เหยื่อและเบี้ยทิ้งขว้าง! “สุวินัย” ฟันธงจุดจบ นศ.“สามนิ้ว” มธ. หมดอนาคต พบถูกอาจารย์เฒ่าสารพัดพิษปั่นหัว? ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากเฟซฯ เปิดลึกตั้ง 32 ส.ส. กางไทม์ไลน์เพื่อไทยหนุนช่วยม็อบ 4 วันติด ทั้งอ้างมติพรรค
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (25 ก.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น อ.สุวินัย ฟันธงจุดจบ ก๊วนนักศึกษา มธ. หมดอนาคต พบถูกอาจารย์เฒ่าสารพัดพิษปั่นหัว?
โดยระบุว่า จากกรณีวานนี้ (24 ก.ย. 64) เบนจา อะปัญ สมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับมาแสดงถึงห้องพัก
“ตอนนี้ตำรวจมาหา บจ.ที่หอแล้วค่ะ มาพร้อมหมายจับจาก สน.ทองหล่อ”
คาดว่า จากเหตุเข้าร่วมกิจกรรม #คาร์ม็อบ 10 สิงหา เคลื่อนขบวนไปตึกซิโน-ไทย จากการที่กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ กรณีการปราศรัยที่มีการพาดพิงสถาบัน
โดยก่อนหน้านี้ ก็มีรายงานว่า ทางแอดมินเพจ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มคณะราษฎร ก็ได้ถูกหมายจับเช่นเดียวกัน แต่ได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว
ล่าสุด รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความถึงกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ว่า
“ผมเคยเห็นคลิป อั้ม เนโกะ สมัยเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว … ผมก็รู้จุดจบของนางตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ก็เคารพการตัดสินใจของนาง เพราะห้ามความคิดกันไม่ได้
เมื่อได้เห็นคลิปของเบนจาที่เป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์รุ่นน้องของ อั้ม เนโกะ ที่ออกมาเคลื่อนไหวสไตล์เดียวกัน ตั้งแต่สองปีที่แล้ว … ผมก็รู้จุดจบของน้องเบนจาตั้งแต่วันนั้นเหมือนกัน
หลังจากที่ผมเกษียณราชการจากการเป็นอาจารย์ธรรมศาสตร์ตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน … ผมนึกไม่ถึงว่านักศึกษาธรรมศาสตร์จะกลายเป็นพวกซ้ายสุดโต่งทางการเมืองเยอะขนาดนี้ และกว่าครึ่ง คือ นักศึกษาหญิง! (แอดมินเพจธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่โดนจับก็เป็นนักศึกษาหญิงอายุแค่ 21 ปีเอง) … สิ่งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งโดยเครือข่ายของอดีตพรรคอนาคตใหม่ช่วงนั้น
ยกเว้นช่วงระหว่างปี 2516-2519 ที่นักศึกษาธรรมศาสตร์กลายเป็นพวกซ้ายสุดโต่งจนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 จนต้องหนีเข้าป่า … ช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2527-2559 ที่ผมสอนหนังสือที่ธรรมศาสตร์ ผมไม่เคยเห็นช่วงไหนที่มีนักศึกษาธรรมศาสตร์จำนวนไม่น้อยได้ถูกจัดตั้งให้กลายเป็นหัวหอกของขบวนการล้มเจ้า เหมือนอย่างในช่วงปี 2563-2564 เลย
จะว่าไปแล้ว นี่คือ เคราะห์กรรมและโศกนาฏกรรมของนักศึกษาธรรมศาสตร์รุ่นนี้ ในระดับปัจเจก ชีวิตหลังจากนี้ของนักศึกษาธรรมศาสตร์กลุ่มนี้ แทบเรียกได้ว่า หมดอนาคตแล้วในยุคดาต้านิยม (dataism) ต่อจากนี้
จำคำพูดของผมไว้ให้ดีนะ … อีกหลายปีหรือสิบกว่าปีข้างหน้า เมื่อพวกคุณเติบใหญ่มีวุฒิภาวะมากกว่าตอนนี้ และ ”พลันได้คิด” …
พวกคุณจะเจ็บปวดทางจิตใจมากเหลือเกินที่พบว่า พวกคุณเป็นแค่เหยื่อและเบี้ยสละทิ้งของพวกอาจารย์แก่ๆ ที่ยังจมปลักดักดานอยู่กับความคิดซ้ายที่โบราณและล้าสมัยแล้วเท่านั้นเอง
ลึกๆ ผมสงสารนักศึกษาธรรมศาสตร์กลุ่มนี้มากนะ เสียดายที่พวกเขาไม่ได้เจอครูที่ดีที่นั่น ขอได้โปรดอย่าแสดงความชิงชังสมน้ำหน้าเด็กพวกนี้ ควรมองว่าพวกเขาคือเหยื่อและเบี้ยทิ้งขว้างของพวกอาจารย์เฒ่าสารพัดพิษต่างหาก”
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น เปิดลึก 32 ส.ส. กางไทม์ไลน์ชัดๆ เพื่อไทยเกี่ยวม็อบ 4 วันติดๆ พบอ้างมติพรรค?
