“กฤษดา” ทายาทตระกูลดัง ขู่อาฆาต “ตระกูลโกสิยพงษ์” เพียงเพราะ รักและเชิดชูสถาบันฯ “ช่อ” อ้าง ตร.ทำเกินกว่าเหตุ? ขณะ “โบว์” งัดหลักฐานชัด “หมู่เบส” ถูกผู้ชุมนุมทำร้าย “เด็กกล้า” จวก “คณะทอน” บิดเบือนความจริง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (13 ก.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น “กฤษดา” คนตระกูลดัง ประกาศขู่อาฆาต “ตระกูลโกสิยพงษ์” เพียงเพราะรักและเชิดชูสถาบันฯ
โดยระบุว่า กำลังเป็นประเด็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล หลังจาก “นายกฤษดา อัคคะประชา” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในทำนองข่มขู่ “ตระกูลโกสิยพงษ์” ซึ่งหลายคนรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเป็นนามสกุลของ “นายชีวิน โกสิยพงษ์” หรือ “บอย โกสิยพงษ์” นักแต่งเพลง นักร้อง และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เพียงเพราะ ตระกูลโกสิยพงษ์ รักสถาบันฯ
นายกฤษดา โพสต์ว่า “โกสิยพงษ์ นี่คือ ตระกูลหนึ่งที่ต้องขึ้นบัญชีหนังหมาไว้ ประชาชนมีอำนาจเมื่อไหร่ต้องจับทำนา รวมทั้งโคตร…ล่าสุด ญาติไอ้บอย โก ที่อยู่แวนคูเวอร์ แชร์ sake news จาก ดร.อานนท์ ลูกบิด แถเรื่องโอนสำนักงานทรัพย์สิน เข้ามาใน FB group ของ condo strata
แล้วในกลุ่มนี้ เขาโพสต์แต่เรื่องปัญหาธุรกิจเกี่ยวกับคอนโดที่อยู่อาศัย แล้วคือ members มีแต่คนที่อยู่ในคอนโด และเป็นคนต่างชาติทั้งหมด ยกเว้นมีพี่คนไทยอีกคน ที่เป็นฝั่งสามกีบ…เสร่อมาก เกลียดมากพวกชะเลียระบอบเผด็จการ แต่ไม่ยอมกลับไปอยู่เป็นฝุ่นใต้ตีน ใต้ร่มพระบารมีเนี่ย”
ต่อมา “ปราชญ์ สามสี” ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจาก นายกฤษดา ค่อนข้างมีแนวคิดที่แปลกผิดปกติ เกินจะรับได้ โดยมีรายละเอียดว่า
“(“กฤษดา” ปัจจุบันอยู่ที่แคนาดา) ลูกหลานตระกูล อัคคะประชา (ยาขมตราใบห่อ) จะไปไล่ล่า ตระกูลโกสิยพงษ์ …เพียงเพราะเขารักในหลวง และ แชร์ข้อมูลอธิบายเรื่องสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์น่ะรึครับ
เอาความจริงมาสู้สิครับ หากไม่เชื่อเรื่องข้อมูลของ ดร.อานนท์…หรือว่า จริงๆ ไม่มีความรู้สู้ ดร.อานนท์ ครับ
อย่าไปเที่ยวกล่าวหาใคร ด้วยความเกลียดชังแบบนั้นแบบนี้เลยครับ มีปัญหาอะไรส่วนตัวที่แวนคูเวอร์ ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรเอาความเกลียดชังส่วนตัวไปลงที่สถาบันหลักของชาติ
มนุษย์มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ทาส …อย่าไปเที่ยวบังคับใครใช้แรงงานทาสด้วยการทำนารวมเลยครับ
บรรพบุรุษก็ดี…มาเสียรุ่นลูกหลานนี่แหล่ะครับ”
อย่างไรก็ตาม ปราชญ์ สามสี ยังได้ทิ้งท้ายด้วยว่า “อยากให้ความเป็นธรรมกับตระกูลอัคคะประชา เพราะบางคนก็ดี แต่บางคนก็ร้าย…. แต่ เราก็ควรให้ความเป็นธรรมกับตระกูลอื่นๆ ที่ นายกฤษดา อัคคะประชา ไปคุกคามเขาแบบเหมารวมนะครับ…เพราะพวกเขาไม่ได้ไปทำร้ายใครเลย….”
