ข่าวปนคน คนปนข่าว
**มิสแกรนด์ ขโมยซีนลุง 2 ป. “แต่งสวย สวมมง” ลุยน้ำท่วมสุโขทัย เจอทัวร์ลงไม่ดูสภาพ
พายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมในหลายจังหวัด รวมถึง “สุโขทัย” ที่ “ลุงตู่” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพิ่งจะควง “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสภาพภัยพิบัติ หาหนทางช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน
งานนี้ “ลุงตู่” มีลูกอ้อน ลูก “นะจ๊ะ” ตามสไตล์ถนัด เช่น “ใครจะรักไม่รักไม่ว่ากัน แต่จะทำหน้าที่นายกฯให้ดีที่สุด” ซึ่งก็ดูจะเรียกเสียงเชียร์ “ลุงตู่สู้ๆ” จากชาวบ้านที่มาให้การต้อนรับ และการมาสุโขทัยครั้งนี้ของ “ลุง 2 ป.” ทำท่าจะจบลงด้วยการได้กำลังใจไปสู้ต่อเต็มๆ สมประสงค์ แต่ดันมาถูกจับเป็นประเด็น ตอนที่นายกฯ บอกว่า “นี่เป็นภัยธรรมชาติก็ต้องแก้กันไป ...ขอให้ช่วยกันสวดมนต์อย่าให้พายุเข้ามาอีกเลย พายุลูกเดียวนี่ก็พอแล้ว” กลายเป็นกวักมือเรียกบรรดา “คนไม่รักลุง” เข้ามารุมสวดภาวะผู้นำของลุงไปทั่วโซเชียลฯ ...น้ำท่วมให้สวดมนต์ไล่พายุซะงั้น
จะว่าไป นี่คือความเป็นตัวตนของ “ลุงตู่” ที่จะพูดอะไรก็พูดไป ไม่คิดอยู่แล้ว แต่ดรามาลุงตู่ ก็ดูจะดรามาน้อยกว่าอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันกับลุง 2 ป. นั่นคือ กรณี “ไม่ได้วางมง...แต่ก็ลงมือ” เมื่อนางงามมิสแกรนด์สุโขทัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วม แล้วถูกชาวเน็ต โฟกัส เรื่องแต่งตัวเต็มยศ สวมมงกุฎ ลงเรือ
เรียกว่า ขโมยซีน “ลุง 2 ป.” ช่วยแชร์ทัวร์ลงโดยแท้
ว่ากันว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากเพจ สุโขทัย “พาเที่ยว” ได้โพสต์ภาพ “มิสแกรนด์” มาช่วยน้ำท่วมสุโขทัย โดยมีสาวงาม 2 คน แต่งตัวเต็มยศนั่งอยู่บนเรือ พร้อมกับแคปชันว่า “มิสแกรนด์มาช่วยน้ำท่วมสุโขทัย #น้ำท่วมสุโขทัย #นางงามไม่ทิ้งกัน #สุโขทัย”
ต่อมาชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ส่วนใหญ่เห็นว่า แต่งสวยมาไม่ถูกที่ ถูกเวลา สร้างภาพ หิวแสง ไม่ดูความเหมาะสม ...สารพัดที่ติติงกัน
แม้การมาช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมในน้ำใจ แต่ก็สงสัยว่า เจ้าตัวอยากแต่งชุดนี้ไปลงพื้นที่เองจริงๆ หรือไม่ หรือต้นสังกัดสั่งมา ต้องดูว่าผิดที่ใคร ระหว่างตัวนางงามกับต้นสังกัด เพราะถ้าต้นสังกัดสั่งมาแบบนี้ ตัวนางงามเองก็คงขัดไม่ได้
อันว่า มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ก็รู้ๆ กันว่า อยู่ภายใต้การดูแลของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เขาล่ะ
ต่อมา “กวาง” วรดา ฉัตรศรี มิสแกรนด์สุโขทัย 2021-2022 ได้ไลฟ์ขณะลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมระบุว่า “ไม่ได้วางมง…แต่ก็ลงมือ” และชี้แจงดรามาที่ถูกทัวร์ลงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ ถึงกิจกรรมช่วยน้ำท่วม ว่า ได้รับการเชิญจากสมาคมกู้ภัยจังหวัดสุโขทัย ให้ไปมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และการแต่งตัวจัดเต็มในวันนี้ เพื่อให้เกียรติสถานที่ที่จะต้องเข้าไป แต่ไม่สามารถเข้าไปถึงสถานที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูง จึงต้องจอดรถตรงนั้น ภาพถ่ายบนเรือนั้น คือ พี่เจ้าของเรือขอให้ขึ้นไปถ่ายชั่วคราวเพียงบางช็อต จึงได้รูปภาพมาแบบที่ทุกท่านเห็น ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกท่านเข้าใจผิดนะคะ
ทั้งสวดมนต์ไล่พายุ และแต่งสวย สวมมง มาช่วยน้ำท่วม เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้เจตนาดี น่าชื่นชม แต่ วาจาก็ดี แต่งกายก็ดี ควรต้องดู... สภาพพ ให้เหมาะสม มิเช่นนั้นบนความทุกข์ระทมของชาวบ้านเรื่องราวแทนที่จะได้ช่วยเหลือกันให้คลายทุกข์ คลายความเดือดร้อนกัน จะกลายเป็นดรามา ด้วยประการฉะนี้
**“ปิยบุตร” นำเองไปเลย อย่ามัวยุม็อบ “ทะลุแก๊ส” ปฏิวัติ
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า ปรากฏการณ์ “ทะลุแก๊ส” ที่ดินแดง คือ อะไร?