เนื้อหาระบุว่า จากที่ สนธิญา สวัสดี ยื่น กกต.เพื่อพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย กรณี ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือ แอมมี่ บอตทอมบลูส์ โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงพรรคเพื่อไทย ว่า สนับสนุนการเงินในการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองนั้น
ต่อมา วานนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีของ นายสนธิญา ที่ไปยื่น กกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทย โดยระบุบางช่วงว่า
“...นายสนธิญา ได้นำเพียงข้อความบนเฟซบุ๊กของนายไชยอมร ไปร้องขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย เป็นการดำเนินการที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เพียงพอก่อนนำไปร้อง แต่กลับนำข้อความหรือคำพูดดังกล่าวไปร้องต่อ กกต.ทันที แสดงให้เห็นว่า นายสนธิญา มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็จะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับนายสนธิญา เช่นกันตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 101
พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยและต่อสู้กับอำนาจเผด็จการมาโดยตลอด แต่พรรคก็ยึดหลักสันติวิธี ไม่นิยมการใช้ความรุนแรงใดๆ และพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่า ไม่เคยมีนโยบาย หรือให้เงินทุนสนับสนุนผู้ชุมนุมกลุ่มใด แต่ด้วยความเป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกจำนวนมาก การที่จะมีสมาชิกพรรคคนใดไปร่วมชุมนุม หรือสนับสนุนการชุมนุมก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลและความรับผิดชอบส่วนตัว ที่ผ่านมา ไม่เคยมีสมาชิกผู้ใดไปกล่าวอ้างว่ากระทำในนามพรรค
นั่นคือ ถ้อยแถลงของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาปฏิเสธให้เงินทุนสนับสนุนการชุมนุม ตามที่ แอมมี่ โพสต์เฟซบุ๊ก ซึ่งจากข้อความเนื้อหานั้น ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า พรรคไม่ได้ปฏิเสธว่า มีการกระทำเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยชี้ให้เห็นว่า สมาชิกคนใดไปร่วมชุมนุมหรือสนับสนุนก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล
ดังนั้น ทีมข่าวเดอะทรูธ จึงอยากพาย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว อันปรากฏการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทยเกี่ยวโยงกับผู้ชุมนุมตามไทม์ไลน์อย่างน่าสนใจยิ่ง ดังนี้
14 สิงหาคม 2563 ที่รัฐสภา นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร พร้อม ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงถึงการชุมนุมแต่ละจังหวัด ว่า พรรคเพื่อไทยได้มีมติให้ตัวแทน ส.ส.เขตในจังหวัดนั้นๆ เข้าไปดูแลประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทันที
“หากมีการชุมนุม โดยช่วยดูแลความสงบและความปลอดภัยให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ พรรคเพื่อไทยตระหนักถึงการชุมนุมของนักศึกษา ว่า ได้ขยายตัวมากขึ้น จึงได้ให้ ส.ส.แต่ละพื้นที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นทางการ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง เพราะถือเป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎรในพื้นที่ พรรคเพื่อไทย ยังได้ทำหนังสือรับรองเงินเดือน หากนิสิตนักศึกษาถูกจับกุม พรรคเพื่อไทยพร้อมจะเข้าไปประกันตัวทันที”
เมื่อถามย้ำว่า กรณีนักศึกษาที่จัดชุมนุม พูดถึงเรื่องสถาบัน พรรคเพื่อไทยจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบ ใครพูดอะไรก็พูดไป เราไม่มีสิทธิไปบังคับ เพราะเราแค่เข้าไปดูแลความปลอดภัย ความเรียบร้อยและสังเกตการณ์และแจ้งข้อมูลมายังอนุกรรมาธิการการปกครองเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน จำนวน 32 คน (ด้วย)...