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น “ช่อ” โอ๋ทะลุแก๊ส อ้าง ตร.ทำเกินกว่าเหตุ? ขณะ “โบว์” งัดหลักฐานชัด “หมู่เบส” ถูกผู้ชุมนุมทำร้าย!!
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ หรือ “หมู่เบส” ผบ.หมู่กองร้อยที่ 1 กก.คฝ.2 บก.อคฝ.ช่วยรายการ บก.น.9 ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน กลุ่มเยาวรุ่น “ทะลุแก๊ส” ในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยขณะเกิดเหตุ “หมู่เบส” ได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่พลคุ้มกันหัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็ว และได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา จนตนเองได้รับบาดเจ็บ โดนกลุ่มทะลุแก๊สตอบโต้กลับ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ทำให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีกถึง 5 นาย
ล่าสุด ช่อ พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าที่กฎหมายให้ ทำมานานหลายวันแล้วด้วย ผู้ชุมนุมเจ็บทุกวัน โดนจับทุกวัน แต่เมื่อเกิดการปะทะจนมีตำรวจบาดเจ็บกลับมากล่าวโทษผู้ชุมนุม ให้ข้อมูลข้างเดียว ตำรวจพิทักษ์ทรราชแท้ๆ
พร้อมทั้งโพสต์ข้อความต่อว่า ตำรวจแถลงว่า ถูกผู้ชุมนุมรุมล้อมรถ เลยขับรถหนี จนเฉี่ยวชนคน
1. ในคลิปไม่เห็นเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมรุมทำร้ายรถตำรวจ ต่อให้มีเหตุจริงก็ไม่ใช่เหตุผลที่ตำรวจสามารถขับรถพุ่งชนคนได้
2. หลังชนผู้ชุมนุมอย่างแรง ตำรวจไม่แม้แต่จะหยุดรถ กลับขับต่อไปทันที เท่ากับชนแล้วหนี?
ในขณะที่ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ระบุว่า ตามข่าวแพทย์วินิจฉัยว่า #หมู่เบส มีเลือดออกในสมอง กระดูกเบ้าตาขวาแตก มีแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าและตาขวา ใช้เวลาในการผ่าตัดกว่า 8 ชั่วโมง และตอนนี้ผู้ป่วยยังไม่สามารถหายใจเองได้ เบื้องต้นได้รับการยืนยันว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บยังมีอาการสาหัส อยู่ในขั้นโคมา โดยผู้บาดเจ็บยังหายใจเองไม่ได้
และยังโพสต์ข้อความต่ออีกว่า ช่วยกันหยุดส่งเสริมความรุนแรง “ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม” ค่ะ
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์กรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ผมขอเรียกร้องให้รัฐสภา ในฐานะองค์กรสูงสุดที่ทำหน้าที่ผู้แทนประชาชน สอบสวนการกระทำเกินขอบเขตของเจ้าหน้าที่รัฐ
และการละเมิดเสรีภาพสื่อมวลชน ที่เกิดขึ้นระหว่างการปราบปรามการชุมนุมที่ดินแดงเมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา โดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยให้รัฐลุแก่อำนาจ กระทำกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศแบบนี้อีก” อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกล ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงเจ้าหน้าที่ คฝ. และมีการกล่าวหาว่า ทำหน้าที่เกินกว่าเหตุ ระวังประชาชนจะไม่ทน