ภายหลัง “แกนนำ” ของ “ราษฎร” หลายคน ถูกรัฐใช้ “นิติสงคราม” เข้าปราบปรามอย่างหนัก จนต้องถูกจำคุก โดยไม่มีสัญญาณว่าจะได้รับอิสรภาพชั่วคราวเมื่อไร จนดูเหมือนว่าการชุมนุมของ “ราษฎร” ในช่วงที่เหลือของปี น่าจะมาสู่ช่วงขาลง ไม่สามารถกลับมาผลักดันประเด็นทั้งสามข้อได้อย่างร้อนแรงเหมือนปลายปีที่แล้ว
พลันก็เกิดการชุมนุมที่ดินแดง ช่วงหัวค่ำ เกือบทุกวัน ปะทะกับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน
ไม่มีใครรู้จักว่าพวกเขาเหล่านี้คือใคร?
ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าข้อเสนอของพวกเขาคืออะไร?
ไม่มีใครเคยได้ยินการปราศรัยของพวกเขา?
รู้กันแต่เพียงว่า มีการตั้งชื่อเล่นๆ ว่า “ทะลุแก๊ส”
ผมเฝ้าสังเกตการต่อสู้ของประชาชนกลุ่มนี้อย่างสนใจว่า นี่จะกลายเป็นการต่อสู้ในลักษณะใหม่แบบที่ไม่เคยเกิดในประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ ?
ผมติดตามสถานการณ์ที่ดินแดงทุกวัน ก็ยังไม่อาจวิเคราะห์ฟันธงลงไปได้ทั้งหมด แต่ขอตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นไว้ ดังนี้
นี่คือปรากฏการณ์ในลักษณะ “ผุดขึ้นมาเอง” - spontaneous ปราศจากองค์กรจัดตั้งหรือปลุกระดม
นี่คือปรากฏการณ์ในลักษณะ “ตอบโต้กับสิ่งที่รัฐกระทำมาตลอดขวบปีที่ผ่านมา” - action vs reaction
นี่คือปรากฏการณ์ในลักษณะ มีแนวโน้มไปสู่การลุกขึ้นสู้แบบปฏิวัติ - soulèvement révolutionnaire
เรามักมองเหตุการณ์ที่ดินแดงว่า เป็นการก่อจลาจลของวัยรุ่นเด็กแว้นคึกคะนอง หรือ riot แต่นั่นคือการมองจากภาพการกระทำภายนอก มองจาก action การปาพลุ ดอกไม้ไฟ การขว้างปาสิ่งของ การขี่มอเตอร์ไซค์เข้าปฏิบัติการ
แต่ถ้าเรามองลงไปให้ลึกกว่านั้น riot หรือ การก่อจลาจล แบบนี้ อาจมีลักษณะเป็น “การลุกขึ้นสู้” ด้วย
คนมือเปล่าแบบไหนกันที่จะกล้าเอาชีวิตตนเองเข้าไปเสี่ยงคุก เสี่ยงตาราง บาดเจ็บ ล้มตาย จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่
เยาวรุ่นแบบไหนกันที่จะกล้าเอาอนาคตของตนเองเข้าไปเสี่ยง ยอมให้คนจำนวนมากก่นด่า ยอมถูกฝ่ายเดียวกันที่ต่อสู้กับรัฐบาลตั้งคำถาม
บางที อาจไม่ใช่การจลาจลทั่วๆ ไป อาจไม่ใช่เยาวรุ่นใจร้อน อยากใช้กำลังท้าตีท้าต่อยกับเจ้าหน้าที่
แต่คือ กลุ่มคนที่เกิดจิตสำนึกของการต่อสู้กับระบอบอันอยุติธรรม ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่ ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยใด และไม่ว่าจะเกิดเมื่อไร แต่จิตสำนึกนี้ได้กระตุ้นให้พวกเขาพร้อมเข้าเสี่ยงสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจกฎหมาย เข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่บางครั้งอาจเสี่ยงตาย บาดเจ็บ ยินยอมเข้าเสี่ยง เพราะไม่ต้องการปล่อยให้ความอยุติธรรมนี้ดำรงต่อไป
การแสดงออกของ “ทะลุแก๊ส” จะเป็นการก่อจลาจลดาดๆ หรือกลายเป็นการลุกขึ้นสู้แบบปฏิวัติ ประเด็นชี้ขาดอยู่ตรงนี้
พลันที่ “ปิยบุตร” ร่ายยาวมาแบบนี้ก็มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวาง ส่วนใหญ่เห็นว่า “ปิยบุตร” อย่ามัวแต่หลบอยู่เบื้องหลัง ออกมาเป็น แกนนำของ “ม็อบทะลุแก๊ส” เลยสิ
เนื้อหาใน fb ที่กล่าว มา ถ้าเข้าข่ายปลุกระดม ก็ควรจะโดนคดียุยงปลุกปั่น ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง กลับมาเมื่อไหร่ก็โดน
เด็กๆ ทั้งนั้น ยุให้เสียอนาคต บาดเจ็บ หนักสุดคือตาย..
หรือว่านี่ ปิยบุตร ไม่คิดจะกลับมาไทยแล้ว !!