“แรมโบ้” ซัด “เพื่อไทย” ความคิดอุบาทว์เลวร้ายในสายเลือด รับมาจากนายใหญ่หรือเปล่า ติดนิสัยยัดเยียดโยนขี้ให้คนอื่น เอาสมองส่วนไหนมาคิดโทษรัฐบาลปล่อยเยาวชนดูถูกเหยียดหยามคนอีสาน ตนในฐานะคนโคราช ก็ไม่สบายใจ ยันนายกฯ ให้ความสำคัญดูแลเยาวชน
วันนี้ (10 พ.ย.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยแถลงตำหนิรัฐบาลที่ปล่อยให้มีการแสดงความเห็นในคลับเฮาส์ดูถูกเหยียดหยามชาวอีสาน ว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยอย่าหน้ามืดตามัว นำทุกประเด็นมากล่าวหาโจมตีนายกฯ และรัฐบาล และการที่มีเยาวชนออกมาพูดในเรื่องแบบนี้ ถือเป็นบางคน บางกลุ่มเท่านั้นที่คึกคะนอง ขาดความรู้ ข้อมูล หรือเกิดจากปัญหาทางสุขภาพจิต ไม่ใช่กับเยาวชนทุกคน
“ถึงแม้นายกฯ จะเป็นคนโคราชสายเลือดอีสานคนหนึ่ง นายกฯก็รักคนไทยทุกคน ทุกภาค ซึ่งคนภาคอีสานมีความน่ารัก อดทน ขยันเข้มแข็งทำการเกษตร อดทนต่อความเหนื่อยยาก ถือเป็นแรงงานสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศเช่นคนภาคอื่นเหมือนกัน ซึ่งนายกฯ ก็ตั้งใจจะต้องพัฒนาภาคอีสานให้ต่อเนื่อง ให้เกิดความยั่งยืนให้จงได้ ที่ผ่านมา ก็ทำไปเยอะแยะมากมาย จำเป็นต้องพัฒนาไปพร้อมกับภาคอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวงให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเยาวชน และรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนอยู่แล้ว นอกจากนี้ นายกฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะปราบปรามการใช้เฟกนิวส์ ที่ผ่านมา ก็ได้ทำมาโดยตลอดสามารถนำเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายมากมายหลายคดี”
นายเสกสกล ยังเห็นว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยออกมาแถลงไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเยาวชนที่คึกคะนองขาดความรู้ พูดเหยียดหยามชาวอีสานนั้น เรื่องนี้ไม่มีใครยอมหรือเห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่หากจะให้ดีพรรคเพื่อไทยก็ควรออกมาตำหนิ หรือด่าเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวม็อบ 3 กีบ ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าพรรคเพื่อไทยมีส่วนเป็นอีแอบให้ท้ายอยู่เบื้องหลังด้วย และยังให้ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์พรรคออกมาแถลงจะเสนอแก้กฎหมายมาตรา 112 และมาตรา 116 เพื่อปกป้องม็อบที่ก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอีกด้วย ตรงนี้ที่มีคำถามที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศฝากถามมาว่าพรรคเพื่อไทยและนายใหญ่ยังมีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงอยู่หรือไม่ ขอให้แถลงออกมาให้ชัดเจน
“ไม่ใช่พอมีม็อบเยาวชน 3 กีบ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ และให้นายกฯ ลาออก บรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ทยอยออกมาแถลงข่าวสนับสนุนการกระทำของเยาวชนเหล่านั้น เพื่อหวังจะได้ประโยชน์จากเยาวชนกลุ่มนั้น โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ ขอเพียงได้ล้มรัฐบาลเพื่อให้พรรคตนเองกลับมามีอำนาจรัฐ ช่วยนายใหญ่ให้พ้นคดีนำพากลับประเทศ เช่นนั้นใช่ไหม ประชาชนรู้ทันหมดแล้ว
“ผมในฐานะคนโคราชชาวอีสานคนหนึ่ง ก็ไม่สบายใจที่เห็นเยาวชนออกมาพูด เหยียดคนอีสานเช่นนี้ และเรื่องนี้ นายกฯ ก็ห่วงใยในเรื่องนี้ ยังฝากถึงผู้ใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองพึงควรระมัดระวังเป็นที่สุด อย่าทำไปด้วยความคึกคะนองเด็ดขาด
“ส่วนพรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะปรับปรุงหัวหน้าพรรคคนใหม่ เอานางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร มาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค เปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคใหม่ ก็คงไร้ประโยชน์สิ้นดี ความคิดยังอุบาทว์ เลวร้ายในสายเลือดจากนายใหญ่เหมือนเดิม ไม่เคยมีพัฒนาการทางความคิด ยังเล่นการเมืองแบบน้ำเน่าเหมือนอดีต ช่างกล้าตำหนิโยนขี้ใส่รัฐบาล โทษรัฐบาลอย่างมืดหน้าตัวมัว ยังติดนิสัยยัดเยียดโยนขี้ให้คนอื่น ทั้งที่ในพรรคเพื่อไทยเองทั้งเน่าทั้งเหม็นเต็มพรรคไม่รู้จักปัดกวาดเช็ดถูล้างน้ำให้สะอาดบ้าง พฤติกรรมชอบพ่นน้ำลายเน่าๆ จากปากใส่คนอื่น มันหมดยุคแล้ว ประชาชนรู้ทันนิสัยสันดานนักการเมืองเลวๆ เช่นนี้ ระวังจะโดนอาฟเตอร์ช็อกแลนด์สไลด์เป็นศูนย์ ถูกลงโทษจากประชาชนคนอีสาน จนพรรคเพื่อไทยแทบไม่เหลือที่นั่งในสภาฯแม้แต่ที่นั่งเดียว เป็นเพราะพฤติกรรมที่ชอบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นจนติดนิสัยเป็นสันดาน ที่ไม่มีวันแก้หายได้เลยตลอดชาติ” นายเสกสกล กล่าว