ทำให้วันนี้ นายธันวา ไกรฤกษ์ สมาชิกพรรคกล้า ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้เรื่องนี้ ว่า นานมาแล้วที่ไม่ได้เขียนถึง คุณธนาธร แต่เนื่องจากเห็นว่า แถลงการณ์ของคณะก้าวหน้าเมื่อวานนั้น มีพฤติกรรมเดิมๆ อีกแล้ว คือ พยายามสร้างวาทกรรม สร้างความเกลียดชังในสังคม “หยุดใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่ง อย่าให้ไฟแค้นของประชาชนลุกลามทั้งแผ่นดิน”
“ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซึ่งกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน กำลังดำเนินไปอย่างโหดเหี้ยม อำมหิต ป่าเถื่อนถึงที่สุด”
“ภาพการสลายชุมนุมที่รุนแรงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ประจานประเทศไทยต่อสายตาชาวโลกมาตลอดหลายสัปดาห์”
ตัวอย่างประโยคเหล่านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของถ้อยคำประดิดประดอยบิดเบือนความเป็นจริง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับม็อบที่คุณสนับสนุนอยู่ หาใช่ข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชน ผมได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมมาโดยตลอด ประกอบกับผมเองเรียกร้องให้รัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ลาออก มาอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า จิตใจผมไม่ได้พิกลพิการไปเข้าข้างตำรวจแน่นอน แต่มาจากความไม่สบายใจ ไม่อยากเห็นสังคมต้องผิดเพี้ยนจากคำโอ้โลมที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น
ซึ่งสิ่งที่ปรากฏผ่านคลิปวิดีโอและสื่อต่างๆ นั้น คือ ฝั่งผู้ชุมนุมได้มีพฤติกรรมยั่วยุในทุกครั้ง และทุกวันที่ออกมาชุมนุม มีการจุดพลุ จุดประทัด ปิดล้อมโรงพยาบาล/สถานที่ราชการ/และบ้านเรือนประชาชน กีดขวางการจราจร เทเศษวัสดุสิ่งของลงบนท้องถนน และหลายคนก็พกอาวุธ..หาใช่ฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐพยายามใช้ความรุนแรง ดังข้อความที่คณะก้าวหน้าได้แถลงแต่อย่างใดไม่ !!
แม้ผมจะเสื่อมศรัทธากับองค์กรตำรวจและรัฐบาลนี้มากเพียงใด แต่ความจริงก็คือความจริง จึงยอมให้ใครมาบิดเบือนไม่ได้ เพราะชาติไม่อาจไปถึงสิ่งที่ดีกว่าด้วยวิธีการผิดๆ ตรงกันข้ามมีแต่จะยิ่งแย่ลง
