นายกฯ ติดตามสถานการณ์น้ำนนทุบรี ยืนยันไม่ท่วมสูงเท่าปี 54 กำชับเตรียมแผนรับมือพร้อมมาตรการเยียวยา ลั่นจะอยู่ตรงนี้เพื่อทำงาน ขออย่าทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ เผย ในหลวงทรงห่วงประชาชน รับสั่งเสมอให้ดูแลให้มีความสุข ปลอดภัย ให้ประเทศชาติยั่งยืน เดินไปข้างหน้ามีเสถียรภาพ ย้ำต้องนำมาปฏิบัติให้เกิดผลให้ได้
วันนี้ (30 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.50 น. ที่ท่าน้ำเทศบาลปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และการก่อสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วมรอบเกาะเกร็ด รับฟังแนวทางป้องกัน และลดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านบางกลุ่มเคลื่อนไหวขับไล่การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้
จุดแรกนายกรัฐมนตรีเดินทางมาที่ศาลาท่าเรือเทศบาลนครปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด มี นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้บริหาร และมีประชาชนบางส่วนหนึ่งมารอต้อนรับ พร้อมถือป้ายให้กำลังใจและตะโกนให้ “นายกฯ สู้ๆ ลุงตู่สู้ๆ” และขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขณะที่นายกฯ ได้ชูมือเป็นสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมทักทายประชาชนและเด็กๆ ว่า “เรียนให้เก่งๆ รักคุณพ่อคุณแม่ให้เยอะๆ นะ ครอบครัวสำคัญที่สุด” และระหว่างอยู่บนเวทีเพื่อถ่ายรูปกับภาคส่วนต่างๆ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำมือขวาแล้วนำไปวางที่หน้าอกด้านซ้ายตรงหัวใจ ก่อนจะขว้างส่งให้กับกลุ่มประชาชนที่สนับสนุน สร้างเสียงกรี๊ดดังลั่น
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากศาลาท่าเรือเทศบาลนครปากเกร็ด โดยเรือตรวจการณ์เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และตรวจเยี่ยมการสร้างคันกั้นน้ำ ที่จะดำเนินการสร้างทั้งหมดความยาว 50 กิโลเมตร ดำเนินการแล้วเสร็จ 18 กิโลเมตร พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมบ้านเรือนประชาชนที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบบางส่วน ตลอดจนติดตามการก่อสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำมท่วมรอบเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด ด้วย ทั้งนี้ เส้นทางการตรวจเยี่ยมทางเรือมีระยะทางประมาณ 12.5 กิโลเมตร
ระหว่างอยู่บนเรือ พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำจากผู้ว่าฯ นนทบุรี จากนั้นนายกฯ กล่าวถึงข้อกังวลและห่วงใยในการพร่องน้ำ ว่า ถ้าถามว่ากังวลไหม กังวล ถามว่าห่วงไหม ห่วง เพราะประเทศไทยวันนี้อยู่ฤดูมรสุม พายุก็เข้ามา เตี้ยนหมู่เพิ่งเข้ามา เราต้องติดตามสถานการณ์โลกไว้ว่าจะทำอย่างไรเตรียมการรับความพร้อมในเรื่องเหล่านี้ เพราะธรรมชาติเป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติ สิ่งสำคัญที่ย้ำอยู่เสมอวันนี้โลกร้องให้ดูแลเขา ถ้าไม่ดูแลก็จะเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ นี้ขึ้นมาในโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ฝนแล้ง อุทกภัยต่างๆ จะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ คนไทยต้องเตรียมตัวเตรียมความพร้อม เราจะอยู่กับธรรมชาติยุคนี้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นต้องเริ่มจากตัวเองก่อน ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมจะดูแล
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นห่วงในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ ตอนนี้ในคันกั้นน้ำยังต่ำกว่าคันเกือบเมตร สิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งตนก็ได้ศึกษามาบ้างแล้ว และได้รับฟังคำชี้แจงจากกรมชลประทาน ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการระบายน้ำออกทางคลองด้านข้าง ตัดตอนน้ำที่มาจากภาคเหนือตอนล่าง และมีคลองหลายคลองที่จะนำออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้น ช่วงนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ก็ขอให้ติดตามกรมอุตุนิยมวิทยาด้วย ระบบของเราที่เตรียมความพร้อมไว้หลายปีที่ผ่านมาก็ค่อนข้างจะมีความพร้อมมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เราต้องเร่งดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วขึ้น และสิ่งสำคัญการดำเนินโครงการต่างๆ ต้องผ่านประชามติและความเห็นชอบของประชาชนด้วย ถ้าไม่ผ่านก็ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม มันติดปัญหาที่ประชาชนยังไม่เห็นชอบร่วมกัน เพราะมีคนเดือดร้อน มีคนที่ไม่เดือดร้อน ก็ขออย่างเดียวขอความร่วมมือ เพราะนายกฯ บังคับใครไม่ได้ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ช่วยกันเก็บผักตบชวา ช่วยกันขจัดขยะ อย่ารอให้เจ้าหน้าที่ทำอย่างเดียว บางอย่างมันเกิดขึ้นบนฝั่ง ผักตบเกิดจากแหล่งน้ำบนฝั่งหลุดมากระจายลงแม่น้ำลำคลองไปด้วย บ้านใครบ้านมันช่วยกันเก็บเอาไปทำประโยชน์ทำปุ่ยดีกว่าปล่อย
“นั่นคือหน้าที่ เราต้องไปด้วยกัน ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ธุรกิจ เอกชน ทุกคนต้องช่วยกัน ถึงจะพลิกโฉมของเราให้ได้พ้นจากโลกปัจจุบันให้เราอยู่กับธรรมชาติให้ได้ ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งสองพระองค์ทรงรับสั่งเสมอมา และรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงตรงนี้ รับสั่งกับผมเสมอเวลาเข้าเฝ้าราชการ ให้ดูแลประชาชนให้มีความสุข ให้เขาปลอดภัย ให้ประเทศชาติยั่งยืน เดินไปข้างหน้า มีเสถียรภาพ เราก็จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้ปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมาให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เห็นแล้วจากผู้ว่าฯ งบประมาณที่ให้ไปหลายปีไปแล้ว ก็มากพอสมควร แต่ก็ยังทำไม่ครบหรอก ที่ผ่านมาทำได้น้อยมาก วันนี้ประชาชนก็เริ่มร่วมมือมากขึ้นๆ ก็จะทำไปเรื่อยๆ ตามที่เรามีงบประมาณทยอยให้มา ก็ขอขอบคุณทุกคน ทั้งผู้ว่าฯ นายกเทศมนตรี ซึ่งก็รู้ปัญหาดีคนในพื้นที่ วันนี้เดินหน้าประเทศต้องเดินด้วยเกษตรกรรมที่มีมูลค่าสูง เกษตรกรรมที่อาศัยการวิจัยและพัฒนาจากความหลากหลายทางชีวภาพ เราต้องปรับทุกแบบทั้งหมด นี่คือ การพลิกโฉมประเทศไทยของเรา ทั้งเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วม แก้ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้ครัวเรือน เยอะแยะไปหมด รัฐบาลจะทำเต็มที่ เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่อยากฝากประชาชนไว้ว่าตนอยู่ก็เพื่ออย่างนี้ เพื่อที่จะทำงานตรงนี้ ก็สุดแล้วแต่จะว่ายังไงกันไป