6 สิงหาคม 2563 ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในขณะนั้น พร้อมด้วย นายสมคิด ร่วมประชุมแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในช่วงเย็นวันที่ 16 ส.ค.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดย นายสมคิด กล่าวว่า เราห่วงใยสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษาและประชาชน ในฐานะที่เรามาจากประชาชนจะนิ่งดูดายไม่ได้ วันนี้คณะทำงานติดตามการชุมนุมแต่ละจังหวัด จะเข้าไปดูแลสถานการณ์การชุมนุมในทุกพื้นที่ ซึ่งการทำงานครั้งนี้ ทำภายใต้กติกาของสภาไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
“เรากลัวเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ จึงทำหนังสือไปถึง ผบ.ตร.ว่า คณะทำงานฯจะเข้าพื้นที่การชุมนุมเพื่อสังเกตการณ์ โดยจะไปตั้งโต๊ะบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยระหว่าง ถนนดินสอ-ซอยราชดำเนินกลางเหนือ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. หากนิสิตนักศึกษาโดนละเมิดสิทธิ สามารถเข้ามาแจ้งได้ โดย ส.ส.กทม.ของพรรคเพื่อไทยจะไปรออำนวยความสะดวก และประสานให้ความช่วยเหลืออยู่ในจุดที่มีผู้ชุมนุม จากนั้นจะแจ้งสถานการณ์เข้ามาที่คณะทำงานต่อไป” นายสมคิด กล่าว
18 กันยายน 2563 ที่รัฐสภา นายสมคิด แถลงจากการที่คณะทำงานฯ ได้ลงพื้นที่ติดตามการชุมนุมของนิสิต นักศึกษา ประชาชน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ถนนราชดำเนิน เห็นว่า ควรดำเนินการประสานงานเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ ดังนั้น ในการชุมนุมวันที่ 19 กันยายน ที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-สนามหลวง
คณะทำงานฯได้รวบรวมอาสาสมัคร ได้แก่ ส.ส.กทม. ส.ส.ทางภาคอีสาน ผู้ช่วย ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และผู้สนใจ รวมถึงส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านบางส่วน ที่ลงทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่แล้วกว่า 80 คน โดยจะจัดตั้งเต็นท์ศูนย์อำนวยการติดตามการชุมนุมบริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม ใกล้สนามหลวง เพื่อคอยประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงจะมีแถลงข่าวรายงานความคืบหน้าของเหตุการณ์ 3 ช่วงเวลา ได้แก่ 11.00 น. 14.00 น. และ 16.00 น. โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายสมคิด ยังกล่าวอีกว่า ทางเต็นท์ศูนย์อำนวยการฯ ได้จัดเตรียมเอกสารสำหรับการประกันตัวนิสิต นักศึกษา หากถูกดำเนินคดี โดยมีหลักการคือจะต้องเป็นนิสิต นักศึกษาที่ชุมนุมอยู่ในที่ชุมนุม หรือกรณีที่หากถูกดำเนินคดีแล้วไม่มีผู้ปกครองหรือครูอาจารย์มาช่วยเหลือ เราก็จะรับดำเนินการ
19 กันยายน 2563 คณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมฯ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายสมคิด พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้เปิดศูนย์อำนวยการบริเวณศาลฎีกา ด้านข้างสนามหลวง เพื่อสังเกตการณ์สถานการณ์การชุมนุมใหญ่ทางการเมือง และเพื่อเป็นคนกลางประสานงานระหว่างรัฐกับประชาชนต่อการบังคับใช้กฎหมาย
พร้อมจัดทีมลงพื้นที่ตามจุดต่างๆ ในการชุมนุมพร้อมเรียกร้องให้ตำรวจอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุม หลังพบอุปสรรคของผู้ชุมนุมต่างจังหวัดที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เมื่อค่ำวันที่ 18 กันยายน
ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาลในพื้นที่ คณะทำงานฯ เห็นว่า ภาคีนักศึกษาศาลายา จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดจุดบริการรักษาพยาบาลข้างสนามหลวงรองรับไว้แล้ว แต่ยังกังวลถึงการบริหารจัดการภายในของกลุ่มผู้ชุมนุมเอง หากมีประชาชนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเวลาประมาณ 16.00-17.00 น. จึงได้ประสานกับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน เตรียมลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์เพิ่มเติม นำโดย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน
แน่นอน, สิ่งที่นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นมาตลอด และวันนี้เริ่มชัดเจนขึ้น ก็คือ มีขบวนการซ้ายสุดโต่ง หรือต้องการล้มเจ้าอยู่เบื้องหลังการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน ของ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บางกลุ่ม นำโดย กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยเฉพาะที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลับธรรมศาสตร์หลายคน
จนทำให้นักศึกษาจำนวนมากที่เป็นแกนนำม็อบ ถูกจับดำเนินคดีคนละหลายคดี รวมถึงคดีตามกฎหมายอาญา ม.112 ทั้งยังเป็นการทำความผิดซ้ำหลายครั้ง หรือแทบทุกครั้งที่จัดชุมนุม นี่คือ สิ่งที่ทำให้ อ.สุวินัย เห็นว่า นักศึกษาเหล่านี้ หมออนาคตไปแล้ว
ยิ่งกว่านั้น ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า พวกเขาเป็นแค่เหยื่อและเบี้ยทิ้งขว้าง ของพวกอาจารย์เฒ่าสารพัดพิษเท่านั้น เมื่อ “วงใน” พูดเช่นนี้ ก็น่าเชื่อถือในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ความจริง หลายคนก็เห็นใจนักศึกษากลุ่มนี้ แต่หลายคนก็สุดทนและเอือม กับท่าที พฤติกรรม ที่จาบจ้วงล่วงละเมิดผู้หลักผู้ใหญ่ไปหมด โดยเฉพาะกับสถาบัน ซึ่งยากที่จะให้อภัย และทำให้คนไทยเชื่อด้วยว่า ไม่เพียงแค่ถูกมอมเมาให้หลงผิดเท่านั้น อาจมีปัจจัยอื่นล่อใจ เช่น ผลประโยชน์อื่นๆ จากคนที่อยู่เบื้องหลัง เพราะเพียงแค่อุดมการณ์ทางความคิด ไม่น่าที่จะห้าวหาญ รุนแรงถึงเพียงนี้ ถ้าไม่มีใครบงการ เสนอผลประโยชน์แลกเปลี่ยน? อย่างที่เริ่มมีการแฉออกมา
ส่วนกรณี พรรคเพื่อไทย มีส่วนร่วมสนับสนุนม็อบหรือไม่ ในทางพฤติกรรม ก็อาจแอบอ้างได้ว่า ไปในฐานะตัวแทนประชาชน ตามหน้าที่ และเพื่อสังเกตการณ์เท่านั้น ซึ่งเมื่อถูกร้อง กกต. ก็เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะพิจารณาต่อไป ว่า ข้อมูลรายละเอียดเหล่านี้เพียงพอที่จะไต่สวนเพิ่มเติมหรือไม่
แต่ที่น่าคิดก็คือ ในช่วงที่มีการตั้ง 32 ส.ส.เพื่อไทย ให้ติดตามเรื่องนี้ และเข้าไปสังเกตการณ์ รวมทั้งช่วยเหลือให้ประกัน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการระดม “คนเสื้อแดง” ในพื้นที่ ส.ส.เข้าร่วมกับ ม็อบคณะราษฎร 2563 หรือ ม็อบสามนิ้ว จนทำให้มีจำนวนประชาชนเข้าร่วมม็อบจำนวนมาก และเป็นมวลชนหลักให้กับม็อบสามนิ้วด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พรรคเพื่อไทยจะมีการเคลื่อนไหวอย่างสอดรับกัน หรือพูดง่ายๆ ก็เพราะพรรคเพื่อไทย หรือไม่ ที่ทำให้ “คนเสื้อแดง” เข้าร่วมชุมนุมกับม็อบสามนิ้ว จำนวนมาก?
เหนืออื่นใด หวังว่า พรรคเพื่อไทย จะไม่คิดว่า คนอื่นกินหญ้ากันหมด รอดู กกต.จะว่าอย่างไรก่อนก็แล้วกัน!?