รู้กันว่าคนที่ท้า “ณวัฒน์”ลงสมัครส.ส.แข่งกันนั้นหรือก็คือ “ปารีณา” คู่มวยที่โซ้ยกันมาตลอดนั่นเอง

ณวัฒน์  อิสรไกรศีล
ก่อนหน้าถ้าจำกันได้ ช่วงที่ “ณวัฒน์” ติดโควิดและเข้ารพ.รักษาอาการ เจ้าของมิสแกรนด์ ไลฟ์สดด่ากราด ฟาดรัฐบาลลุงตู่รุนแรง พาลมาถึง “ปารีณา” กรณีรุกป่า ในฐานะ ส.ส.พปชร. “เอ๋-ปารีณา” จึงทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ลุง ฟาดกลับ บอก “ณวัฒน์” วันนั้น สภาพเหมือนคนทรงเจ้า พูดจาดูถูก ดูหมิ่นผู้นำประเทศ และยกตนเองไม่หยุดหย่อน ถามว่า ไม่อาย ไม่กระดาก หรืออุจาดตัวเองบ้างเหรอ ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งจัง ดีจัง วิเศษจัง สมัยหน้าลองมาสัมผัสประชาธิปไตย ลองสมัครเป็นนายกฯไปเลย หรือเป็นคนราชบุรี ไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องไปคิดเทียบรัศมีนายกฯ มาแข่งกับ “ปารีณา” ก่อนก็ได้ ท้าเลยว่า ได้คะแนนไม่เกิน 300 เพราะสังคมไทยเกลียดคนพูดจาหยายคาย พฤติกรรมหยาบคาย อาจเกิดจากพ่อแม่ไม่สั่งสอน หรือดื้อด้าน สอนแล้วไม่ฟัง สุดท้ายอาจกลายเป็นสถุล อาจเสียหายไปถึงรากเหง้า หว่านกอ ฝากด้วยนะ หัดพูดเพราะๆ แบบนายกฯด้วย นะจ๊ะ พูดเป็นไหม ผู้ชายที่พูดนะจ๊ะ หรือนะคะทุกคนในโลก คือคนมีเสน่ห์ แลดูน่ารัก จึงทำให้เวลานายกฯ ไปไหนมีแต่คนขอถ่ายรูป ส่วน “ณวัฒน์” ถ้ากลับมาราชบุรี นอกจากจะไม่มีใครขอถ่ายรูปแล้ว อาจเจอปาไข่ รองเท้า หรือ ขี้ใส่ปาก

เรียกว่า ขิงก็ราข่าก็แรง ดีๆ ด้วยกันทั้งคู่ ถ้า “ณวัฒน์” จัดไปตามที่พูด รับคำท้า “ปารีณา” ลงสมัคร ส.ส. ก็น่าสนใจว่า ระหว่าง ณวัฒน์” vs ปรีณา ชาวราชบุรี จะเลือกใคร?




กำลังโหลดความคิดเห็น