ดังนั้น ขอให้ผู้ที่กำลังพยายามจุดกระแสสร้างความแตกแยกเกลียดชัง หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ก่อนจะลุกลามบานปลายเหมือนเหตุเผาบ้านเผาเมืองเมื่อในอดีต ซึ่งสุดท้ายแล้วไม่มีใครเป็นผู้ชนะเลย จนถึงทุกวันนี้ ความสูญเสียมันก็ยังคงอยู่ ไม่ได้หมายถึงวัตถุสิ่งของ แต่มันคือความสุขสงบ ความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ที่ถูกทำลายไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับโพสต์ของนายธนาธรนั้น มีคนเข้าไปคอมเมนต์ถามด้วยว่า ภาพที่คุณเอาประกอบเพื่อให้มองว่า เป็นเจ้าหน้าที่ทำกับม็อบ แท้ที่จริงแล้วภาพนี้เขาหล่นลงมาเอง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทำ ข่าวออกโครมๆ คุณต้องการบิดเบือน แต่เขารู้ทันคุณแล้ว และอีกหลายๆ คอมเมนต์ที่มองว่า นายธนาธร ควรหยุดประดิษฐ์คำพูดได้แล้ว ฝ่ายม็อบทำขนาดนี้ ทำไมยังปกป้อง
แน่นอน, สิ่งที่เห็นได้ชัดทั้งในประเทศไทย และคนไทยในต่างประเทศ ก็คือ ความขัดแย้งแตกแยก อันเนื่องมาจากมีขบวนการปลุกปั่นต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือ ที่เรียกกันว่า “ขบวนการล้มเจ้า” แม้ว่า จะอ้างเพื่อ “ปฏิรูปสถาบัน” ก็ตาม
และที่เห็นได้ชัดตามมาก็คือ การ “ล่าแม่มด” ผู้เห็นต่าง การแบนผู้เห็นต่าง การข่มขู่อาฆาตมาดร้าย ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ นั่นเท่ากับ เป็นการมองคนเห็นต่าง เป็นศัตรู และเป็นคู่อาฆาตเลยทีเดียว? ซึ่ง ก่อนหน้านี้ เป็นฝ่าย “ล้มเจ้า” ที่ปกป้องตัวเอง ด้วยคำพูดว่า ให้เคารพคนเห็นต่าง แต่วันนี้กลับกลายเป็นว่า ฝ่าย “ล้มเจ้า” เอง ที่แสดงออกในลักษณะข่มขู่คุกคาม ข่มเหงบังคับ ให้คนไทยส่วนใหญ่เห็นด้วย กับแนวคิดของพวกตน
แล้วก็ไม่ต้องสงสัย “ตระกูลโกสิยพงษ์” กำลังตกเป็นเหยื่อ!
นอกจากนี้ ยังเห็นได้ชัดเช่นกันว่า “ขบวนการม็อบสามนิ้ว” และสารพัดม็อบ ล้วนเกิดจากทฤษฎีสมคบคิด เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เปลี่ยนแปลงการปกครอง และเปลี่ยนแปลงประเทศ แม้ว่า จะเริ่มจากการ “ใช้เด็ก” เป็นด่านหน้า และออกหน้า แต่ตอนหลังเริ่มเห็นแล้วว่า “ไผเป็นไผ”
พวกเขาเชื่อว่า ถ้าคนรุ่นใหม่ถูกเปลี่ยนแปลงทางความคิด และพร้อมลุกขึ้นมาต่อสู้ ความรุนแรงจากการปราบปรามคนรุ่นใหม่ จะทำให้คนรุ่นเก่าที่เป็น พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายจะลุกฮือออกมาช่วยลูกหลาน ชนิดตัดกันไม่ขาด จน “ผู้มีอำนาจ” อยู่ไม่ได้ เหมือนที่บางคนเคยพูดเอาไว้แล้ว
เพียงแต่ที่สังคมไทยเห็นอยู่ในเวลานี้ มันไม่ใช่คนรุ่นใหม่ในความหมายของ “ยุทธศาสตร์” แต่มันคือ แก๊งทะลุแก๊ส ป่วนเมือง และจ้องที่จะปะทะกับตำรวจ คฝ.เพื่อความสะใจ รวมทั้งยกระดับการใช้อาวุธรุนแรงในการต่อสู้ อย่างที่ ตำรวจ คฝ.ได้รับบาดเจ็บสาหัส
จนมีคำถามตามมาว่า กลุ่มการเมืองบางคณะ นักการเมืองบางพรรค ที่ยังคงสนับสนุน ถือหาง ยุยงปลุกปั่น ประดิษฐ์วาทกรรมบิดเบือนความจริง ช่วยกลุ่ม “ทะลุแก๊ส” ทั้งที่ใช้ความรุนแรง ต้องการอะไรกันแน่? หรือว่านี่คือ การต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการจะบอกกับสังคมไทย
และคิดดีแล้วหรือ ว่า คนไทยชอบวิธีการแบบที่กลุ่มทะลุแก๊สกำลังทำอยู่ หรือว่า ไม่สนใจว่าคนไทยจะคิดอย่างไรอีกแล้ว!?