xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” หารือ “นายกฯ นิวซีแสนด์” ส่งมอบไทยเป็นประธานเอเปก ปี 65

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือกับ นางสาวจาซินดา อาร์เดิร์น (The Right Honourable Jacinda Ardern) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ผ่านระบบ Video conference
โฆษกรัฐบาล เผย “นายกฯ” หารือนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ พร้อมร่วมพิธีส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปกให้กับไทย เป็นประธานเอเปก ในปี 2565 พร้อมพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ

วันนี้ (5 พ.ย.) เวลา 11.45 น. ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือกับ นางสาวจาซินดา อาร์เดิร์น (The Right Honourable Jacinda Ardern) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ผ่านระบบ Video conference ซึ่งฝ่ายนิวซีแลนด์เป็นฝ่ายทาบทามการหารือ เพื่อเป็นโอกาสในการหารือเรื่องการส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปกให้กับไทย และประเด็นสำคัญที่ไทยประสงค์ผลักดัน (Priorities) ในการประชุมเอเปกในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่ง นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์อีกครั้ง หลังจากที่ได้พบกันครั้งล่าสุดในการเดินทางเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 14 ที่กรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ ที่ดำเนินมาอย่างใกล้ชิดแม้ในห้วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไทยกับนิวซีแลนด์ยังคงรักษาพลวัตของความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคี อนุภูมิภาค และภูมิภาค ทั้งนี้ ไทยชื่นชมความสำเร็จของนิวซีแลนด์ในการเป็นเจ้าภาพเอเปกปีนี้ ไทยพร้อมที่จะรับมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปก และนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในเดือนพฤศจิกายน 2565

นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ชื่นชมบทบาทของนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ชื่นชมความก้าวหน้าในการจัดการประชุมเอเปกของไทย และเฝ้ารอที่จะมีส่วนร่วมประชุมเอเปกที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และประทับใจประเด็นที่ไทยผลักดันในการประชุม และเฝ้ารอที่จะร่วมพิธีส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปกให้ไทยในสัปดาห์หน้า ตลอดจน ยินดีกับความสัมพันธ์ไทย-นิวซีแลนด์ ซึ่งไทยถือเป็นมิตรประเทศที่สำคัญหวังจะมีความร่วมมือมากขึ้น โดยไทยและนิวซีแลนด์ได้ครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีนี้

ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน
- ด้านการค้าการลงทุน นิวซีแลนด์ประสงค์จะกระชับความร่วมมือด้านนี้มากขึ้น ด้วยความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างกัน ทำให้มีความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันมากขึ้นจึงประสงค์จะใช้กลไกเหล่านั้นเพิ่มความสัมพันธ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่จะผลักดันความร่วมมือดังกล่าวเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
- การท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประสงค์ที่จะผลักส่งเสริความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน นายกรัฐมนตรีจึงได้กล่าวถึงการเปิดประเทศที่ชาวนิวซีแลนด์สามารถเดินทางมาไทยผ่านการเปิดประเทศของไทยแล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงประสงค์สนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป
- ด้านสาธารณสุข ไทยประสงค์จะเรียนรู้ศาสตร์ด้าน TravelMedicine จากนิวซีแลนด์ และแสวงหาความร่วมมือด้านการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมแพทย์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ของไทย
- ด้านการศึกษา นายกรัฐมนตรีชื่นชมระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ จึงทำให้มีนักเรียนไทยเดินทางศึกษาที่นิวซีแลนด์กว่า 3 พันคน ต่อปี และขอให้นิวซีแลนด์ผ่อนปรนให้นักศึกษาไทยกลับไปศึกษาต่อไป

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์ที่เป็นประเด็นระหว่างประเทศ
- โควิด-19 และการจัดหาวัคซีน นายกรัฐมนตรี ชื่มชมความสำเร็จของนิวซีแลนด์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามนโยบาย “Go Hard, Go Early” และการบริจาควัคซีนโควิด-19 ของนิวซีแลนด์ให้กับ COVAX Facility และหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งไทยก็ได้ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนเงินและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเช่นกัน
- สิ่งแวดล้อม นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ชื่นชมวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรีไทยที่ให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งในการกำหนดนโยบายและในกรอบการประชุมเอเปกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังที่จะผลักดันนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG ของไทย ร่วมมือกับ แผนเศรษฐกิจ 30 ปี ของนิวซีแลนด์
- สถานการณ์เมียนมา ทั้งสองฝ่ายหวังที่จะให้เกิดความสงบ สถานการณ์คลี่คลาย และกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนิวซีแลนด์ที่ได้ให้การสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา และหวังว่านิวซีแลนด์จะยังคงสนับสนุนอาเซียนต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ชื่นชมบทบาทที่เข้มแข็งของไทยในภูมิภาค

ทั้งนี้ บรรยากาศในการหารือเป็นไปอย่างเป็นกันเอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้หวังที่จะขยายความร่วมมือด้านสาธารณสุข และพลังงาน โดยประสงค์ให้หน่วยงงานของไทย ได้แก่ กรมการแพทย์ (Department of Medical Services) กรมควบคุมโรค (Department of Disease Control) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (Department of Medical Sciences) ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานด้านพลังงานทดแทน ได้แก่ กระทรวงพลังงาน และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (Thailand Institute of Scientific and Technological Research) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้มีความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของนิวซีแลนด์ ต่อไปในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น